X

ลำปางรวบสาวแสบปลอมลายเซ็นอดีตเมียสามี เบิกเงินล้านเศษ ออกจากบัญชีไปใช้

สาวแสบปลอมลายเซ็นอดีตเมียสามี  เบิกเงินนับล้านออกจากบัญชีไปใช้ ก่อนถูกรวบคาธนาคาร 

เมื่อเวลา 16.00  น.วันที่ 2 ส.ค.2561 เจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.เมืองลำปาง เดินทางไปยังธนาคารกรุงเทพสาขาบิ๊กซีลำปาง เพื่อไปรับตัวผู้ต้องสงสัยหลังรับแจ้งจากศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน191 ตำรวจภูธรจังหวัดลำปางว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำห้างบิ๊กซีลำปางพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างว่า ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย กรณีปลอมแปลงลายเซ็นและใช้เอกสารผู้อื่นมาใช้ในการเบิกเงินจากธนาคารไว้ได้  เบื้องต้นพบว่าผู้ต้องสงสัยเป็นผู้หญิง ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ในธนาคาร ส่วนด้านหน้าธนาคารมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารซึ่งตั้งอยู่ชั้นสองของห้างคอยเปิดปิดประตู และไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาภายในชั่วคราว ส่วนประชาชนผู้มาใช้บริการในห้างรวมถึง ร้านค้าต่างๆพากันมามุงดูเต็มหน้าธนาคารซึ่งทุกคนคิดว่าอาจจะมีการปล้นหรือจี้ธนาคารทำให้เกิดความชุลมุลเล็กน้อยจากการสอบสวน ทราบว่าผุ้ต้องสังสัยได้มาเบิกเงินแต่ยังไม่ทันเบิก ก็เห็นเจ้าหน้าที่ มีพิรุธวิ่งหนีออกจากธนาคารก่นจะถุกควบคุมตัวไว้ได้   จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปีเศษ ออกมาจากธนาคาร ซึ่งผู้หญิงต้องสงสัยได้เอากระเป๋า สะพายปิดยังใบหน้า ตั้งแต่ใน ห้างมาถึงรถยนต์สาย ตรวจซึ่งจอดหน้าห้างจากนั้นได้นำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบสวนที่โรงพักก่อนจะนำตัวส่งร.ต.อ.หญิงนิชติยา จัดแก้ว ร้อยเวรฯสภ.เมืองลำปาง ทำการสอบปากคำ ต่อมาทางนางสาวเปมิกา ใจบ่อแป้น อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 188 ม.7 ต.บ้านค่า อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ได้เดินทางมาที่สภ.เมืองลำปาง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและมาดูหน้าผู้ต้องสงสัย

นางสาวเปมิกาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ต้องสงสัย ซึ่งทราบภายหลังชื่อนางสาวจารียา คงใจดี อายุ 32  อยู่บ้านเลขที่ 87 ม.7 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง  เป็นภรรยาใหม่ของอดีตสามีของตน นางเปมิกาลาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อนจะมาทราบว่าเงินในธนาคารหายไปเกือบ1ล้านบาท เพิ่มเติมว่า ตนกับสามีเก่าได้เลิกกันไปนานแล้ว แต่มีลูกชายด้วยกัน1คนหลังเลิกลากันลูกชายอยู่กับอดีตสามี จากนั้นตนก็แต่งงานใหม่และตัดสินใจพากันไปทำงานที่ประเทศเกาหลีได้ประมาณ  1 ปี 7เดือน ตลอดระยะเวลาที่ทำงานเกาหลีตนก็ทำงานเก็บเงินและโอนเข้าบัญชีของตัวเองกับบัญชีของลูกชาย และโอนเงินเข้าบัญชีอดีตสามีเล็กน้อยเป็นค่าเลี้ยงดูลูก ตลอดที่ทำงานที่ประเทศเกาหลีก็ไม่ค่อยได้เช็คยอดเงินทำงานก็โอนเข้าบัญชีตลอด แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2561ที่ผ่านมา  เนื่องจากทราบจากญาติว่าอดีตสามีถูกจับคดียาเสพติด ตนกลัวไม่มีใครดูแลลูกชาย จึงเดินทางกลับมาที่ลำปาง พอมาถึงก็ทราบว่าอดีตสามีถูกจับจริงๆส่วนภรรยาใหม่ ตนทราบมาหลายเดือนแล้วแต่ก็เป็นเรื่องส่วนตัว

ต่อมาเมื่อวันที่ 30 ก.ค.2561  ตนได้ไปเช็คยอดเงินในธนาคารกรุงเทพสาขาบิ๊กซีลำปาง ปรากฏว่าเงินในบัญชีเหลือเพียง 280,000 บาท จากยอดเงินในบัญชี 1,200,000 บาท หลายไป 920,000 บาท ตนตกใจแทบเป็นลมเพราะว่าไม่ค่อยได้เบิกเงินออกจากบัญชีแต่เงินในบัญชีหายไปได้ยังไงพอไปเช็คบัญชีของลูกชายซึ่งมีเงินในบัญชี 150,000 บาท เงินเหลือในบัญชี 5,000 บาทเงินหายไป 145,000 บาท   ตนจึงสอบถามกับทางธนาคารกรุงเทพสาชาบิ๊กซีลำปาง จากการตรวจสอบ พบว่ามีคนนำหลักฐานเป็นใบขับขี่รถ พร้อมลายเซ็น มาเบิกเงินที่ธนาคารหลายครั้งละ จะเบิกเงินครั้งละ 5-6 หมื่นบาทมานานหลายเดือน ทั้งสองบัญชี ซึ่งทางธนาคารแนะนำให้ตนมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เมืองลำปาง  ก่อนจะมีวางแผนเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยดังกล่าว

จนกระทั่งวันนี้ทางธนาคารได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบว่าขณนี้พบผู้ต้องสงสัยและเป็นคนเดียวกับที่มาเบิกเงินออกจากบัญชีในแต่ละครั้งมาเบิกเงิน เจ้าหน้าที่ธนาคารจึงดึงเวลาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบพอเจ้าหน้าที่มาถึงผู้ต้องสัยก็ไหวตัวทันและวิ่งหนีออกจากธนาคารก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมคัวไว้ได้  ตนไม่น่าเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยจะทำได้ขนาดนี้และปลอมลายเซ็นได้เหมือนมาก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ประทีป นันทะผาบ

ประทีป นันทะผาบ

นักข่าวประจังหวัดลำปาง ทำงานด้านการข่าวมานาน 10ปี ผู้ดูแลจังหวัดลำปาง