จังหวัดพัทลุงเปิดเรียนวันแรก 297 โรง วัดอุณหภูมิของเด็กนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียนไม่พบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 และนักเรียนทุกคนสวมหน้ากากอนามัย นั่งเรียนเว้นระยะห่าง 1 เมตร ตามมาตราการนิวนอร์มอล ขณะที่การเรียนแบบออนไลน์ยังคงมีต่อไป และพร้อมช่วยเด็กที่มีไม่ระบบอินเตอร์เน็ต
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า วันที่ (1 กรกฎาคม 2563) บรรยากาศการเปิดการเรียนการสอนในเทอมแรกของปีการศึกษา 2563 เป็นไปอย่างคึกคักโรงเรียนพื้นที่จังหวัดพัทลุงจำนวน 297 โรงในเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 2 เขตการศึกษาจังหวัดพัทลุงทั้งระดับมัธยมและระดับประถมศึกษา เปิดให้มีการเรียนการสอนอย่างพร้อมเพรียงกัน ภายใต้มาตรการคุ้มเข้มการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 อย่างเคร่งครัด ซึ่งมาตรการดังกล่าวขึ้นอยู่ความพร้อมและการบริหารจัดการของแต่ละโรงเรียน แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดพัทลุงได้วางมาตรการไว้ “ตามมาตราการนิวนอร์มอล” หนึ่งในจำนวนนั้นคือโรงเรียนระดับมัธยม “โรงเรียนสตรีพัทลุง” อำเภอเมือพัทลุง บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่เช้า นักเรียนทยอยเดินทางเข้าบริเวณโรงเรียน ทันทีที่เข้าบริเวณโรงเรียนจะต้องตรวจสอบหน้ากากอนามัยอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ หากไม่มีหรือมีแต่สภาพใช้งานไม่พร้อมทางโรงเรียนมีบริการให้นักเรียนทันที จากนั้นต้องล้างมือเจลแอลกอฮอล์ พร้อมต้องวัดอุณภูมิของเด็กนักเรียนทุกราย ซึ่งจากการตรวจอุณภูมิของเด็กนักเรียนไม่พบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะเดียวกัน นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เข้าเยี่ยมเพื่อตรวจสอบมาตรการของโรงเรียน ช่วงเปิดเทอมวันแรก ตามที่คณะกรรมการควบคุมโคติดต่อจังหวัดพัทลุงได้วางมาตรการไว้ พร้อมกล่าวกับนักเรียนทุกคนต้องป้องกันตนเองและบุคคลอื่นโดยการมั่นล้างมือเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัย นอกจากนั้นยังให้คำแนะนำโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ของจังหวัดพัทลุงต้องมีระบบไทยชนะ
นางมาลี แก้วละเอียด ผู้อำนวยการโรงเรียนสตรีพัทลุง กล่าวว่าทางโรงเรียนมีความพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ สำหรับการเรียนการสอนทั้งครูและนักเรียนโดยทางโรงเรียนเข้มงวดและให้ครูและเรียนปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ตามมาตราคณะกรรมการควบคุมโคติดต่อจังหวัดพัทลุง ทางโรงเรียนจึงได้ทำการสอน 2 รูปแบบแบบออนไลน์ และแบบออนไซต์ โดยแบ่งนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนอย่างวันนี้มีเด็กนักเรียนโรงเรียนแค่ 2 ชั้นเรียนคือ ม.1 กับ ม.4 เรียกว่า “แบบออนไซต์” จากห้องละ 40 คน เหลือห้องละ 20 คน ส่วนเด็กนักเรียนที่ไม่มาในวันนี้จะเรียน “แบบออนไลน์” นอกจากนั้นจากการสำรวจพบว่านักเรียนที่แบบออนไลน์ มีฐานะยากจนไม่มีระบบอินเตอร์เน็ตจำนวน 95 ราย ซึ่งได้สนับสนุนเงินซื้ออินเตอร์เน็ตเดือนละ 200 บาท ให้กับนักเรียนกลุ่มดังกล่าวจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: