ราชบุรี เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 ต.ค. 63 ชาวราชบุรี ที่ใช้ชื่อว่ากลุ่มปกป้องสถาบัน กว่า 1,500 คน ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ได้พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง พร้อมกับถือ พระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และที่ 10 เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณริมเขื่อนรัฐประชาพัฒนา ริมแม่น้ำแม่กลอง เขตเทศบาลเมืองราชบุรี เพื่อมาแสดงจุดยืนว่าจะร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังมีกลุ่มคณะราษฎร 63 ได้มีการรวมกลุ่มพร้อมกับปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาล และต้องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก นอกจากนี้ยังต้องการให้มีการปฎิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำให้คนราชบุรีนั้นไม่พอใจจึงได้ออกมาแสดงพลังในการปกป้องสถาบัน
โดยนาย กิรเกียรติ ปรีดาไชยกุล อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ขึ้นไปแสดงความรู้สึกบนรถเครื่องขยายเสียงที่มีการนำมาติดตั้ง ก็บอกว่าการที่ตนต้องออกมา เพราะแนวคิดส่วนตัวไม่ได้สนับสนุนฝ่ายใด ไม่ได้สนับสนุนรัฐบาล แต่ที่ผมมาจุดนี้คือมันเกินเลยไปแล้วที่เป็นอยู่ ส่วนตัวชอบความคิดของน้อง ๆ นักศึกษา ที่เข้ามาแสดงจุดยืน ออกมาในระบอบประชาธิปไตย เรียกร้องสิทธิประชาธิปไตย แต่สิ่งเดียวที่ ณ ตอนนี้รับไม่ได้ ซึ่งเขาเกินเลยเกินขอบเขตไป ซึ่งเขามาแตะต้องสถาบันที่ผมรักและเทิดทูนเหนือหัวมาก ๆ เลยมายืนอยู่จุดนี้ ผมไม่ได้สนับสนุนรัฐบาล ผมไม่ได้สนับสนุนนักการเมือง ถ้าวันนี้น้อง ๆ มาแสดงจุดยืน แสดงความคิดเห็น เราควรแตกต่างได้ แต่ไม่ควรแตกแยก ในสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตอนนี้นอกจะเป็นความแตกต่าง มันยังจะเป็นความแตกแยก เพราะมันคือดวงใจของไทยทั้งชาติ พระมหากษัตริย์คือจุดยึดเหนี่ยว ธงไตรรงค์มี 3 สี หากขาดสีใดไปก็จะไม่เป็นประเทศไทย มันเลยทำให้ผมอยู่ไม่ได้ต้องออกมาบอกกับทุกคนว่า เราควรจะมีความคิดใหม่ ๆ เหมือนน้อง ๆ ที่อยากจะออกมา เชื่อว่ามันไม่ได้เป็นทุกคน มันเป็นเพียงคนกลุ่ม ๆ หนึ่ง แต่ถ้าวันนี้ผมไปยืนอยู่จุดนั้น ก็เหมือนเป็นขบวนการที่ไปร่วมสนับสนุนเขา เราก็เป็นกบฏคนหนึ่ง ซึ่งผมทำไม่ได้ ผมอยากจะบอกผ่านพี่ ๆ นักข่าวให้น้อง ๆ ได้รู้ว่า วันนี้คุณแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหน ระดับไหน มีสิทธิเต็มที่เพราะเราอยู่ในระบบประชาธิปไตย แต่วันนี้คุณไม่ควรจะเห็นด้วยกับการไปแตะสถาบัน อาจจะมองของเรียกร้องว่าแค่ปรับมาตรการบางข้อปรับกฎหมายบางข้อ ผมมองว่าเราใช้ชีวิตกันอยู่ได้มีความสุขทุกวันนี้ เพราะเรามีพระมหากษัตริย์ เรามีแผ่นดินนี้โดยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของใครก็เพราะว่าเรามีพระมหากษัตริย์ เพราะฉะนั้นถ้ามาแตะต้องพระมหากษัตริย์แบบนี้ผมเป็นประชาขนคนหนึ่งที่ปล่อยให้มันผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย แล้วผมจะเป็นคนไทย แบบชื่นใจได้อย่างไร
ซึ่งการออกมาแสดงพลังของชาวราชบุรีในพื้นที่อำเภอเมืองราชบุรีนั้นมีบุคคลที่ต้องการแสดงความรู้สึกต่อสถาบันได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นพูด โดยมีนายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเป็นพ่อของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ มายืนฟังการปราศรัยในครั้งนี้ด้วย ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนั้นได้ยุติในเวลา 18.00 น. และยังยืนยันว่าจะมาร่วมแสดงพลังอีกหากทางกลุ่มคณะราษฎร 63 ยังคงเดินหน้าในการที่จะปฎิรูปสถาบัน
ส่วนที่บริเวณลานจอดรถของวัดเขาช่องพราน ต.เตาปูน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ก็มีกลุ่มพลังมวลชนปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ในพื้นที่อำเภอโพธาราม อำเภอบ้านโป่ง และอำเภอจอมบึง กว่า 3,000 คน ต่างทยอยเดินทางเข้ามาร่วมแสดงพลังปกป้องสถานบันพระมหากษัตริย์ โดยบริเวณหน้าทางเข้ามีการตรวจคัดกรองโควิด พร้อมแจกเทียมแก่ประชาชนผู้เดินทางมาร่วมแสดงพลังปกป้องสถานบันพระมหา ซึ่งมีการจัดเตรียมเก้าอี้ไว้กว่า 4,000 ตัว โดยมีน.ส.ปารีณา ส.ส.ราชบุรี มาคอยอำนวยความสะดวก รวมทั้งขึ้นเวทีปราศรัยในการที่จะร่วมกันปกป้องสถาบัน และปกป้องรัฐบาล จากนั้นได้ร่วมกันจุดเทียนเพื่อให้เกิดแสงสว่างในใจของคนไทยด้วย
