เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2563 ที่ผ่านมา ที่ตู้ยามตำรวจ หน่วยบริการประชาชน ห้าแยกหอนาฬิกา เทศบาลนครลำปาง อ.เมือง จ.ลำปาง ขณะที่ ร.ต.อ.อำนาจ สายเครือปัน ร้อยเวรสายตรวจ สภ.เมืองพร้อมเจ้าหน้าที่สายกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นได้มีนางสาวฟองนวล ราษฎร์จันทร์คำ พร้อมสามีซึ่งเป็นอดีตข้าราชการครู(ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) อาศัยอยู่หมู่บ้านโกสุมอาเขต ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง ได้นำกระเป๋าเงินแบบผู้หญิง สีน้ำตาล เข้าพบ ร.ต.อ.อำนาจ สายเครือปัน ร้อยเวรสายตรวจ สภ.เมืองลำปางเพื่อตรวจนับเงินที่อยู่ในกระเป๋าและให้ติดตามเจ้าของกระเป๋าเงิน จากนั้นได้นำเงินที่อยู่ในกระเป๋าออกมานับต่อหน้าสองสามี ภรรยา ซึ่งเบื้องต้นตรวจนับเงินมีธนบัตร รวมกันทั้งหมด17,010บาท(หนึ่งหมื่นเจ็ดพันสิบบาท)นอกจากนี้ยังพบบัตรประจำตัวประชาชน บัตรเอทีเอ็ม เอกสารสำคัญอีกหลายชนิด และทราบชื่ออสงวนนามอายุ70ปี อาศัยอยู่ในตลาดอัศวิน อ.เมืองลำปาง
นางสาวฟองนวล ราษฎร์จันทร์คำ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะกำลังขับรถยนต์กลับบ้านกับสามี ระหว่างทางเห็นกระเป๋าตกอยู่กลางถนน ที่บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพม่อนกระทิง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง จึงจอดรถและเป็นจังหวะที่มีสองสามีภรรยา วัยกลางคนได้ขับรถจยย.วกกลับมาเก็บกระเป๋าเงิน ต่อหน้าต่อตา จึงถามว่า ทั้งสองคนเป็นเจ้าของกระเป๋าเงินดังกล่าวหรือไมตอนแรบอกว่าใช่ แต่ความบริสุทธิ์ใจตนเองจึงได้ทักท้วงว่า ขอดูบัตรประจำตัว ทำให้ทั้งสองสามีภรรยาแสดงอาการมีพิรุธและยอมมอบกระเป๋าเงินให้ ก่อนที่จะขับรถหลบหนีไปทันที ตนเองพร้อมสามี จึงรีบขับรถยนต์นำกระเป๋าเงินมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามจนหาพบเจ้าของ ในใจคิดว่า ในช่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดเงินทองก็ยากลำบากอยู่แล้วและคิดว่าเจ้าของเงินจำเป็นต้องใช้เงิน จึงไม่คิดที่เอาของคนอื่นมาเป็นของเรา และการที่ทำความดีเท่ากับเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามได้ที่บ้านพัก ก่อนที่จะทราบเรื่องและรีบเดินทางมาบริเวณตู้ยาม ห้าแยก เมื่อมาถึงเจ่าของกระเป๋าแสดงอาการดีใจและยกมือไหว้ขอบคุณ สองสามี ภรรยา ที่เก็บกระเป๋าเงินได้และติดต่อให้มารับเงิน
ซึ่งเจ้าของเงินเล่าว่าช่วงเช้าวันที่ 20 เมษายน 2563 ได้ ทำหน้ากากคลุมหน้าเฟสชิว จำนวน 100 ชิ้นกับเพื่อนๆ และไปบริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพม่อนกระทิง ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปางจากนั้นได้เดินทางกลับและไปที่ห้างเซ็ลทรัลลำปางเพื่อเอาเงินจ่ายค่าสินค้าแต่พอหากระเป๋าปรากฏว่ากระเป๋าหาย จึงได้รีบกลับบ้านทันทีและกำลังจะโทรศัพท์อายัดเอทีเอ็ม ก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมาตามที่บ้าแจ้งว่ามีคนเก็บกระเป๋าเงินได้ จึงรีบเดินทางมาพบดังกล่าว ต้องขอขอบพระคุณคนที่เก็บกระเป๋าเงินอย่างมาก ส่วนเงินทั้งหมดได้เบิกกดจากตู้เอทีเอ็มเพื่อเอามาใช้จ่ายจากนั้นเจ้าของเงินได้มีสินน้ำใจมอบเงินส่วนหนึ่งให้คนที่เก็บได้ แต่คนที่เก็บได้ไม่ขอรับซึ่งสร้างความซาบซึ้งใจอย่างมาก ก่อนที่ทางร.ต.อ.อำนาจ สายเครือปันได้ทำการบันทึกการส่งมอบเงินคืนเจ้าของ ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน
