X

แต่งไทยไปเที่ยวอยุธยากันเถอะ

พระนครศรีอยุธยา-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดกิจกรรมส่งเสริม SOFT POWER เบิกฟ้าอโยธยา ย้อนเวลาไปกับ “พรหมลิขิต” ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับ ช่อง 3 ถอดบทเรียนหาแนวทางผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ผ่านละคร ด้านยอร์จ ฟอลคอน-แม่ปราง-เพิ่ม พาชมความงามวัดไชยวัฒนารามยามราตรี ให้คนรุ่นใหม่รักศิลปวัฒนธรรมและท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สร้างรายได้แก่ชุมชนและประเทศ

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 ที่ อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมส่งเสริม SOFT POWER เบิกฟ้าอโยธยา ย้อนเวลาไปกับ “พรหมลิขิต” โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และคณะ ให้การต้อนรับ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม อธิบดีกรมศิลปากร นายกสมาพันธ์วิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ผู้จัดละครพรหมลิขิต ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม สื่อมวลชน และแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธีเปิดในครั้งนี้

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร เปิดเผยว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีโบราณสถานในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อพุทธศักราช 2534 ในแต่ละปี มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวหลายล้านคน ก่อให้เกิดรายได้นับหมื่นล้านบาทต่อปี แต่เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบายและระยะทางที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯไม่มากนัก ทำให้นักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนไม่มากเท่าที่ควร ซึ่งจังหวัดได้ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง การที่กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรม “ราตรีนี้..ที่วัดไชยวัฒนาราม” เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมโบราณสถานในยามค่ำคืน ทำให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จึงนับเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อย่างดี

นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยถึงการส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ว่า “ประเทศไทยมีมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่สามารถนำมาต่อยอดเพื่อสร้างเป็นมูลค่าเพิ่ม ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญและโดดเด่นกว่าประเทศใด โดยจากกระแสของละคร พรหมลิขิต ที่ได้ออกอากาศทั้งในประเทศและสตรีมไปในหลายประเทศ ได้มีการเผยแพร่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมประเพณีของไทยให้ผู้ชมได้เห็นและซึมซับความรู้สึกดี ๆ สามารถกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศกลับมาเที่ยวแหล่งโบราณสถานของไทยอีกครั้งหนึ่ง โดยถือเป็นการต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ของไทยที่น่าจับตามองเพราะสามารถที่จะสร้างรายได้จำนวนมหาศาลให้กับประเทศไทย เป็นการเพิ่มมูลค่าของโบราณสถานที่มีอยู่ เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นก็เกิดรายได้ให้กับชุมชนอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมเองก็มีนโยบายที่ชัดเจนในการสนับสนุนเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว คือ “วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ” นำทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดทางเศรษฐกิจอย่างเหมาะสมยั่งยืน โดยการจัดงานในครั้งนี้ มีกิจกรรมอื่นๆ ประกอบด้วย การจัดเสวนาการส่งเสริม SOFT POWER ผ่านละคร “พรหมลิขิต” การแสดงและกิจกรรมทางวัฒนธรรม  การแต่งกายชุดไทยเข้าชมโบราณสถานยามค่ำคืน และกิจกรรมทางวัฒนธรรมอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมายอื่น เช่น ศิลปะ ดนตรี และออกแบบแฟชั่น อีกด้วย โดยในเบื้องต้นกรมศิลปากรจะดำเนินกิจกรรมนี้ในทุกวันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์และเทศกาลสำคัญเป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีจากนักท่องเที่ยวก็จะมีการขยายเวลาของกิจกรรมนี้ต่อไป และคาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นจุดหมายที่สำคัญแห่งใหม่ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอย่างแน่นอน

สำหรับกิจกรรมส่งเสริม Soft Power เบิกฟ้าอโยธยา ย้อนเวลาไปกับ พรหมลิขิต ชมวัดไชยวัฒนารามยามราตรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกิจกรรมการจัดเวทีเสวนาเพื่อถอดบทเรียนส่งเสริม Soft Power ผ่านละครพรหมลิขิต โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พี่หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์ ผู้จัดละคร และนักแสดงจากละครเรื่อง พรหมลิขิต นายเขมทัตต์ พลเดช นายกสมาพันธ์สมาคมวิชาชีพวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ และ นางสาวสุกัญญา เบาเนิด ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ร่วมงานเสวนา มี สายฝน ชีช้าง เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยมีนายชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซีเวิล์ด จำกัด (มหาชน) แม่ปราง พีพี-ปุญญ์ปรีดี คุ้มพร้อม ยอช ฟอลคอน โอม-คณิน สแตนลีย์ และ พ่อเพิ่ม รอน-ภัทรภณ โตอุ่น ประชาชนที่สนใจเข้าร่วม ณ อาคารเครื่องทองอยุธยา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการร่วมกันถอดบทเรียนที่สำคัญจากการผลิตและนำเสนอละคร พรหมลิขิต เพื่อที่จะนำมาปรับใช้เป็นแนวทางส่งเสริมและผลักดันผลิตภัณฑ์ด้านวัฒนธรรมไทยออกสู่ระดับสากล เพื่อสร้างการรับรู้ และเพิ่มการท่องเที่ยว อันจะส่งผลต่อการสร้างรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสู่ชุมชนทั่วประเทศอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เนื่องจากอุตสาหกรรมสื่อบันเทิง หรือ FILM อันได้แก่ละครโทรทัศน์ ซีรีส์ ภาพยนตร์ ฯลฯ เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถสร้างความสำเร็จในการผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ให้กับประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง

“พรหมลิขิต” เป็นภาคต่อของละครรักโรแมนติกอิงประวัติศาสตร์ “บุพเพสันนิวาส” นำแสดงโดย โป๊ป ธนวรรธน์ และ เบลล่า ราณี โดยผู้จัดฯ หน่อง อรุโณชา ภาณุพันธุ์ กำกับการแสดงโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร์ โดยออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3 ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เป็นตอนแรก โดย พรหมลิขิต ถือเป็นปรากฎการณ์ที่เป็นมากกว่าละคร เพราะได้รับความนิยมที่สูงตั้งแต่ตอนแรก และมีเรื่องราวเกี่ยวกับเอกลักษณ์ของความเป็นไทยสอดแทรกไปกับการดำเนินเรื่องของละคร ทำให้ผู้ชมได้ติดตามเรื่องราวที่สนุกสนานพร้อมกับความรู้สึกผูกพันกับความเป็นไทยอย่างไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องแต่งกายไทยสมัยอยุธยา อาหารไทย โบราณสถาน และที่สำคัญยังทำให้ผู้ชมเกิดความสนใจในประวัติศาสตร์ช่วงปลายอยุธยา ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าการท่องเที่ยวในสถานที่ที่เกี่ยวกับละครได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากตั้งแต่ละครเริ่มออกอากาศ โดยเฉพาะที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นต้นเรื่องของละคร นอกจากนี้ละครพรหมลิขิตยังมีการจำหน่ายลิขสิทธิ์เพื่อไปออกอากาศและสตรีมในแพลตฟอร์มของต่างประเทศกว่า 10 ประเทศ ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดีของการใช้คอนเทนต์และความบันเทิงเป็นเครื่องมือผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ให้เป็นที่แพร่หลายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากล อันเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงวัฒนธรรม

โดยการเสวนามีการกล่าวถึงประเด็นแนวทางการส่งเสริมจากภาครัฐ เพื่อให้สื่อบันเทิงอย่างละครสามารถผลิตผลงานสู่สากลได้มากขึ้น การทำงานและเบื้องหลังความสำเร็จของผู้ประกอบการและผู้จัดละครที่จะต้องผลิตคอนเทนต์ที่ทั้งต้องสนุกจนได้รับความนิยม และในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถที่จะเผยแพร่เรื่องราวความเป็นเอกลักษณ์ของไทยไปด้วย ให้กลายเป็นพลังละมุนที่จะทำให้ชาวต่างชาติเกิดความสนใจในประเทศไทยและต่อยอดให้เกิดรายได้แก่ประเทศต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล

รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต การเมืองการปกครองท้องถิ่น สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา ปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มทร.สุวรรณภูมิ ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา รางวัลพระราชทานเทพทอง สมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นักเรียนการแสดง รัชฟีล์มที่วี artspa ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์เคเบิลเอทีวี บรรณาธิการเจ้าของเพจสถานีข่าวเอทีวี นักเขียนอิสระ