X

อยุธยาจับยาบ้า 1.73 ล้านเม็ดกว่า 35 ล้านบาท

ผบช.ภ.1 ร่วมกับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ ปปส.ภาค 1 จัดแถลงข่าวจับกุมยาเสพติดเครือข่าย “เฮียเยะ  เชียงราย” ได้ของกลางยาบ้า 1.73 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 35 ล้านบาท สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือสู่ภาคกลาง

วันที่ 6 กุมภาพันธ์  2566  ที่ สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา  พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา สํานักงาน ปปส.ภาค 1 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายลําเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือ “เฮียเยะ เชียงราย” เพื่อนํามาจําหน่าย และแพร่กระจายในภาคกลางและภาคตะวันตก

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์  ที่ผ่านมา นายบุญหลง หรือ หลง ยานะนวล อายุ 42  ปี ลําเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง โดยใช้เส้นทางถนนสายเอเชีย จึงประสานให้ สภ.มหาราช ตั้งจุดสกัดที่ถนนสายเอเชีย กม.47 บริเวณหน้าตู้ยาม ต.02 สภ.มหาราช ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา ส่วนกําลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่เหลือ ได้วางกําลัง เฝ้าสังเกตุการณ์ตามเส้นทางหลักและรอง เพื่อจะสกัดกั้นการลําเลียงยาเสพติดในครั้งนี้

ต่อมา เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. ของวันเดียวกัน นายบุญหลงฯ และ นายสรวิชญ์ฯ ได้ขับรถตู้ของกลางที่ใช้บรรทุกยาเสพติดมาถึงจุดสกัดของ สภ.มหาราช เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเรียกให้หยุดและแสดงตนเข้าตรวจ ผลการตรวจค้นพบยาเสพติดของกลางซุกซ่อนอยู่ที่พื้นและเพดาน ของรถที่ทําเป็นช่องลับเพื่อซุกซ่อน พบ 1. ยาเสพติดยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 รวม 1,739,980 เม็ด 2.แฮปปี้ วอเตอร์(HAPPY WATER) ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ลักษณะเป็นผงสีน้ำตาลคล้ายกาแฟสําเร็จรูป แบบ ทรีอินวัน จํานวน 34 ซอง 3.อีลิมิน5(ERIMIN5) หรือ ไฟว์ ไฟว์ ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 จํานวน 1,690 เม็ด พร้อมรถยนต์และรถตู้ จำนวน 3 คัน 

ซึ่งยาเสพติดทั้งหมด หากนําไปจําหน่ายในท้องตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 35 ล้านบาท และสามารถจับกุม น.ส.กัญญารัตน์หรือ อ๊อฟ อุดม อายุ 33 ปี ทําหน้าที่ขับรถนําสํารวจเส้นทางการลําเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือเข้าสู่ภาคกลาง นายวิฑูรย์ สระทองขน อายุ 47 ปี ทําหน้าที่รับยาเสพติดต่อจากกลุ่มผู้ลําเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือแล้วนําไปส่งให้กับนักค้าในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก  น.ส.ณัฐชา กันดี อายุ 44 ปี ทําหน้าที่รับยาเสพติดต่อจากกลุ่มผู้ลําเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือแล้วนําไปส่งให้กับนักค้าในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก  โดยตั้งข้อหาร่วมกันจําหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทประเภท 2 โดยการมีไว้เพื่อจําหน่าย และเป็นการกระทําเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันปลอมหรือใช้เอกสารราชการปลอม(แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์)

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ต้องชื่นชมการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทุกนาย ที่ได้ประสานความร่วมมือกันและสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญรายนี้ พร้อมได้ของกลางจำนวนมาก มีมูลค่ารวมกว่า 35 ล้านบาท โดยได้ขยายผลไปยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย ยังมีของกลางอีกบางส่วนรอการตรวจพิสูจน์ ซึ่งก็เป็นไปตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงกลาโหม  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 ที่ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สนธิกำลังร่วมกันในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และให้เพิ่มความเข้มงวดโดยเน้นการเร่งรัดในการปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ค้าทุกรายให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว      

สำหรับ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย  พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1  ได้กำชับในการประสานการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการทำงานและให้เร่งรัดดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทุกรายในทุกมิติ ทั้งด้านการป้องกัน ปราบปราม การบำบัดรักษา อย่างจริงจังต่อเนื่อง นอกจากนี้ ได้ขยายผลไปตรวจยึดทรัพย์สินที่เชื่อว่าเกี่ยวเนื่องกับการกระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ของนายบุญหลงฯ กับพวก ในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยยึดทรัพย์สินไว้เพื่อทําการตรวจสอบเป็นทองแท่งและ ทองรูปพรรณ,รถแทรคเตอร์,รถบรรทุก,รถยนต์กระบะ และรถยนต์ตู้,เงินสด และบัญชีธนาคาร หลาย รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งจะได้มีการขยายผลตรวจสอบทรัพย์สิน และเส้นทางการเงินของเครือข่ายยาเสพติดนี้จนถึงที่สุดต่อไป

โดยการจับกุมครั้งนี้เป็นการบูรณาการ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1  ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ปปส.ภาค 1 และ ปปส.ภาค 5 ที่ได้ร่วมกันสืบสวนขยายผลจากการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญที่ถูกจับกุมในพื้นที่ทุกคดี จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล

รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต การเมืองการปกครองท้องถิ่น สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา ปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มทร.สุวรรณภูมิ ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา รางวัลพระราชทานเทพทอง สมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นักเรียนการแสดง รัชฟีล์มที่วี artspa ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์เคเบิลเอทีวี บรรณาธิการเจ้าของเพจสถานีข่าวเอทีวี นักเขียนอิสระ