X

แจ้งจับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมพวกลักลอบตัดไม้ชิงรถของกลางและผู้ต้องหาไป

ราชบุรี       ในวันนี้นายสุชาติ   บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส  และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 3 ( พุยาง )   จ.ราชบุรี ได้หอบเอกสารหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.บรรณสิทธิ์ ชัยนวล พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายสุริยนต์  ชมพูพันธ์ หรือ นายยนต์ อายุ 52 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ต.รางบัว อ.จอมบึง  จ.ราชบุรี และเป็นเจ้าของรถยนต์รถบรรทุกทะเบียน  82-  3195  ราชบุรี และเป็นผู้จ้างวานตัดไม้ไผ่รวกในเขตป่าสงวน

               หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้พบบุคคลเข้าไปตัดไม้ในเขตป่าสงวน 5 คน   ได้แก่ 1.นายสมพงศ์ คีรี อายุ 45 ปี   2.นายนภดล วรรณเลิศ อายุ  34 ปี 3.  นายเลี้ยน ประเสริฐศักดิ์ อายุ 59 ปี  4.  นายบุญกอง สาวง อายุ 54 ปี   และ 5.  นายประจวบ   เทพสวัสดิ์  อายุ  47 ปี เข้าไปตัดไม้ไผ่รวกบริเวณป่าบ้านหนองปากทาง หมู่ 6   ต.อ่างหิน อ.ปากท่อ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี พบของกลาง เป็นไม้ไผ่รวกหลายขนาดถูกรวมเป็นมัด ๆ นับได้ประมาณ 157 มัด ความยาว 2.50 เมตร มากกว่า 1,000 ลำ เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้นำของกลางเป็นไม้ไผ่รวกไปไว้ที่ หน่วย รบ. 3 ( พุยาง ) อ.ปากท่อ เก็บไว้เป็นหลักฐานดำเนินคดี

