เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2565 เวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.ท.วีระชาติ บ่อคำ รองผกก.ป.สภ.เกาะคา ลำปาง พร้อมร.ต.อ.กันต์กวี มีธรรม รองสว.สอบสวนฯ เจ้าหน้าที่สายตรวจเดินทางตรวจสอบบนถนนใกล้กับร้านผ่องโภชนา ม.1 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง หลังรับแจ้งว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์
เมื่อไปถึงพบนางสาวศศิประภา ใยแก้ว อายุ 63 ปี ชาวตำบลลำปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปางผู้เสียหาย ยืนรอให้การอยู่ที่เกิดเหตุ ก่อนจะแจ้งเบาะ แสว่ามีคนร้ายเป็นชายไทย อายุประมาณ 30 ปีเศษ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า สวมหน้ากากอนามัย สวมเสื้อเจ๊กเก็ตสีดำแขนยาว และสวมกางเกงขายาวสีดำ ก่อเหตุฉกกระเป๋าสะพายซึ่งในกระเป๋ามีเงินสด บัตรประชาชน บัตรเอทีเอ็ม และแหวนทองคำหลบหนีไปทางถนนซอยข้างโรงเรียนอ้อมอารีย์ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งสกัดจับคนร้ายแต่ไม่พบตัว
นางสาวศศิประภาให้การเพิ่มเติมว่า
ก่อนเกิดเหตุตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ พานางจันทร์ โนราชา นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เพื่อจะมากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน บริเวณหน้าวัดพระธาตุลำปางหลวง แต่ตู้เอทีเอ็มเสีย จึงขับรถจักรยานยนต์ เพื่อไปรับประทานอาหารที่ร้านผ่องโภชนา โดยเอากระเป๋าสะพายสีน้ำตาลขาวข้างในกระเป่ามีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ รุ่นเอ 5 จำนวน 1 เครื่อง , บัตรประชาชน ,บัตรประชารัฐ บัตรเอทีเอ็มของธนาคาร ธกส.จำนวน 1 ใบ บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย จำนวน 1 ใบ , บัตรเอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ 1 ใบ .เงินสด 1,800 บาท และแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 2 วง วางไว้ที่ตระกร้าหน้ารถจักรยานยนต์ พอมาถึงที่เกิดเหตุปรากฏว่าคนร้ายขับรถจักรยานยนต์ประกบแล้วหยิบเอากระเป๋าสะพายที่วางอยู่ที่หน้ารถไป แล้วได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนซอยข้างโรงเรียนอ้อมอารีย์ ตนจึงขับรถจักรยานยนต์ติดตามไป แต่ตามไม่ทัน จากนั้นจึงขับรถจักรยายนต์ไปที่ธนาคาร ธ.ก.ส.เพื่อแจ้งอายึดเงินในบัญชีไว้ จากนั้นผู้แจ้งจึงกลับไปที่ทำการสายตรวจลำปางหลวง เพื่อแจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจลำปางทราบดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไป ค่าเสียหายเบื้องต้นประมาณ 16,800 บาท ส่วนคนร้ายจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
