X

กระบี่-เปิดใจ รองผู้ว่ากระบี่ กับสถานการณ์ จุดคัดกรองบ้านนาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ (รายละเอียด)

#Saveรองสมควร
#ทำไมคนกระบี่ต้องให้กำลังใจรองสมควร


————-
1 พ.ค.2563
เวลา 15:00 น.
ชี้แจงและรายงานผลการตรวจด่านคัดกรองระหว่างจังหวัด บ้านนาเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ : กรณีการคัดกรองการปล่อยคนออกจากเกาะภูเก็ต
ตามที่ ท่าน ผวจ.กระบี่ มอบหมายให้ผม และนายแพทย์วิทยา วัฒนเรืองโกวิท นายแพทย์ สสจ.กระบี่ ไปกำกับและตรวจสอบด่านคัดกรองบ้านนาเหนือ อ.อ่าวลึก ซึ่งเป็นด่านคัดกรองระหว่างจังหวัดพังงา และกระบี่ นั้น ขอรายงานการตรวจสอบ เพื่อประกอบการพิจารณาสั่งการด่านคัดกรองทั้งจังหวัดต่อไป ดังนี้
1. กรณี จังหวัดภูเก็ต ปล่อยคนออกจากเกาะภูเก็ต จำนวนนับหมื่นคน โดยเข้าใจเอาเองว่า มาตรการผ่อนคลาย เช่น LOCKDOWN และปลด CURFEW ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และหรือภารกิจในการควบคุมการระบาด COVID-19 สิ้นสุดลงแล้ว โดยมิได้ถือปฏิบัติตามข้อสั่งการของ มท. ว่าด้วยเรื่องมาตรการผ่อนคลาย ( DEREGULATION) ว่าควรจะทำพร้อมกัน เป็น STEP BY STEP ระหว่างจังหวัดทุกจังหวัด พฤติการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการระบาดใหม่ ( EMERGING CASES) ของแต่ละจังหวัด ซึ่งได้ใช้มาตรการต่างๆ ควบคุมการระบาด และการบริหารการจัดการได้ดีและเพียงพอ
แล้ว
2. เรื่องนี้ ท่าน ผวจ.กระบี่ ได้หารือ ทางผู้บังคับบัญชาแล้ว และโทรศัพท์แจ้งแนวปฏิบัติให้ผมทราบ ก่อนผมจะเดินทางถึงด่านดังกล่าว ว่า
ทาง มท.กำลังสั่ง BRAKE ภูเก็ต มิให้กระทำการเช่นนั้น แต่ถ้าสกัดกั้นได้ไม่หมด หรือกรณีถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านั้น จำนวน ประมาณ 4,000-5,000 คัน แล้ว ผวจ.กระบี่ นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ ภายใต้การประสานกับ รอง ผวจ.พังงา ( ขออนุญาตไม่เอ่ยนาม) นายแพทย์ วิทยา วัฒนเรืองโกวิท หารือร่วมกัน รวมทั้งสอบถาม สภาพ SITES งาน ของด่านคัดกรองบ้านนาเหนือ อ.อ่าวลึก จาก นายพลรัตน์ รองเลื่อน นายอำเภออ่าวลึก และ พ.ต.ท.ไมตรี นักธรรม รอง ผกก.สภ.อ่าวลึก ซึ่งเป็นผู้อยู่ประจำด่านคัดกรอง จนนำไปสู่การสั่งการเป็นแนวทางปฏิบัติ ดังนี้

2.1 จังหวัดกระบี่ไม่อนุญาตให้ยานพาหนะที่ผ่านด่านบ้านนาเหนือทุกคัน เข้ากระบี่ ยกเว้น ถ้ากรณีเป็นชาวกระบี่ และมีใบคัดกรองโรค หรือเอกสารใดๆ ทางการแพทย์ยืนยันว่าเขาเหล่านั้น ได้ผ่านการ SCREEN COVID-19 แล้ว และหรือหากท่านไม่สามารถแสดงหลักฐานดังกล่าวได้ ท่านสมัครใจที่จะเข้ากระบี่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ และเข้ารับการ TEST COVID-19 ณ สถานพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง หลังจากนั้น ท่านต้องเข้าสู่กระบวนการ LOCAL QUARANTINE จำนวน 14 วัน อย่างเคร่งครัด โดยที่ผู้เดินทางต้องออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างเอง หากผู้เดินทางไม่อาจถือปฏิบัติตามที่กล่าวมาได้ ด่านมีความจำเป็น ต้องแจ้งให้เขากลับไปยังต้นทางเดิมที่เขาเดินทางออกมา

2.2 กรณีเป็นคนจังหวัดอื่น หากเจ้าหน้าที่สอบสวนแล้วเชื่อได้ว่า เขาเป็นคนจังหวัดอื่นจริง โดยอาจพิจารณาจากหลักฐานบางประการ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียนรถยนตร์ ฯลฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ก็ชอบที่จะใช้ดุลยพินิจให้เขาผ่านด่านได้ ส่วนการที่เขาจะสามารถเดินทางไปถึงปลายทางจังหวัดใดหรือไม่ เป็นความรับผิดชอบเฉพาะตัวระหว่างเขาและด่านปลายทางเอง

2.3 กรณีตามข้อ 1 แม้หากผู้เดินทางจะมีหลักฐานการคัดกรองอย่างหนึ่งอย่างใดแล้วก็ตาม หากปรากฏเกิดความคลุมเครือ สงสัย และหรือไม่เพียงพอ เจ้าหน้าที่ก็อาจไม่อนุมัติให้เดินทางผ่านด่านก็ได้

2.4 กรณีเดินทางโดย FLIGHTS บินต่างๆ แล้วมีปลายทางที่ KRABI INTERNATIONAL AIRPORT ผู้โดยสารทุกคน ต้องถูกบังคับ LOCAL AUARANTINE สถานเดียวเท่านั้น เว้นแต่เขามีเอกสารสำคัญยืนยันได้ชัดแจ้งว่า เขาได้รับอนุญาตให้ยกเว้นผ่อนปรนเพราะเหตุใดๆ หรือมีเอกสารรับรองการตรวจหรือคัดกรองโรค ( MEDICAL EXAMINATIONS) ใดๆ ซึ่งอาจทำให้ท่าน ใช้ HOME ISOLATION หรือ SELF -QUARANTINE แทนได้ แต่ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ เขาจะยกเว้นการกักตัวในรูปแบบใดแบบหนึ่ง ไม่ได้เลย

3. การปล่อยคนออก ( FLEE) ของเกาะภูเก็ต ในขณะที่ส่วนกลางยังคงสั่งการให้จังหวัดต่างๆ คงมาตรการแบบเข้ม(INTENSIVE MEASURES) ทั้งในด้าน CURFEW ,SCAN AND SCREENING , ACTIVE CASE FINDING ( SCF) หรือระบาดวิทยา ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารการจัดการ การควบคุมการระบาด และมาตรการ PROTECTION AND PREVENTION OF COVID-19 ของจังหวัดกระบี่ และจังหวัดต่างๆโดย
มิอาจเลี่ยงได้ เป็นการสร้าง MASS RESISTANCE และก่อให้เกิดกระแสต้านจากมวลชนจนยากที่จะควบคุม เป็นพฤติการณ์ที่ขาดรับผิดชอบอย่างเพียงพอ และสร้างความเดือดร้อนให้จังหวัดอื่นเกินสมควร

4. จังหวัดกระบี่ทุกภาคส่วนต่างทุ่มเทมาตรการสู้ภัย COVID-19 อย่างเข้มข้นและเชิงรุกตลอดมา แม้ BASE ON เราจะมีลักษณะคล้ายเกาะภูเก็ต แต่การระดมภาคีหุ้นส่วนอย่างเป็นระบบและมืออาชีพ จึงสามารถตรึงจำนวน 20 CONFIRMED CASES มิให้ลุกลามใหญ่โต แต่ตอนใกล้จะจบ กระบี่กลับมากลายเป็นผู้รับและส่งเชื้ออุบัติใหม่ อีกครั้งหนึ่ง เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ หรือเป็น THE SECOND WAVE หรือ AFTER -SHOCK จึงไม่ใช่เรื่องที่ควรอดทน หรือเป็นธรรมต่อชาวกระบี่มากนัก

5. เหตุการณ์รถยนตร์และยานพาหนะติด ยาว 500 -600 เมตร ที่ด่านนาเหนือ อ.อ่าวลึก เมื่อเช้านี้ การระเบิดอารมณ์ของมวลชนที่บ้าคลั่ง และด่าทอคนทำงานอย่างอย่างหยาบคาย น่าเกลียดชังและก้าวร้าว ทาง LINE , PAGE และ FACEBOOK ต่อ รอง ผวจ. นอภ.อ่าวลึก นายแพทย์ สสจ. นอภ.เมืองกระบี่ และรอง ผกก.สภ. อ่าวลึก คือสิ่งที่พวกเราได้รับจากการทำงานหามรุ่งหามค่ำ และอุทิศเวลา โดยมิได้หลับนอน เป็นรางวัลที่เราได้รับจากการบริการหารงาน ที่ไม่แม้จะแจ้งจังหวัดปลายทาง ให้ทราบล่วงหน้า เพื่อการเตรียมกำลังพล เครื่องมือ จำนวน THERMO SCAN INFARED , HOTEL AND LOCAL QUARANTINE ได้ทัน หรือมีใบกำกับตรวจสอบใดๆ เฉพาะบุคคล หรือแจ้งรายชื่อปลายทางให้จังหวัดเพื่อนบ้านได้รับทราบ และเตรียมรับกระแสมวลชน จังหวัดภูเก็ตมีวิธีการหลายอย่างที่พึงกระทำได้ในฐานะนักบริหารมืออาชีพ แต่ท่านเลือกที่จะไม่ทำอะใรเลย ดังที่ควรจะเป็น แล้วปล่อยให้มวลชนมากดดันจังหวัดปลายทาง นี่คือความล้มเหลวของทีมงาน ระบบสื่อสาร และการทำงานแบบภาคีหุ้นส่วน อย่างสิ้นเชิง

6. ผมทราบว่า PANDEMIC OF CORONAVIRUS ทุกพื้นที่ในประเทศไทย ต่างเชื่อมโยงหากัน หรือ CONNECT กันทั่วโลก กระบี่เองก็ยังผ่อนคลายได้ไม่มากนัก หรือจะประกาศขัยชนะ COVID-19 แต่เพียงลำพัง โดยที่ INFECTIOUS CASES , DEATH TOLL ของจังหวัดอื่นยังเคลื่อนไหวอยู่ เราไม่อาจทำเช่นนั้นได้เพียงลำพัง

7. เราได้ผ่อนคลายให้แล้ว โดยการปล่อยยานพาหนะที่มีปลายทางจังหวัดอื่น ผ่านด่านได้ กล่าวคือให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างผู้เดินทางกับจังหวัดปลายทางนั้น แต่สภาพข้อเท็จจริง จังหวัดภูเก็ตปล่อยคนเดินทางข้ามสะพานสารสินมาอย่างมือเปล่า แล้วถามว่าใครต้องรับผิดชอบต่อ LOCAL หรือ SELF-QUARANTINE ของผู้เดินทาง ณ จังหวัดปลายทางนั้น และถามอีกว่า สถานะ CORONAVIRUS ที่ชาวโลกต่างชื่นชมจะองสานอย่างใร ?

8. อนึ่ง ผมยังถูกกดดันทั้งทาง SOCIAL MEDIA ,TEL ,FACEBOOK และ ระบบ LIND และอื่นๆ ทุกรูปแบบ จนผมต้องขอโทษชาวภูเก็ตผ่านทาง CLIP เสียง ที่ให้สัมภาษณ์ด้วยถ้อยคำที่ไม่เหมาะควรว่า “ ภูเก็ตปล่อยเชื้อให้จังหวัดเพื่อนบ้าน “ ไม่เป็นใรครับ ณ วันนี้ ผมอาจเสียขวัญกำลังใจไปบ้าง แต่ผมจะไม่ยอมให้ STANDARD และ BRAND ของผมตกต่ำลงไปมากกว่าเดิม ผมทราบดี ผมไม่ใช้เบอร์หนึ่งของจังหวัด แต่ผมก็ทราบวัฒนธรรม มท.ดีว่าเราไม่ควรทำอะใรโดยพลการ แต่เมื่อผมได้รับมอบหมายงานจากผู้บังคับบัญชาโดยชอบด้วยกฎหมาย ผมมีหน้าที่ต้องปฏบัติตามข้อสั่งการ เพียงแต่ผมอาจผิดที่มีความอดทนอย่างจำกัด ต่อการบริหารที่ไม่เหมาะควรของใครก็ตาม สุดท้ายขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ขอพระผู้เป็นเจ้าตอบแทนคืนเป็นอานิสงส์แด่ทุกท่านดุจเดียวกัน ?

สมควร ขันเงิน
รอง ผวจ.กระบี่
1 พ.ค. 2563

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน