อดีต ผกก.คนดังเข้ามอบตัวสู้คดีแล้วโดยปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนกลุ่มผู้ต้องทั้ง 24 รายนั้นล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว 18 ราย
ผู้สื่อข่าว รายงานว่า จากกรณีที่มีการทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจพัทลุง จำกัด ไม่น้อยกว่า 1,450 ล้านบาท จนทางด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. และ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิระพันธ์ ผบก.อธ. นำทีมงานสอบสวนของ สตช. ลงพื้นที่คลี่คลายคดีดังกล่าวร่วมกับชุดสอบสวน ภ.9 และ ชุดสืบสวน ภ.จว.พัทลุง ต่อมาเมื่อตอนเย็นวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ทางพนักงานสอบสวนทั้ง 3 ชุด ได้รวมรวมเอกสารหลักฐานยื่นขอหมายจับต่อศาลจังหวัดพัทลุง เพื่อขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาในงวดที่ 1 จำนวน 24 คน ต่อมาเมื่อตอนสายวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ร.ต.ท.พันธ์ชัย (ขอสงวนนามสกุล) พร้อมพวกรวม 8 คน ได้เข้ามอบตัวกับชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทลุง โดยในเบื้องต้นทุกๆคนได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามในตอนเย็นวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ต้องหาอีก 5 คน ได้เข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง ประกอบด้วย (1)พ.ต.ท.วิเชียร(ขอสงวนนามสกุล) ( 2 ) ร.ต.อ.ธนเวทย์ (ขอสงวนนามสกุล) (3) นางสุพร (ขอสงวนนามสกุล) (4) นางสาวสุชาดา (ขอสงวนนามสกุล) (5) นางพรศรี (ขอสงวนนามสกุล) และ (6) น.ส.สุกัญญา (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งผู้เข้ามอบตัวทั้ง 14 รายนั้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อม ได้ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวคนละ 200,000 บาท ประกันตัวในตอนค่ำของวันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า ในตอนสายวันนี้(ที่ 7) กลุ่มผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวได้เดินทางเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนอีก 4 คน ประกอบด้วย (1) พ.ต.อ.ชำนาญ (ขอสงวนนามสกุล) (2) นางสาวอรชร(ขอสงวนนามสกุล) (3) นายไกรศิริ (ขอสงวนนามสกุล) และ ( 4) ดต.ชุณฐกฤตม์(ขอสงวนนามสกุล) โดยทั้ง 4 คนได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมยืนยันจะต่อต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป
ทางด้าน พ.ต.อ.ชำนาญ ฯ เผยกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ว่าในส่วนของตนที่เคยทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวนมาก่อนก็ต้องยอมรับว่าการดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ต้องหายังมีข้อบกพร่องและไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งตนนั้นเข้ามาทำหน้าที่ในสหกรณ์ฯถือว่าเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ราชการ ซึ่งอำนาจหน้าที่การสาอบสวนนั้นจะต้องเป็นของ ป.ป.ช. ดังนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการดำเนินคดีที่ถูกต้องด้วยกฎหมายหรือไม่
สำหรับการจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดในครั้งนี้เหมือนกับการเหวี่ยงแห แทนที่จะได้ปลาอาจจะได้แพะแทนก็ได้ โดยเฉาะข้อหาการปลอมแปลงเอกสารที่จัดทำบัญชีผีขึ้นมานั้น ตนยืนยันว่าตนไม่ได้เข้าไปมีส่วนรู้เห็นและมีส่วนร่วมแต่อย่างใด หากตนทราบเรื่องการตกแต่งบัญชีผีตนก็จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกระบวนการสหกรณ์ไปแล้ว การดำเนินการตามกฎหมายกับกลุ่มผู้ต้องหาที่กระทำความผิดที่เหมือนกันจำนวนหลายคน จึงเหมือนกับการเหวี่ยงแหจับปลาอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตามในฐานะที่ตนเคยเป็นพนักงานสอบสวนมากว่า 20 ปี ก็พพบว่ามีกระบวนการยุติธรรมอยู่มาก แต่บางครั้งก็มีความเป็นธรรมอยู่น้อยมาก และในฐานะที่ตนเคยเป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์มา 4 สมัย ซึ่งได้สร้างคุณูปการไว้กับสหกรณ์ฯอย่างมากกมายจะไม่หวั่นไหวกับการที่ต้องเป็นผู้ต้องหาในครั้งนี้ เพราะสมาชิกสหกรณ์ฯ พรรคพวกเพื่อนฝูง ย่อมรู้ดีว่าตนมีพฤติกรรมเป็นคนอย่างไร โดยเฉพาะในช่วงที่มาทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทลุงมากว่า 10 ปี ชาวบ้านเขารู้ว่าตนเป็นคนอย่างไร ตนมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมที่จะสามารถสร้างความเป็นธรรมให้กับตนได้ และตนขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และจะต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกระบวนยุติธรรมให้ถึงที่สุด
