กรมทช.-กรมประมง    ยอมรับ”ฉลามหัวบาตร”กัดนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์

แพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพฯ ระบุอาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ที่ถูกสัตว์ทะเลกัดที่ขาซ้ายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ เย็บ 19 เข็มต้องพักรักษาประมาณ 4 เดือน ด้านสัตวแพทย์ ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง(ชุมพร) และนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามจากกรมประมง ดร.ทัศพล กระจ่างดารา  ยอมรับว่าเป็นบาดแผลจากการถูกฉลามหัวบาตรกัด  ขณะที่อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) สั่งการให้ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)  ลงพื้นที่วันพรุ่งนี้เพื่อหามาตรการป้องกันร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยงานเกี่ยวข้อง

                                 17 เม.ย. 61 ความคืบหน้ากรณี นายเวอร์เนอร์ ดาเนี่ยลเซ่น อายุ 54 ปี นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณขาซ้าย ขณะลงเล่นน้ำทะเลที่หาดทรายน้อย หมู่บ้านเขาเต่า อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเย็น( เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2561) ซึ่งนักท่องเที่ยวระบุว่าถูกสัตว์บางอย่างกัด คล้ายฉลาม ซึ่งนักท่องเที่ยวต้องช่วยกันหามร่างนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน

                              วันนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน, นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ,พ.อ.อานนท์ เพชรคำ หัวหน้ากองกิจการฝ่ายพลเรือน ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ได้ตรวจสอบข้อมูล และลงพื้นที่วัดถ้ำเขาเต่า เพื่อไปพบพระครูบุญญาภิราม หรือพระอาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า เจ้าของคลิปไลค์สดฝูงฉลามดังกล่าว โดยในครั้งนี้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ,นายมนตรี พาณิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน ,นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายบรรณารักษ์ เสริมทอง ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี ,นายวรรณ ชาตรี ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล  สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4  พร้อมด้วย สพ.ญ.วัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง(ชุมพร) พ.ต.ท.ขจรยศ ทรงประดิษฐ์ สว.ตร.น้ำปราณบุรี ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,ประมงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,ทหาร  ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบสภาพหาดทรายน้อย ที่พบฉลาม และสอบถามข้อมูลจากพระครูอภิญญาราม(พระอาจารย์แดง) เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า  และชาวประมงผู้ที่เคยพบเห็นฉลามในบริเวณนี้

                       เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า กล่าวว่าก่อนหน้านี้พบเห็นฉลามเข้ามาว่ายวนเวียนอยู่บริเวณชายฝั่ง และโขดหินฝั่งวัดถ้ำเขาเต่าเป็นประจำตั้งแต่ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะพบเห็นได้ในช่วงเย็นถึงช่วงค่ำ บางวันที่น้ำนิ่ง หรือน้ำขึ้นเยอะเคยเห็นฝูงฉลามเข้ามาว่ายประมาณ 40-50 ตัว โดยฉลามเหล่านี้จะเข้ามากินปลาเล็กๆที่อยู่ตามโขดหิน ซึ่งตนก็ไม่ได้แปลกใจอะไร จนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บขณะลงเล่นน้ำ และเขาระบุว่าถูกฉลามกัด ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีใครเชื่อว่าจะถูกฉลามกัด อาจจะโดนหอยเพรียง หรือหิน ในช่วงเย็นตนมายืนบนวัดซึ่งตั้งอยู่บนเขา และยื่นลงไปในทะเล ก็พบเห็นฉลามว่ายวนเวียนมา 3-4 ตัวจึงถ่ายวิดีโอพร้อมไลฟ์สด เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้มีฉลามเข้ามาบริเวณชายฝั่ง และมีลักษณะคล้ายฉลามหูดำ หรือ ฉลามครีบดำ  ความยาวประมาณเกือบ2เมตร และเมื่อดูคลิปบาดแผลของนักท่องเที่ยว ก็เป็นไปได้สูงว่าอาจจะถูกฉลามกัด

โดยในวันที่เกิดเหตุเมื่อทราบข่าวก็ก็ได้แจ้งชาวประมงบ้านเขาเต่า ให้แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวให้ขึ้นจากน้ำก่อน เพราะมีฉลามมาหากินอยู่ชายฝั่ง การโพสต์เมื่อวานนี้เป็นการโพสต์เตือนอยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ   และเฝ้าระวัง ไม่ได้อยากสร้างความตื่นตระหนก    แต่ต้องการนำเสนอความเป็นจริง

                        นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ บุญยะลีพรรณ ผช.ผอ.รพ.กรุงเทพหัวหิน กล่าวว่า อาการล่าสุดของคนไข้ดีขึ้นตามลำดับหลังจากเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 15 เมษายน 2561 โดยได้รับบาดเจ็บเป็นบาดแผลฉกรรจ์ที่เท้าซ้าย ต้องเย็บแผลไปทั้งหมด 19 เข็ม มีเส้นเอ็นเท้าขาด และกระดูกส้นเท้าแตกเล็กน้อย ขณะนี้บาดแผลดีขึ้น ไม่พบอาการอักเสบหรือติดเชื้อใดๆ โดยคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการรักษา ประมาณ 4 เดือน โดยพบว่าสุขภาพจิตของคนไข้ดีมาก ไม่มีอาการวิตกกังวลใดๆ และคนไข้ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนมาถึงมือหมอเป็นอย่างดี

                       ด้านนายบรรณารักษ์ เสริมทอง ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี กล่าวว่า พื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่ติดกับแนวเขตพระราชฐาน จึงห้ามมิให้มีการทำประมงในบริเวณดังกล่าวมานานแล้ว ทำให้สัตว์ทะเลชุกชุมและอุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีความเป็นไปได้ว่า ฉลามจะเข้ามาอยู่อาศัยและหากินในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบฉลามจริง จะเสนอกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ติดตั้งตาข่ายกันฉลามล้อมรอบจุดที่นักท่องเที่ยวเล่นน้ำเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนข้อมูลให้นักท่องเที่ยวได้เข้าใจและทราบสถานการณ์ เพื่อให้ไม่เกิดการตื่นตระหนก

ขณะเดียวกัน สพ.ญ.วัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง(ชุมพร) กล่าวว่าได้สอบถามข้อมูลกับนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านฉลามจากกรมประมง ดร.ทัศพล กระจ่างดารา โดยดูจากภาพบาดแผล เทียบเคียงกับคลิปวีดีโอที่บันทึกภาพฉลามได้ที่หน้าวัดถ้ำเขาเต่า และตรวจสอบพื้นที่สภาพแวดล้อมจุดเกิดเหตุ พบว่ามีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นฉลามหัวบาตร โดยตั้งสมมุติฐานการกัดในครั้งนี้ไว้ 2อย่างคือ กัดเพราะความตกใจ ด้วยฉลามมีพฤติกรรมระวังภัย อาจเป็นไปได้ว่านาทีที่นักท่องเที่ยวกระโดดน้ำและเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉลามว่ายน้ำผ่านมาพอดี หรืออาจเป็นเพราะจังหวะที่นักท่องเที่ยวอยู่ในน้ำแล้วฉลามว่ายผ่าน และเข้าใจว่านักท่องเที่ยวเป็นอาหารจึงมีพฤติกรรมงับเพื่อเช็คเหยื่อว่าสามารถกินได้หรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่ใช่พฤติกรรมการกัดเพราะต้องการทำร้าย เพราะหากกัดในลักษณะทำร้ายจะเป็นการกัดที่รุนแรงมากกว่านี้ หรือมีการกัดพร้อมกันหลายตัว

                     พ.อ.อานนท์ เพชรคำ หัวหน้ากองกิจการฝ่ายพลเรือน ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรีกล่าวว่า พลตรี สุเทพ นพวิง ผู้บัญชาการศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ปราณบุรี ได้สั่งการให้มาร่วมตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในวันนี้ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำอากาศยานไร้คนขับมาทำการบินตรวจสอบบริเวณหาดทรายน้อย-หาดเขาเต่า และพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อดูฉลาม  ในพื้นที่ดังกล่าวว่ามีมากน้อยขนาดไหน  เพื่อทำการบันทึกภาพและเก็บไว้เป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนั้น นายแพทย์ วีระศักดิ์ พงษ์พัฒนพันธ์ ผอ.โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน  ได้นำคณะนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายรุจน์ประทีป ธรรมรพภัทร์ นายอำเภอหัวหิน ,นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ,พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ ได้เดินทางไปยังห้องพักโรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน  เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บของนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกฉลามหัวบาตรกัด  เป็นตัวแทนหน่วยงาน มอบช่อดอกไม้และกระเช้าปลอบขวัญนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ได้มีสีหน้าที่ยิ้มแย้มแสดงความดีใจเป็นอย่างมาก

                 นายโชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าหลังจากรับทราบปัญหาและผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่หาดทรายน้อยแล้วได้มีความเป็นห่วงและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีกจึงได้สั่งการให้มีชุดเฝ้าระวังและแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวและประชาชนที่จะมาลงเล่นน้ำที่หาดทรายน้อย ซึ่งประกอบไปด้วย ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน,ตำรวจท่องเที่ยว,เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลละชายฝั่ง(ทช.) รวมทั้งให้ทางเทศบาลเมืองหัวหิน จัดทำป้ายแจ้งเตือน ติดตั้งไว้ที่บริเวณหาดทรายน้อย ซึ่งเบื้องต้นทั้ง 2 มาตรการได้มีการดำเนินการแล้ว และยังเหลือมาตรการอื่นๆ ซึ่งจะมีการกำหนดและหารือร่วมกันระหว่างจังหวัดประจวบฯ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)

ด้านนางอมรรัตน์  แพงงา  อายุ 43 ปีภรรยาชาวไทย กล่าวว่าสามีตนเองกำลังใจดีมาก และยังได้ฝากขอบคุณชาวไทยทุกคนและชาวต่างชาติที่ให้การช่วยเหลือพามาส่งโรงพยาบาลกรุงเทพหัวหิน  ซึ่งสามีตนเองกล่าวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้เสียกำลังใจในการที่จะเดินทางมาเที่ยวในประเทศไทย เพราะเรื่องของฉลามที่เข้ามากัดนั้นเป็นเรื่องที่ในต่างประเทศก็เกิดขึ้น แต่อยากให้มีการหามาตรการป้องกัน ทั้งการติดป้ายประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็จะได้เกิดความระวังและจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต รวมทั้งสามียังกล่าวอีกว่าในวันเกิดเหตุนั้นในช่วงที่โดนกัดนั้นน่าจะเป็นลูกของฉลามเพราะรู้สึกเหมือนมีตัวแม่ว่ายอยู่ข้างๆเพราะหากโดยตัวแม่กัดคงหนักว่านี้

               หลังจากนั้น  นายบรรณารักษ์ เสริมทอง ผอ.สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี ,นายวรรณ ชาตรี ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล  สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 เพชรบุรี สพ.ญ.วัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง(ชุมพร) ได้เข้าพบและพูดคุยในรายละเอียดกับนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ที่โดนฉลามกัด  ทั้งนี้เพื่อเป็นข้อมูลเพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ฝั่งทะเลอ่าวไทยมานาน

ต่อมาในช่วงเวลา 16.00 น.พ.ต.ท.ขจรยศ ทรงประดิษฐ์ สว.ตร.น้ำปราณบุรี ได้นำหน่วยงานราชการ และสื่อมวลชนขึ้นเรือตรวจการณ์หมายเลข 527 เรือตรวจการณ์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ออกจากท่าเทียบเรือบ้านหัวดอน เขาตะเกียบและได้แล่นไปยังชายหาดเขาเต่า-หาดทรายน้อย เพื่อตรวจสอบฝูงฉลาม ในขณะที่บริเวณหาดทรายน้อย จุดที่เกิดเหตุนักท่องเที่ยวถูกฉลามกัดนั้น  ทางเทศบาลเมืองหัวหิน ได้ทำป้ายแจ้งเตือนนักท่องเที่ยว รวมทั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ได้เดินทางมายังหาดทรายน้อย และเข้าแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ยังไม่ทราบให้ระมัดระวัง และไม่ควรลงเล่นน้ำในช่วงเย็น

โดยเจ้าหน้าที่พบเห็นฉลามยาวกว่า 1 เมตรโผล่ขึ้นมาบริเวณหาดทรายน้อย 1 ตัว แต่ไม่สามารถจับภาพไว้ได้ทัน หลังจากนั้นจึงว่ายหายไปขณะเดียวกันก็พบว่าบริเวณวัดถ้ำเขาเต่า มีสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่รวมทั้งพระที่วัดก็พบเห็นฉลามจำนวน 3 ตัวมีวามยาวประมาณ 1.5 เมตร ด้วยเช่นกัน

ซึ่งทาง สพ.ญ.วัชรา ศากรวิมล นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง(ชุมพร) ก็เห็นด้วยเช่นกันแต่ก็ไม่ชัดมากนัก  อย่างไรก็ตามได้เกิดพายุและฝนตกหนักนานกว่า 2 ชั่วโมงจนถึงช่วงค่ำ

อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) ได้มอบหมายให้นายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)  ลงพื้นที่และร่วมกำหนดมาตรการตลอดจนแนวทางการป้องกันในพื้นที่บริเวณหาดทรายน้อย ร่วมกับทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอหัวหิน เทศบาลเมืองหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน และนักท่องเที่ยว