สว.เริ่มทำงาน ลงยะลาติดตามโครงการพระราชดำริ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

คณะสมาชิกวุฒิสภาลงพื้นที่ ยะลา ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำลำพะยา ตามโครงการพระราชดำริ แก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชนในพื้นที่

จากกรณีเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรโครงการฝายทดน้ำลำพะยาและทรงเยี่ยมราษฏรในพื้นที่ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา ได้ทรงพระราชทานพระราชดำริเมื่อวันที่ 24 กันยาน 2523 ให้ชลประทานพิจารณาวางโครงการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำลำพะยา ที่บริเวณบ้านทองล้น ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา เพื่อใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกของราษฏรนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 เวลา 10.00 น.นายกษิดิศ อาชวคุล สมาชิกวุฒิสภาพร้อมคณะสมาชิกวุฒิสภาเดินทางมาติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำที่ ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา โดยมีผู้น้ำท้องถิ่น ประชาชน ในพื้นที่ให้การต้อนรับและเสนอความเห็น

นายกษิดิศ อาชวคุล สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะหัวหน้าคณะเปิดเผยว่าตามที่ผู้นำท้องถิ่นได้กล่าวไว้ได้รับข้อมูลแล้วส่วนหนึ่งหลังจากที่คณะ สว.ที่มาได้รวบรวมข้อมูลรอบด้านแล้วก็จะนำเสนอผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องตามที่ได้เรียนแล้วเบื้องต้น ส่วนประเด็นอื่นๆคิดว่าไม่น่าต้องย้อนกลับไปที่เดิม แต่จะทำความเข้าใจกับในส่วนของ ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา เพราะว่าถ้าโครงการนี้เกิดแล้วชาวบ้านจะได้รับประโยชน์อย่างไร ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านได้รับทราบ ที่เป็นห่วงมากที่สุดถ้าโครงการล่าช้าก็ต้องเปลืองงบประมาณเพิ่มขึ้น ฉะนั้นที่มาในวันนี้คือในฐานะสมาชิกวุฒิสภา และยังมี สส.ยะลา มาด้วย จะมาร่วมขับเคลื่อนให้โครงการนี้เกิดให้เร็วที่สุดและจะทำให้ดีที่สุด คือทุกสิ่ง ทุกอย่าง มีความหวังเช่นเดียวกับพ่อแม่พี่น้อง ประชาชน

นายกษิดิศ เผยต่อไปว่าความจริงแล้วต้องเชื่อในพระปรีชาสามารถของในหลวงราชการที่ 9 ท่านเสด็จไปทุกพื้นที่ ท่านมองพื้นที่ใดที่ควรจะสร้างอ่างกักเก็บน้ำ ประเทศไทยถ้าวัดปริมาณน้ำฝนตกลงมาร้อยหนึ่งมีอ่างกักเก็บน้ำแค่ 20 ก็ต้องสร้างเพิ่มขึ้น ฉะนั้นถ้าไม่เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพระเจ้าอยู่หัวแล้วมาปล่อยซึ่งตนไม่สบายใจทุกท่านที่มาในวันนี้หลังจากที่ท่านประธานวุฒิสภาปรารภว่าต้องลงในพื้นที่ไปรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนเพื่อที่จะช่วยกันขับเคลื่อนให้เดินไปข้างหน้าอย่างไร ในเมื่อสายพระเนตรของในหลวงยาวไกลของราชการที่ 9 ผลกระทบแทบที่จะมองไม่เห็น มีแต่ได้รับประโยชน์ และประโยชน์ที่ได้รับก็คือประโยชน์อย่างยั่งยิน เท่าที่ทราบของพื้นที่ 5 ตำบล ของ ต.ลำพะยา ที่จะได้ประโยชน์

ทางด้านนายทะนง ไหมเหลือง นายกเทศบาลตำบลลำพะยา เผิดเผยว่า ตอนนี้ความก้าวหน้าในการสร้างเขื่อนของลำพญาล่าสุด ตามที่เคยมีการคัดค้านกันมา มีทั้งหมด 2 ร้อยกว่าราย ตอนนี้ได้ทำการรังวัดเข้าไปแล้ว 184 ราย เหลือประมาณ 5-6 ราย ฝ่ายค้านที่เขายังไม่ต้องการ ความต้องการของประชาชนและตำบลใกล้เคียงตั้งแต่ 5 ตำบล นี้ก็มีตำบลลำพะยา เป็นหลักมีความเดือดร้อนในระยะการสร้างเขื่อน ลำพญาเป็นต้นน้ำไหลผ่าน ถ้ามีฝนตกนาน 1 ชั่วโมงน้ำที่ไหลผ่านก็จะไปหนักที่แถว ต.พร่อน ต.ลิดล คือเป็นปัญหาน้ำของ ต.ลำพะยา เป็นพื้นที่ทางผ่านเป็นภูเขาสันกาลาคีรีและดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2523 เป็นโครงการพระราชดำริ โครงการนี้ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการสร้าง ใช้เวลา 5-6 ปี คงจะเสร็จ ถ้ายิ่งช้าก็ยิ่งแพงขึ้นเรื่อยๆ

นายทะนง ยังเผยอีกว่าถ้าหากไม่มีการสร้างโครงการดังกล่าวก็จะเกิดปัญหาอย่างหนัก ถ้าสำเร็จก็จะสามารถเก็บน้ำได้มาก หน้าแล้งที่ผ่านมาที่ ต.ลำพะยา ขาดแคลนน้ำอย่างหนักไม่เคยปรากฏการจึงวอนให้ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยด่วนเพื่อแก้ปัญหาของประชาชน