กระบี่-วงจรปิดจับภาพ เก๋งเพิ่งเปลี่ยนยางลืมถ่วงล้อ เสียหลักพุ่งชนร้านประดับยนต์เสียหาย
วันที่ 12 ส.ค.65 นี่คือนาทีอุบัติเหตุซึ่งกล้องวงจรปิดหน้าร้านประดับยนต์ เลขที่ 182/1 บนถนนศรีตรัง ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ บันทึกภาพนาทีที่รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ขว 404 สงขลา เสียหลักไถลพุ่งเข้าชนเสาหลังคาเหล็ก บริเวณหน้าร้านจนพังเสียหาย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองกระบี่ ประจำป้อมกระบี่ใหญ่ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนร้านเสียหาย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบรถเก๋งคันดังกล่าว พุ่งเข้าไปชนเสาโครงหลังคาหน้าร้านประดับยนต์ ในสภาพประตูฝั่งคนขับพังเสียหาย เสาโครงหลังคาถูกชนจนหลังคาหน้าร้านยุบลงมา นอกจากนี้ยังมีเศษกระถางต้นไม้ แท่งคอนกรีตหน้าร้าน กระเด็นไปโดนรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีแดง ทะเบียน กพ 1812 สงขลา ที่จอดอยู่หน้าร้านได้รับความเสียหายไปด้วย แต่ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บ
ข่าวน่าสนใจ:
- สงกรานต์67 : สรุป 7 วัน เสียชีวิต 287 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล่ว เจ็บ 2,060 คน
- กระบี่ (มีคลิป) อุณหภูมิร้อนสูง อช.หมู่เกาะพีพีจ.กระบี่ หวั่นปะการังฟอกขาว เร่งดำน้ำสำรวจ
- นครพนม คาร์แคร์รับทรัพย์หลังสงกรานต์ ยอดพุ่งเท่าตัว ต้องจ้างคนงานเพิ่ม
- ตรัง ผู้ว่าฯแถลงปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์
เบื้องต้นตรวจสอบพบคนขับรถเก๋งโตโยต้า ทราบชื่อคือ นายนริส กล่อมจิตร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 223/44 หมู่ 11 ต.กระบี่น้อย ให้การกับตำรวจว่า ก่อนหน้าจะเกิดอุบัติเหตุ นำรถไปเปลี่ยนยางมา แต่ไม่ได้ตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ขณะกำลังขับรถจะเข้าไปในตัวเมืองกระบี่ มาถึงจุดเกิดเหตุ รถเกิดเสียหลักจนหมุนอยู่บนถนน ก่อนจะไถลเข้ามาชนเข้ากับโครงหลังคาหน้าร้านดังกล่าวอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงแจ้งให้นายอาคม นิลพันธ์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านมาตรวจสอบความเสียหาย โดยเจ้าของร้านบอกว่า ช่วงเกิดเหตุ โชคดีที่พาคนงานในร้านออกไปทำงานข้างนอก จึงไม่มีใครอยู่ที่ร้าน
โดยเบื้องต้นทั้ง 2 ฝ่าย เจรจาเรื่องค่าเสียหาย ฝ่ายรถเก๋งโตโยต้า ยอมชดใช้ให้ จึงให้ทั้งคู่ไปลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.เมืองกระบี่
ขณะเดียวกันบรรดาชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ ต่างช่างสังเกต เห็นป้ายทะเบียนรถเก๋งฮอนด้าแอคคอร์ด ที่มีเลขทะเบียนคล้ายกับเลขที่บ้าน จึงพากันจดเลขไว้เอาไปเสี่ยงโชคกันด้วย.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: