ราชบุรี ในวันนี้ (3 พ.ค.65) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้เดินทางมาช่วยนางณัฐทนันต์ นิธิภณยางสง่า ซึ่งเป็นลูกพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งได้เบอร์ 1 ในการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 3 จ.ราชบุรี แทนตำแหน่งที่ว่างหลังนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ถูกศาลฎีกามีคำพิพากษา ให้พ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ส่งผลให้ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใด ๆ ตลอดชีวิต จากการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีครอบครองที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จ.ราชบุรี โดยมิชอบ
ซึ่งขณะเตรียมช่วยลูกพรรคหาเสียงได้มีชาวบ้านในตำบลห้วยไผ่ อ.เมือง และอำเภอจอมบึง จ.ราชบุรี ได้มายื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องความเดือดร้อนจากฟาร์มหมูที่หมักหมมมานาน และชาวบ้านก็ร้องเรียนทุกหน่วยงานผ่านมาหลายสิบปีแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้รับหนังสือไว้พร้อมทั้งให้ทีมงานได้ทำการประสานกับชาวบ้านในการที่จะทำหนังสือร้องเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องฐานละเว้นปฎิบัติหน้าที่ก่อน
หลังจากนั้นได้ออกมาบอกว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคต้องมาช่วยลูกพรรคหาเสียง อยากให้ประชาชนได้ช่วยเลือกเบอร์ 1 เนื่องจากนโยบายของพรรคนั้นคือปราบทุจริต พิชิตคนพาล คืนงบประมาณให้ประชาชน ซึ่งก็อยากให้ประชาชนได้ดูที่หัวหน้าพรรคด้วยว่าประวัติเป็นอย่างไร ส่วนตัวเองนั้นไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย และผมก็เป็นประธานคณะกรรมาธิการของสภาฯและได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาก ทำให้ชาวบ้านมาร้องเรียนที่ตนเองหมด แต่ในขณะที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นทั้งรองนายกฯ เป็นทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ แต่ของแพงทั้งแผ่นดิน แพงทั้งประเทศ ก็ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขปัญหาอะไรได้ และยังมีการสอบเรื่องทุจริตหน้ากากอนามัยอีก แล้วพี่น้องประชาชนจะไปเลือกผู้แทนจากพรรคนี้เหรอ ก่อนจะมีการเลือกตั้งไม่มีใครเอาเผด็จการ แต่พอเลือกตั้งเสร็จทุกคนไปอยุ่กับเผด็จการหมด ทั้งนี้ก็เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งไม่ใช่พรรคเสรีรวมไทย ซึ่งคนที่คิดถึงผลประโยชน์จะแก้ปัญหาไม่ได้ เพราะรับผลประโยชน์และแก้ไขปัญหาให้กับนายทุนอย่างเดียว ซึ่งพรรคเสรีรวมไทยไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ใช้เงินฟาดหัวประชาชน ซึ่งหากประชาชนเลือกสมาชิกพรรคเสรีรวมไทยเข้าไปมาก ๆ ผมจะอาสาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดู จะได้รู้ว่าผลงานของ พล.ต.อ. นั้นเหนือกว่า พล.อ. เพราะพล.อ.นั้นแก้ปัญหามา 8 ปี แล้วทำอะไรไม่ได้ ก็ขอให้ชาวบ้านช่วยกันเปลี่ยน ซึ่งในช่วงที่เลือกตั้งใหม่ ๆ ก็มีการเสนอเงินให้ 300 ล้าน เพราะมี ส.ส. 30 คน ๆ ละ 30 ล้าน แต่ทางตนนั้นไม่เอา และขอทำหน้าที่ส.ส.ฝ่ายค้านดีกว่า และในช่วงเช้าที่ไปหาเสียงก็พบกับท่าน ทวี ไกรคุปต์ พ่อของคุณปารีณา ท่านก็พูดคุยดี ยังบอกพ่อค้าแม่ค้าให้ช่วยเลือกเบอร์ 1 อีกด้วย
