พระนครศรีอยุธยา-ระทึกกลางดึก ตามง้อแฟนไม่สำเร็จตัดสินใจจ่อยิงดับคาร้านส้มตำก่อนยิงตัวเองตายตาม
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 10 ม.ค ร.ต.อ สุชาติ จำนงค์บุญ รอง สว.(สอบสวน) สภ. บางปะอิน สาขา สินทิวาธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เหตุเกิดบริเวณภายในร้าน ฮักจัง ส้มตำยำแซ่บ ม.2 ต. สามเรือน อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงพร้อม พ.ต.อ พิษณุ พราหมณ์เทศ รอง ผบก.ภ.จว พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ. บางปะอิน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน พิสูจน์หลักฐาน กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาและ มูลนิธิพุทไธสวรรย์
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายส้มตำ กลางร้านพบร่างผู้บาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย ชื่อ นส.นีรนุช เตชะวา อายุ 26 ปี เป็นชาว อ.คง จ.นครราชสีมา ถูกอาวุธปืนยิงที่บริเวณศีรษะด้านขวา อาการสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์และทีมแพทย์กู้ชีพโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทำการช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ใกล้กันยังพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ชื่อนายหาญณรงค์ โสปันหริ อายุ 28ปี ชาวตำบลโพนสูง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี มีแผลถูกอาวุธปืนยิงบริเวณปากพบอาวุธปืน ลูกซองไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุนปืน ตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน 
สอบถาม น.ส.วิไลลักษณ์ แสงสุวรรณ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน อยู่ในอาการตกใจ เล่าว่า ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้หญิงนั้นเป็นลูกจ้างร้านของตนเอง ขณะเกิดเหตุกำลังตำส้มตำให้ลูกค้าอยู่บริเวณภายในร้าน ซึ่งตอนนั้นมีลูกค้ามายืนซื้อส้มตำกันหลายคน ช่วงขณะเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้มาหาผู้ตายที่ร้าน แล้วก็มีปากเสียงกันเล็กน้อย ตนจึงห้ามปราบและให้ลูกค้าที่มาซื้อของช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาระงับเหตุ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมา จ่อยิงระยะเผาขนเข้าที่ศีรษะของผู้ตายจนล้มลง จากนั้นก็ส่ายกระบอกปืนไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเกี่ยว ตนเองและลูกค้าต่างจึงวิ่งหนีตายออกมาจากร้าน โดยยังได้ยินผู้ก่อเหตุพูดว่าไม่อยากถูกจับ สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก 1 นัด สิ้นเสียงปืนทุกคน จึงเดินเข้ามาดูก็พบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธปืนยิงกรอกปากตัวเองนอนเสียชีวิตข้างแฟนสาวแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุนั้นซึ่งเคยเป็นอดีตแฟนเก่าผู้ตาย และเลิกลากันไปแล้ว เคยมาง้อขอคืนดี และมีปากเสียงกับผู้ตายที่ร้านเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของความหึงหวง และ ให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายส่งชันสูตร ต่อไป
