แก๊งป้ายยารูดทรัพย์ อาละวาดหนักที่กระบี่ สาวใหญ่เป็นเหยื่อถูกฉกแหวนทอง-เงินสด ทิ้งนอนสลบริมถนน
แก๊งป้ายยารูดทรัพย์ ออกอาละวาดหลายพื้นที่ของ จ.กระบี่ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 11 ก.ย.62 จนท.ศูนย์กู้ภัยมูลนิธืกระบี่พิทักษ์ประชา อ.เมืองกระบี่ รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีผู้หญิงนอนหมดสติอยู่บริเวณแผงค้าติดกับปั้มน้ำมัน ปตท.ถ.ศรีพังงา ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ จึงเร่งเดินทางไปตรวจสอบ พบหญิงสาววัย 50 ปี กำลังนอนหมดสติอยู่บนโต๊ะของแผงขายของ ตรวจสอบอาการพบมีอาการสลึมสลือ เหมือนคนเมายา จนท.ต้องปฐมพยาบาลอยู่นานเกือบ 20 นาที จึงเริ่มมีสติและสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น
นางนก (ขอสงวนนาม) อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ต.กระบี่ใหญ่ ผู้ประสบเหตุ เล่าว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งรถกลับมาจากทำธุระใน อ.เหนือคลอง มาลงรถใกล้กับจุดเกิดเหตุ กำลังเดินอยู่ข้างทางเพื่อจะกลับบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันกับจุดเกิดเหตุ ต่อมามีรถยนต์ขับมาจอดขนาบข้าง มีผู้ชาย 2 คนในรถ คนที่นั่งข้างคนขับลดกระจก และเรียกชื่อตน ตนจึงหันไปดู ชายคนดังกล่าวก็ดึงมือตนให้หันหน้าไปหาแล้วใช้มือป้ายที่หน้าตน 1 ที ตนก็มีอาการมือไม้อ่อนแรง สลึมสลือ ตื่นมาอีกทีก็พบมีคนพามานอนอยู่ตรงแผงของแม่ค้าข้างปั้มน้ำมันแล้ว ตรวจสอบก็พบแหวนทอง 1 วง และเงินสดอีกพันกว่าบาท หายไป
ต่อมา จนท.กู้ภัย แจ้งประสานให้ตำรวจ สภ.เมืองกระบี่ ทราบเรื่อง แต่นางนก ขอให้ จนท.ส่งกลับบ้านก่อน แล้วจะเข้าแจ้งความในภายหลัง ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ ผกก.สภ.เมืองกระบี่ สั่งการให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุ
นายลี้ส้า คลองรั้ว อายุ 54 ปี พ่อค้าขายกาแฟ ตรงจุดเกิดเหตุ เผยด้วยว่า หลังจากทราบว่ามีเหยื่อถูกแก๊งป้ายยา รูดทรัพย์ติดกับร้านของตน ตนกับภรรยา ก็หวาดกลัว เพราะเกรงว่ากลุ่มคนดังกล่าว จะมาก่อเหตุอีก จึงอยากฝากให้ จนท.ช่วยเร่งติดตามคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ก่อนนี้ในระยะ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุแก๊งป้ายยาสลบ รูดทรัพย์ ออกอาละวาดในหลายอำเภอของ จ.กระบี่ โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก ก็มีแก๊งดังกล่าว ลักษณะเป็นคนพิการนั่งรถวิลแชร์ ทำทีโบกรถขอโดยสารไปด้วย ก่อนที่เจ้าของรถจะถูกยาสลบ รูดเอาทรัพย์สินไปบางส่วน เจ้าตัวถูกนำส่ง รพ.สต.บ้านกลาง พบมีอาการสลึมสลือ นอกจากนี้ใน อ.เหนือคลอง ก็มีพฤติกรรมดังกล่าวเช่นกัน ทำให้ผู้คนในโลกโซเชียล ต่างพากันแชร์เรื่องราวเตือนภัยกันจำนวนมาก