             นายสุชาติ บัวบาง เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส  และหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง)   จ.ราชบุรี   เปิดเผยว่า   ได้แบ่งงานให้เจ้าหน้าที่ไปลาดตระเวนป้องกันรักษาป่าพร้อมกับดูเรื่องสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ด้วย  ชุดลาดตระเวนมี 3 นาย ถึงจุดเกิดเหตุพบรถบรรทุกไม้จอดอยู่ในป่า จึงเข้าตรวจสอบพบกลุ่มคนเข้ามาตัดไม้และบรรทุกไม้ในรถคันนี้ 5 คน จึงควบคุมตัวไว้   เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นาย ได้รายงานให้ตนเองทราบเรื่อง จึงรีบนำกำลังที่หน่วยมาเสริมมาถึงก็ช่วงเย็นแล้ว โดยก่อนหน้าที่จะมาถึงนั้น มีกลุ่มคนทราบว่าเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหนองนกกระเรียน อ.จอมบึง  ได้ขับรถยนต์ปิกอัพเข้ามาที่จุดเกิดเหตุ  ทางผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หรือ ผู้ช่วยยนต์ ได้ถืออาวุธปืนลูกซองยาวลงไปพร้อมกับภรรยา  พอไปถึงไปสั่งให้กลุ่มคนที่ตัดไม้ทั้งหมดออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ลักษณะเหมือนการชิงตัวผู้ต้องหา หลังจากที่เอาคนทั้ง 5 คนออกมาแล้ว ผู้ช่วยยนต์ได้ให้คนทั้ง 5 คน ขับรถปิ๊กอัพที่ตนเองนั้นขับมากับภรรยาให้ขับรถออกไป  ส่วนนายยนต์พร้อมภรรยา และอาวุธปืนลูกซองอีก 1 กระบอก ก็เข้าไปขับรถยนต์ที่บรรทุกไม้ไผ่รวกออกจากที่เกิดเหตุโดยเจ้าหน้าที่มีการบันทึกภาพนิ่งและคลิดวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน   ตนจึงสั่งให้เจ้าหน้าที่ขับรถติดตามไล่ไปจนถึงบริเวณหมู่ 10 ต.รางบัว อ.จอมบึง อยู่ในบริเวณบริษัทแห่งหนึ่ง ไปจอดพูดคุยกันพักหนึ่ง เพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยอมจำนน แต่เขาไม่ยอมและพยายามไม่ให้เจ้าหน้าที่อยู่ใกล้ตัว  และไม่ให้ตรวจยึดรถบรรทุกไม้พร้อมปืนลูกซองด้วย จึงพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่นานแต่ไม่สำเร็จ ผู้ช่วยยนต์ได้โทรศัพท์ไปตามญาติมาจากหมู่บ้าน โดยมีภรรยามาด้วย พร้อมชาวบ้านอีกหลายคนมาล้อมเจ้าหน้าที่ไว้ไม่ให้ใกล้ตัว หลังจากนั้นเป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว ผู้ช่วยยนต์ได้ให้คนขึ้นไปนำไม้ไผ่ลงจากรถโดยมีกลุ่มคนมากกว่า 30 คน กันไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้  พอนำไม้ลงเสร็จได้ขับรถบรรทุกพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวออกไปจากที่เกิดเหตุ ขณะนั้นได้พยายามประสานศูนย์ 191 เพื่อขอกำลังมาเสริม แต่ด้วยเส้นทางเข้ายากลำบาก กว่ากำลังตำรวจหลายหน่วยจะเข้าไปก็ไม่ทันแล้ว  ช่วงมืดค่ำแม้จะเกิดการปะทะไปก็จะไม่คุ้มจึงหลีกเลี่ยงพร้อมเก็บพยานหลักฐานทั้งจุดเกิดเหตุ  ทะเบียนรถ  บันทึกคลิปเสียงไว้ จากนั้นจึงไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.จอมบึง และมาแจ้งความดำเนินคดีพื้นที่เกิดเหตุที่ สภ.ทุ่งหลวง  ด้วยข้อหากระทำด้วยประการใด ๆ เกี่ยวกับป่าสงวนแห่งชาติ ผิดพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484  พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.  2507  พระราชบัญญัติ(ฉบับที่ 4 ) พ.ศ.  2559 ที่แก้ไขเพิ่มเติม  มีการแจ้งความทุกมาตราที่เกี่ยวข้อง ทั้ง พรบ.อาวุธที่พกพาเข้ามาในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร ยึดไม้ไผ่รวกได้ประมาณ 1,570 ลำ  หรือ 157 มัด

          จากการสืบสวนทราบว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านคนนี้  มีพฤติกรรมแบบนี้มาหลายครั้ง   คงจะยอมไม่ได้ ต้องปราบปรามกระบวนการนี้ให้ถึงที่สุด คาดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะออกหมายจับกุมคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องหลังมีการแจ้งความ

ด้านนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอจอมบึง เปิดเผยว่า    ได้รับรายงานว่าเหตุนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำผิด พรบ.ป่าไม้ ได้สอบถามไปยังผู้ปกครองท้องที่เบื้องต้นเพื่อจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องสำหรับเหตุครั้งนี้เกิดในพื้นที่ อ.ปากท่อ  แต่มีการตรวจติดตามและมายึดของกลางได้ที่เขต อ.จอมบึง   เบื้องต้นทราบว่ามีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถ้าทำผิด พรบ.ป่าไม้ก็จะขาดคุณสมบัติ แต่ว่าถ้าอันนี้ การเป็นผู้ต้องหายังไม่ถือว่าเป็นผู้กระทำผิด ยังมีสิทธิ์ที่จะแก้ตัว  ต้องปรากฏทางข้อเท็จจริงทางการสอบสวน ซึ่งอำเภอจะตั้งกรรมการสอบสวนเบื้องต้น ถ้าพบก็จะสอบสวนทางวินัย เพื่อลงโทษตามกฎหมายต่อไปคือปลดออก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี