3 ไอ้โม่งอาละวาดหนัก ยกทั้งคัน บ้านเดิม รถจักรยานยนต์หาย 2 รอบแล้ว
ชาวบ้านในละแวกอำเภอโป่งน้ำร้อนและอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรีหวาดระแวงไม่กล้าจอดรถจักยานยนต์ไว้นอกบ้าน เนื่องมาจาก ช่วงนี้ได้มีหัวขโมยสวมหมวกไอ้โม่งตระเวนก่อเหตุย่องเข้าไปขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ตามบ้านหายเงียบมีผู้เสียหายแล้วหลายราย
ล่าสุด นายวุฒิพงษ์ กัญญพิลา เจ้าของบ้านเลขที่ 55/23 หมู่ 5 ต.ทรายขาว อ.โป่งน้ำร้อน จันทบุรี ได้เข้าแจ้งความ ไว้ที่ สภ.สอยดาว ถูก 3 คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่งแอบย่องเข้ามาตัดโซ่ ยกรถจักยานยนต์ออกหายไป ก่อนที่จะย้อนกลับมาเพื่อจะยกไปอีกคัน แต่ลูกชายตนเอง ( นายดนุเดช กัญญพิลา )ได้ยินเสียงตื่นลุกขึ้นมาทันพอดี ทำให้หัวขโมยทั้ง 3 วิ่งหลบหนีหายไปในความมืด ตามไม่ทัน จึงได้เดินทางพร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดไปแจ้งความไว้ดังกล่าว
เพื่อให้เจ้าหน้าที่รีบออกติดตามสกัดจับนำรถกลับมา แต่ก็ไร้วี่แวว ผ่านไปได้เพียงแค่คืนเดียวก็ได้ทราบว่า ทั้ง 3 ไอ้โม่ง ได้ออกก่อเหตุย่องไปยกรถจักยานยนต์ที่จอดไว้หน้าสำนักงานบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งที่ตั้งห่างออกไปจากจุดแรกไม่ถึงกิโลเมตร
หลังผ่านมาหลายวันตนเองยังไม่สามารถติดตามรถได้คืนกลับมาจึงได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดทั้ง 2 เหตุการณ์เข้าร้องสื่อให้ช่วยแจ้งเบาะแสเพื่อติดตามคนร้ายทั้ง 3
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านคุณลุง วุฒิพงษ์ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าในคืนวันเกิดเหตุ ตนเองได้จอดรถจักรยานยนต์ของตนและของลูกชายรวม 2 คัน ไว้ที่หน้าบ้านข้างห้องนอนของลูกชาย ได้ล็อกคอรถและใช้โซ่มาคล้องล็อกล้อทั้งสองคันเพื่อป้องกัน 2 ชั้น
เนื่องจากที่ต้องทำแบบนี้เพราะก่อนหน้านี้รถของตนเองได้ถูกขโมยยกหายไป 1 รอบแล้ว แต่โชคดีที่มีพนักงานลากสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตบริษัทแห่งหนึ่งไปเจอรถตนเองจอดซุกไว้ในป่าหญ้าจึงได้คืนกลับมา มาครั้งนี้น่าจะเป็นคนร้ายชุดเดิม ที่อาศัยช่วงเวลาค่ำคืน แอบเข้ามาใช้คีมตัดเหล็กยกรถคันแรกของลูกชายออกไป ก่อนที่จะหวนกลับมาจะยกคันที่สองของตนเอง ซึ่งเป็นคันที่เคยหายไปแล้วได้คืน โชคดีลูกชายตื่นมาทันเสียก่อนคันนี้จึงไม่ถูกยกไปเป็นครั้งที่ 2 ผ่านไปได้คืนเดียวก็ได้ข่าวว่าทั้ง 3 คนร้ายได้ไปก่อเหตุดังกล่าว จึงได้ นำภาพวงจรปิดทั้ง 2 ที่มาร้องให้สื่อช่วย
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. สอยดาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรีทราบว่าได้พอจะรู้ตัว กลุ่มแก๊งคนร้ายนี้แล้วแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากกลุ่มคนร้าย มีทั้งคนไทยและคนต่างชาติกัมพูชาร่วมกันตระเวนก่อเหตุในพื้นที่ติดชายแดน ก่อนที่จะนำรถออกข้ามไปขาย และส่วนมากรถที่หายจะเน้นเป็นรถยี่ห้อฮอนด้าเวฟเกียร์ธรรมดา
