X

คนแน่นบขส.กรุงเก่ารอกลับบ้าน

ถนนสายเอซียช่วงผ่านบริเวณหน้าศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มุ่งหน้าขึ้นเหนือการจราจรหนาแน่น ขณะที่ประชาชนจำนวนมากรอกลับบ้าน

พระนครศรอยุธยา-ประชาชนเดินทางกลับบ้านรถหนาแน่นตลอดทั้งคืน ขนส่งจังหวัดคุมเข้มเมาไม่ขับ พ่อเมืองกรุงเก่ากำชับอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์

กลางดึกวันที่ 29 ธันวาคม  การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนที่สถานีเดินรถอยุธยา   ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  พบว่ามีประชาชนจำนวนมากมารอโดยสายขึ้นรถสายเหนือ  โดยส่วนใหญ่จองตั๋วล่วงหน้า   เพื่อป้องกันไม่มีที่นั่ง  ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งคืนจะมีประชาชนมารอขึ้นรถโดยสารเดินทางกลับภูมิลำเนาตลอดทั้งคืน   ซึ่งทางขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา   นำโดยนางอัจฉรา เกษณียบุตร  ขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ได้นำเจ้าหน้าที่ขนส่งจำนวน 5 นาย  ตรวจความพร้อมของรถโดยสารประจำทางและตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอร์ ของผู้ขับรถโดยสารทุกคัน  พร้อมประชาสัมพันธ์การโดยสารรถให้ปลอดภัย

นางอัจฉรา เกษณียบุตร    กล่าวว่า   ทางขนส่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับชีวิตและทรัพย์สิน  ของผู้ใช้รถใช้ถนน  จึงมีความเข้มงวดกวดขัน ทั้งในด้านความพร้อมทั้งคนขับ และ สภาพรถที่ใช้โดยสารที่ใช้งาน  เพื่อป้องกัน การเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต  เอาจริง กับคนขับรถโดยสาร ต้องมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ในการขับรถ ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  สิ่งเสพติด ขณะขับรถ  สภาพร่างกายต้องมีความพร้อม  สมรรถนะของรถที่โดยสารต้องมีความปลอดภัยในการเดินทาง และไม่ขับรถเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด นอกเหนือจากการขับรถถูกกฏจราจรแล้ว  ควรมีน้ำใจในการขับขี่รถบนท้องถนนอีกด้วย

บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่  2561 ตลอดค่ำคืนวันที่ 28-29 ธค   ที่บริเวณถนนสายเอเชียมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ   กม.26 หน้าศูนย์ราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ปริมาณรถบนสายเอเชีย( สายเหนือ )  เริ่มหนาแน่น   ในบางช่วงมีการซ่อมแซมเส้นทางการจราจรถนนสายดังกล่าวทำให้การจราจรติดขัดเป็นบ้างช่วงรถยนต์ของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสู่ภาคเหนือต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากซึ่งสามารถใช้ความเร็วได้ประมาณ 80- 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ จะเน้นไปที่การมองพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชน หลังจากที่ผ่านมา จะพบจุดเสี่ยงกลายเป็นปัญหาเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงต้องแก้ปัญหามาอย่างต่อเนื่องและดีขึ้นตามลำดับ พร้อมกับเตรียมแก้ปัญหาในระยะยาวด้วย โดยเฉพาะชุมชนที่เป็นถนนสายรอง ซึ่งจะใช้มาตรการเมาขับจับยึดรถโดยจะเก็บรถไว้ประมาณ 3-4 วัน จึงมารับรถกลับได้  และตั้งเป้าหมายการดำเนินการในปี 2561 จะลดลงร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติเฉลี่ย 3 ปี ดังนั้น การเกิดอุบัติเหตุใหญ่จะต้องเป็นศูนย์

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล

สัมฤทธิ์ เจียมเจริญพรกุล

รัฐประศาสนศาสตร์บัณฑิต การเมืองการปกครองท้องถิ่น สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา ปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มทร.สุวรรณภูมิ ปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา รางวัลพระราชทานเทพทอง สมาคมนักวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นักเรียนการแสดง รัชฟีล์มที่วี artspa ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บรรณาธิการข่าวสถานีโทรทัศน์เคเบิลเอทีวี บรรณาธิการเจ้าของเพจสถานีข่าวเอทีวี นักเขียนอิสระ