X

กำนันสาวสองพร้อมเพื่อนชายคนสนิทดับปริศนาคารถ  คาดถูกวางยาพิษ

ราชบุรี  ในวันนี้ ( 18 เม.ย.67 ) ร.ต.อ.สุรชัย บุญอินทร์  ร้อยเวรสภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งเหตุว่า พบชาย 2 คน นอนฟุบอยู่ในรถยนต์ มีเลือดและน้ำลายไหลออกจากปาก ที่บริเวณลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีอเลฟเว่น หนองอ้อ) ริมถนนคลองชลประทานหัวโป่ง-ดอนกระเบื้อง หมู่ 7 ต.หนองอ้อ จึงรายงานให้  พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ  ผกก.สภ.บ้านโป่ง  ให้ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน   เจ้าหน้าที่สายตรวจ   แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านโป่ง และเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจการกุศลราชบุรี   ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว  หมายเลขทะเบียน กน 8945 ราชบุรี จอดติดเครื่องอยู่ ภายในรถพบชาย 2 คน นอนฟุบอยู่บนเบาะนั่งคนขับ และเบาะนั่งด้านซ้าย ทราบชื่อต่อมาคือ นายพงษ์ศักดิ์   บัวคำ  อายุ 46 ปี  เป็นสาวประเภทสอง  และมีตำแหน่งเป็นกำนันตำบลสวนกล้วย อยู่บ้านเลขที่ 9/9 หมู่ 8 ต.สวนกล้วย อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และนายศุภเสษ ศุภศักดิ์อนันต์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน ทั้งสองอยู่ในสภาพหายใจรวยรินมีน้ำลายฟูมปากและมีเลือดไหลออกจากปากและจมูก

        ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิรวมใจและหน่วยกู้ชีพ ช่วยกันนำร่างคนทั้งสองออกจากรถมาทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากนั้น รีบนำส่ง รพ.บ้านโป่ง  ให้แพทย์ช่วยเหลือชีวิต  แต่ทั้งนายพงษ์ศักดิ์ และนายศุภเศษ ได้เสียชีวิตต่อมา

สำหรับ นายพงษ์ศักดิ์ หรือกำนันหนึ่ง  ได้รับการเลือกตั้งเป็นกำนันตำบลสวนกล้วย มานานกว่า 8 ปี ซึ่งตัวของกำนันหนึ่งนั้น ร่างกายเป็นผู้ชาย แต่มีจิตใจเป็นผู้หญิง โดยได้คบกับ นายศุภเสษ เพื่อนชายและอยู่ด้วยกันมานานหลายปีแล้ว

         ด้าน พ.ต.อ.ปิยะพงษ์ วงค์เกตุใจ ผกก.เปิดเผยว่า ทราบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายทั้งสองคน ได้ขับรถมาจอดที่หน้าเซเว่นประมาณ 20 นาที โดยติดเครื่องไว้แต่ไม่ได้ลงรถ  ต่อมาพนักงานเซเว่น ได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์ดังมาก ถึง 2 ครั้ง  จึงได้เดินออกมาดูและเปิดประตูรถ ก็พบว่าทั้งสองคนนอนฟุบที่เบาะ  โดยกำนันหนึ่ง นั่งพิงพนักด้านซ้าย ส่วนเพื่อนชายเป็นคนขับรถนั่งฟุบไปที่ตักของกำนัน  พบว่าที่ปากและจมูกมีเลือดไหลออกมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ และนำส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยสภาพร่างกายของทั้งสองคนไม่พบบาดแผลใด ๆ แต่ที่เล็บมือและเล็บเท้าเริ่มเขียว  ก็เชื่อว่าน่าจะเสียชีวิตเพราะกินยาพิษ แต่จะเป็นยาอะไรก็จะต้องส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช และต้องรอผล  นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ ก็จะต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าและกล้องหลังรถ ถึงการเดินทางของทั้งคู่ว่าไปไหนมา และมีการพูดคุยอะไรกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดความกระจ่างว่า การเสียชีวิตนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร  จากปัญหาครอบครัว หรือปัญหาชู้สาว  ส่วนสิ่งของต่าง ๆที่พบในรถยนต์นั้นก็จะส่งไปตรวจสอบที่พิสูจน์หลักฐานกลาง  ทั้งนี้ในพื้นที่ของ สภ.บ้านโป่งก็เคยมีคดีเรื่องของสารพิษไซยาไนท์ (แอมไชยาไนท์)  มาแล้ว  จึงต้องทำการเก็บหลักฐานอย่างละเอียด

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี