X

กระบี่-เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ร่วมทีมฆ่า (รายละเอียด)

กระบี่- เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 1 ร่วมทีมฆ่า ขณะพบหลักฐานใหม่ปลอก-หัวกระสุน ในรถ “เสี่ยสุชาติ” ยืนยันถูกยิงในรถ

จากเหตุฆาตกรรมสุดโหด ยิง ราดน้ำกรดฝังดินนายสุชาติ ขาวล้วน อายุ 51 ปี หลังลูกสาวและญาติ แจ้งว่าหายตัวไปปริศนาตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยทราบเบาะแสหลังสุดคือขับรถเก๋ง เข้าไปทวงเงินค่าติดจากนายสุริยา เริงสมุทร หรือบังฟิต อายุ 31 ปี ในพื้นที่หมู่ 1 ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่ ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ตำรวจชุดสืบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ ไปพบหลุมฝังและเผารถเก๋งของนายสุชาติ ในสวนปาล์มใกล้บ้านบังฟิต และพบหลุมฝังศพนายสุชาติ นำไปสู่การออกหมายจับทีมสังหารโหด 4 ราย คือนายสุริยา หรือบังฟิต นายสุรชัย หรือกิบหลี เริงสมุทร อายุ 37 ปี พี่ชายบังฟิต นายสุริยันต์ หรือบังหนี เริงสมุทร อายุ 30 ปี น้องชายบังฟิต นายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 26 ปี ญาติผู้น้องบังฟิต ซึ่งต่อมานายสุวิทย์ เดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ และมีพยานเข้าให้ปากคำกับตำรวจอีก 5 คน ก่อนจะบุกจับผู้ร่วมก่อเหตุได้เพิ่มอีก 1 คน คือนายวิรัตน์ หรือตั้ม ศรีหมาด อายุ 34 ปี ขณะกำลังจะหลบหนี

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 พ.ค.64 พล.ต.ต.ภิญโญ หวลกสินธุ์ ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.พิษณุ อัชนะพรกุล รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ พ.ต.อ.ตานิตย์ รามดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จ.กระบี่ เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีทั้งหมดที่ห้องประชุม ศปก.สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ หลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.กระบี่ ได้หลักฐานสำคัญมาคือโทรศัพท์มือถือของนายสุชาติ จำนวน 2 เครื่อง ซึ่งกลุ่มคนร้ายนำไปขุดหลุมฝังไว้ที่สวนปาล์มห่างจากจุดฝังศพประมาณ 60 เมตร นำมาตรวจสอบข้อมูลการสนทนาผ่านทางแชตต่างๆ รวมถึงการโทรเข้าออกในช่วงก่อนเกิดเหตุ ประกอบกับคำให้การของพยานบางปากที่ให้การเป็นประโยชน์กับรูปคดี ทำให้ตำรวจต้องประมวลข้อมูลใหม่อีกรอบ เนื่องจากก่อนนี้มีพยานบางปาก ให้การสับสนทำให้ประมวลเหตุผิดเพี้ยนไป โดยชุดสืบสวนนำพยานหลักฐานต่างๆ มาปะติดปะต่อไล่ตั้งแต่เวลาที่นายสุชาติ เดินทางไปบ้านของบังฟิต จนถึงเวลาที่ถูกฆาตกรรม และคนร้ายช่วยกันทำลายศพและรถของผู้ตาย

นอกจากนี้ทางชุดสืบสวนคลี่คลายคดี ประสานให้กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ มาตรวจสอบรถเก๋งโตโยต้า โคโรน่า ของผู้ตายอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานสำคัญ โดยชุดพิสูจน์หลักฐาน นำเศษดินในรถของผู้ตาย มากรองหาหลักฐานอย่างละเอียด ปรากฎว่า พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่ในรถจำนวน 2 ปลอก เศษชิ้นส่วนหัวกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ชิ้น มีรอยรูกระสุนที่ประตูหลังฝั่งขวา 2 รู จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานสำคัญ เพราะเชื่อว่าเป็นกระสุนที่สังหารนายสุชาติ รวมถึงเชิญตัวนางน้ำค้าง สิงห์พิลา ภรรยาของนายสุชาติ และ น.ส.อารักษ์ ทับไทร ลูกสาว มาสอบสวนหาข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง

ชุดสืบสวนได้ภาพกล้องวงจรปิด ร่วมกับข้อมูลจากพยานบางคน ได้รายละเอียดว่า บังฟิต ติดต่อไปหาผู้ตาย เพื่อล่อให้ผู้ตายเข้าไปพบที่บ้าน บอกว่าจะคืนเงินที่ติดค้างให้ ต่อมาผู้ตายขับผ่านสามแยกไสไทย สามแยกนาไทย สามแยกช่องพลี ช่วงเวลาประมาณ 11.45 น. ของวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้ ทันทีที่นายสุชาติ ไปถึงบ้านบังฟิต ช่วงประมาณ 12.00 น. ก็ถูกกลุ่มบังฟิต และพวกจับตัวไว้และผลักให้เข้าไปนั่งในเบาะหลังของรถนายสุชาติ ก่อนจะขับพาเข้าไปในสวนยางก่อนลงมือยิงนายสุชาติ จนเสียชีวิตในรถ และทิ้งศพไว้รอทำลายในสวนยาง ก่อนที่หนึ่งในคนร้าย จะขับรถของผู้ตายออกมาจากจุดเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. มุ่งหน้าย้อนกลับไปเส้นทางเดิม และหายไปช่วงก่อนเข้าสู่ตัวเมืองกระบี่ ซึ่งคาดว่ากลุ่มคนร้ายตั้งใจสร้างหลักฐานให้ปรากฎในกล้องวงจรปิด ทำให้ดูเหมือนผู้ตายขับรถกลับออกไปแล้ว แต่คนร้ายขับรถกลับเข้าไปบ้านบังฟิต อีกครั้ง ในเส้นทางที่ไม่มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ก่อนจะนำรถไปเริ่มกระบวนการขุดหลุมเผา และฝังที่สวนปาล์มใกล้บ้านบังฟิต ในคืนวันที 3 พ.ค. เพื่อทำลายหลักฐานคราบเลือดผู้ตายในรถ ส่วนศพนายสุชาติ ก็ถูกนำไปขุดหลุมฝังในสวนยาง และซื้อน้ำกรดฆ่ายางมาราดศพ และช่วยกันฝังกลบ นอกจากนี้กลุ่มคนร้าย ยังตั้งใจนำหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 3 ปลอก ไปทิ้งไว้ในสวนยางเดียวกัน ห่างจากหลุมศพประมาณ 50 เมตร เพื่อจัดฉากให้เหมือนยิงในสวนยาง และนำโทรศัพท์ผู้ตายไปฝังห่างหลุมศพผู้ตาย 60 เมตร ซึ่งตำรวจไปขุดมาได้ดังกล่าว

หลังก่อเหตุบังฟิต เดินทางไปยังเกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา ในคืนเดียวกัน แต่รุ่งเช้ากิบหลี พี่ชายโทรศัพท์บอกให้กลับมาที่ จ.กระบี่ ก่อนจะชวนกันหลบหนี โดยจุดประสงค์เพื่อเบี่ยงเบนให้ตำรวจคิดว่าหนีไปซ่อนตัวที่เกาะยาว นอกจากนี้ในช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.วันเดียวกัน มีหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุ ใช้โทรศัพท์ของผู้ตาย โทรกลับไปหาญาติผู้ตาย ทำให้ดูเหมือนผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ แต่ญาติผู้ตายไม่ได้รับสาย และโทรกลับไปแต่ไม่มีคนรับสายแล้ว จากพยานหลักฐาน และการประมวลข้อมูลของตำรวจ ทำให้เชื่อได้ว่า ทีมสังหารทมิฬ มีการวางแผนล่วงหน้าไว้อย่างรอบคอบ มีการสร้างพยานหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงพยานก่อนนี้บางปาก อาจให้ข้อมูลที่ไม่ตรงความจริง ทำให้ตำรวจหลงประเด็น

พ.ต.อ.ตานิตย์ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีความชัดเจนทางคดีขึ้นมา หลังจากที่พยานได้ให้การที่เป็นประโยน์ ว่าเหตุยิงนั้นเกิดขึ้นในรถและล่าสุดได้พบหัวกระสุน 2 หัว ปลอกกระสุน 2 ปลอกแล้ว ซึ่งคนร้ายที่ลงมือสังหารอยู่ด้านซ้ายของรถส่วนคนตายอยู่ด้านขวา ส่วนจุดยิงนั้นเชื่อว่าอยู่ในบริเวณเดียวกับที่ฝังศพนายสุชาติ เบื้องต้นวันนี้คาดว่าจะสามารถออกหมายจับเพิ่มได้อีก 1 คน เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่เคยมีประวัติติดคุกในคดียาเสพติด พร้อมกับกิบหลี แต่ยังไม่ขอให้รายละเอียดตอนนี้

ด้านนางน้ำค้าง กล่าวว่า ภายหลังจากที่ตำรวจเริ่มได้พยานหลักฐานต่างๆ และมีการออกหมายจับแล้วหลายคน ตนเชื่อว่าเป็นการล่อสามีมาสังหาร มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ซึ่งสามีและบังฟิตนั้นก็รู้จักกันดีไม่น่าจะทำกันถึงขนาดนี้ ที่ผ่านมาก่อนสามีจะเสียชีวิตประมาณกลางเดือน เม.ย. ตนและสามี เคยไปทวงเงินที่บังฟิต มาแล้วรอบหนึ่ง แต่ไม่พบบังฟิต พบพ่อของบังฟิต ที่สามีลงไปพูดคุยด้วยโดยตนนั่งรอในรถ ซึ่งครั้งนั้นทราบว่าสามี ไปพูดข่มขู่พ่อของบังฟิต ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้บังฟิต เกิดความแค้นจนก่อเหตุในครั้งนี้.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน