X

“รัฐยอมรับผลผลิตสับปะรดล้นตลาด” ส่งผลราคาตกต่ำ เกษตรกรเดือดร้อน

เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เดือนร้อนหลังราคาผลผลิตลดเหลือเพียง1.80-2.60 บาทต่อกิโลกรัมหวั่นจะลดลงอีก  ซึ่งไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตที่กิโลกรัมละ 4.68 บาทต่อกิโลกรัม  ภาครัฐยอมรับว่าผลผลิตสับปะรดทั้งประเทศเกือบ 2 ล้านตัน ทำให้ล้นตลาดประกอบกับโรงงานแปรรูปประสบปัญหาส่งออก เบื้องต้นรัฐนำผลผลิต 17.50 ตัน ชุดแรกระบายจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปสู่ 5 จังหวัดภาคกลาง ช่วยเหลือเกษตรกรเบื้องต้น

15 พฤษภาคม 2561   นายปราโมทย์ รอดโพธิ์ทองชาวบ้านย่านซื่อ อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงราคาปัญหาสับปะรดที่ลดลงต่ำในขณะนี้ยอมรับว่าเกษตรกรชาวสวนที่ปลูกสับปะรดต้องประสบปัญหาขาดทุนแน่ เพราะต้นทุนที่เกษตรกรอยู่ได้ที่ประมาณ 4.68 บาท ซึ่งในส่วนของตนเองมีโควต้าส่งโรงงาน ซึ่งรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 2.00 -2.60 บาทต่อกิโลกรัม  ส่วนแผงรับซื้อสับปะรดรับซื้ออยู่ที่ 1.80 บาทต่อกิโลกรัม  ในส่วนที่เป็นเกษตรกรที่ไม่มีโควต้าในโรงงานก็จะลำบากเพราะตัดสับปะรดแล้วต้องนำไปขายแผง ในส่วนของที่ส่งโรงงานนั้นบางครั้งรับซื้อ 2.60 บาทต่อกิโลกรัม  ก็อาจจะถูกตัดลงอีกตามคุณภาพ  อย่างไรก็ตามในปัจจุบันปัญหาราคาผลผลิตที่ตกต่ำลง  เกษตรกรก็จำต้องรับภาระ ซึ่งในเดือนมิถุนายน ที่จะถึงนี้ในส่วนผลผลิตของตนเองที่จะต้องตัดส่งจำหน่ายให้กับโรงงานก็มีมากพอสมควร ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าราคาสับปะรดจะมีการปรับขึ้นราคาหรือราคาจะดิ่งต่ำลงไปอีก   ทราบว่าขณะนี้ภาครัฐมีการนำสับปะรด กระจายไปยังไปจำหน่ายให้ผู้บริโภค  5 จังหวัดแล้วก็ตาม อยากให้รัฐมีแนวทางอื่นๆเข้ามาแก้ไขปัญหาเพิ่มเติมด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน

                   ด้านนายอานนท์ โลดทนงค์ เลขาธิการสมาคมชาวไร่สับปะรดไทย กล่าวยอมรับว่าช่วงนี้ราคาสับปะรดลดลงจริง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนตัดจำหน่ายแล้วไม่คุ้มทุน ซึ่งตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมาจากราคาสับปะรดกิโลกรัมละ 7 บาท หลังจากนั้นเป็นต้นมาราคาเริ่มทยอยลดลงจนมาถึงขณะนี้เป็นที่ทราบดีว่าเหลือเพียง 2 บาทกว่าเท่านั้น  ปีนี้สับปะรดออกมาสู่ท้องตลาดเยอะด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยถือเป็นเรื่องธรรมชาติ  และผลผลิตสับปะรดจะมีมากในช่วงระหว่างเดือนพฤษภาคม –มิถุนายน  หลังจากนั้นเป็นต้นไปผลผลิตสับปะรดก็จะเริ่มลดลง   ช่วงนี้โรงงานผลิตสับปะรดกระป๋องที่มีอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีอยู่กว่า 10 โรงก็ยังผลิตอยู่แต่กำลังซื้อผลผลิตอาจจะลดลง   และการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรที่มีโควต้าเข้าโรงงานซึ่งในปัจจุบัน มีการดูในเรื่องคุณภาพของผลผลิตมากยิ่งขึ้น  ในปีนี้ผลผลิตสับปะรดทั้งประเทศไม่น่าจะเกิน 2 ล้านตัน ในส่วนของผลผลิตในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 9 แสนตัน ซึ่งในการแก้ปัญหาในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่สับปะรดที่กำลังได้รับคามเดือดร้อน ทางภาครัฐน่าจะหาทางช่วยเหลือด้วยการช่วยเหลือค่าปุ๋ย ค่ายา  หรือให้ความช่วยเหลือชดเชยเป็นไร่ให้กับเกษตรกร นอกจากการระบายผลผลิตสับปะรดออกไปสู่จังหวัดอื่นๆ

               ในขณะเดียวกันนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าจากข้อมูลซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตสับปะรด ออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมากประกอบกับสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ประกอบกับโรงงานแปรรูปสับปะรดประสบปัญหาการส่งออกตลาดต่างประเทศด้วย โดยภาพรวมทั้งประเทศผลผลิตทั้งปีประมาณ 1,800,000  ตัน ส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด 12,647 ราย มีพื้นที่การเพาะปลูกสับปะรด 447,328 ไร่  เป็นพื้นที่เก็บเกี่ยว 232,610 ไร่ และมีการคาดการณ์ผลผลิตทั้งปีประมาณ 995,570 ตัน ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศ ส่งผลให้ผลผลิตมีปริมาณมากล้นตลาด ประกอบกับโรงงานชะลอการรับซื้อ ทำให้ราคาผลผลิตลดลง ซึ่งในปีที่ผ่านมาจากสถิติข้อมูลพบว่าราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 4.95 บาทต่อกิโลกรัม ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งกำหนดแนวทางช่วยเหลือเกษตรกร อาทิการกระจายผลผลิตสับปะรดในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน  2561 ประมาณ 500 ตัน โดยรับซื้อจากเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในราคานำตลาดที่ 4.00 บาทต่อกิโลกรัม ในรอบแรกไปแล้วจำนวน 17.50 ตัน ไปยัง กรุงเทพฯ นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรสาคร และ สมุทรสงคราม   เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรผู้ปลูกสับปะรดในเบื้องต้น

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน