X

แล้วไงกันนี่!! กรมป่าไม้ ลงพื้นที่เขาตะเกียบปลูกต้นไม้ฟื้นฟูป่า

 

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติที่ 10 เพชรบุรี ,ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1(ภาคกลาง)กรมป่าไม้  ลงพื้นที่เช่าป่าเขาตะเกียบซึ่งมีการร้องว่ามีการปรับไถพื้นที่ป่าเขาตะเกียบ  มาช่วยผู้เช่าร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และยืนยันว่าไม่ได้มาตรวจสอบ ส่วนลูกชาย”เสี่ยเม้ง” ผู้เช่ายืนยันว่าไม่หวั่นถูกเพิกถอน เราทำตามกฎหมายและวัตถุประสงค์ที่ขออนุญาตเช่าพื้นที่จากกรมป่าไม้

ความคืบหน้ากรณี บริษัท หัวหินพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดย นายณัฐศักดิ์  หรือเสี่ยเม้ง พรหมเกียรติคุณ เจ้าของร้านอาหารลาแม บนเขาตะเกียบ ,และนายเดชากิจ พรหมเกียรติคุณ บุตรชาย ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 บนเนื้อที่ 32 ไร่ 2งาน บริเวณบนเขาตะเกียบ ตำบลหนองแกอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  และต่อมามีชาวบ้านร้องเรียนถึงการที่ บริษัท หัวหินพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นำเครื่องจักรเข้าไปไถปรับพื้นที่ ถมดินทำถนนชายเขาตะเกียบ กว้าง 8 เมตรยาว 125 เมตร เป็นพื้นที่0-2-25 ไร่ด้านฝั่งทะเลด้านหลังรูปปั้นพระยืนว่า ถือเป็นการบุกรุกทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่ จนต่อมานายอำเภอหัวหิน  เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง

ซึ่งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562ที่ผ่านมา    มีชาวบ้านร้องเรียนถึงการที่ บริษัท หัวหินพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นำเครื่องจักรเข้าไปไถปรับพื้นที่ ถมดินทำถนนชายเขาตะเกียบ ด้านฝั่งทะเลด้านหลังรูปปั้นพระยืนว่า ถือเป็นการบุกรุกทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ต่อมาวันที่ 22 สิงหาคม นายอำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย นายณัฐศักดิ์ และนายเดชากิจ ได้นำเอกสารสัญญาเช่า และภาพถ่ายมายืนยัน โดยระบุว่า ได้ทำการไถปรับพื้นที่ในเขตที่ได้รับอนุญาต ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา โดยจะทำการปรับพื้นที่เพื่อทำจุดชมวิว ทางเดินเพื่อเชื่อมไปวัดเขาตะเกียบ โดยระบุว่าชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถมาใช้ประโยชน์ร่วมกันนายมงคลกิตติ์ หรือเต้  สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รับฟังข้อร้องเรียนของชาวบ้านเขาตะเกียบ โดยมีนางสาวบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน, นายพิษณุ กล้าขาย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขตอำเภอหัวหิน,นายชีพ สุกสี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมด้วย ชาวบ้านและกลุ่มชาวประมง ยื่นหนังสือคัดค้าน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่รวมทั้งชูป้าย และแผ่นผ้าข้อความต่อต้านการทำถนนบนเขาตะเกียบ ทวงคืนป่าไม้เขาตะเกียบให้คนหัวหิน   และจากการตรวจสอบ สภาพล่าสุดพบว่า มีการปรับถนนเป็นถนนดินลูกรัง และมีการปลูกต้นไม้ 2 ชนิดคือต้นปีบ ไม้พุ่มเตี้ย และต้นพญาสัตบรรณ ไม้ยืนต้น ที่ฝั่งติดทะเล  แต่จากการสภาพการปรับพื้นที่ มีความชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนแปลงสภาพป่า โยกย้ายหินบางส่วน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าโดยเฉพาะลิงแสม

นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ ซึ่งอนุญาตให้เอกชนเช่าให้เข้าทำประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จากการตรวจสอบในข้อสัญญา การดำเนินการที่เอกชนรายนี้เข้าดำเนินการไม่สามารถทำได้ ถือเป็นการผิดเงื่อนไขสัญญา จะต้องมาพิจารณาว่าจะยกเลิกสัญญาหรือไม่ ตอนนี้เอกชนรายนี้ยังมีสัญญาอยู่ ดังนั้นกรณีนี้ถือว่ากรมป่าไม้คือผู้เสียหาย

โดยนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  กล่าวว่าอธิบดีกรมไม้ คนปัจจุบันกำลังวินิจฉัยว่าจะยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ จะทราบคำตอบภายใน 7 วัน ถ้ามีการยกเลิกสัญญาจะต้องดำเนินการใน 2 ส่วนคือ การตั้งคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ถ้าเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ดำเนินการตามคดีอาญา ในส่วนของเอกชนที่ถือครองพื้นที่เมื่อมีการยกเลิกสัญญาจะมีความผิดฐานบุกรุกป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54-55  ทั้งนี้มองว่ากรมป่าไม้ต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งมีประชาชาออกมาคัดค้าน ถ้าปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินการต่อไป ต่อไปจะเกิดกรณีเอกชนขอเช่าพื้นที่ป่าทำรีสอร์ท โรงแรม กันมากมาย

(  ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 3 กันยายน 2562 )  นายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผอ.สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ,นายชำนาญ สมบัตินิมิต ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า lสำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ,นายภูษิต หิรัญพฤกษ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 1(ภาคกลาง)กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ กว่า 10 นาย ได้เดินทางไปยังร้านอาหารลาแม อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์   และพบปะ หารือกับนายณัฐศักดิ์  หรือเสี่ยเม้ง พรหมเกียรติคุณ เจ้าของร้านอาหารลาแม บนเขาตะเกียบ ,และนายเดชากิจ พรหมเกียรติคุณ บุตรชาย ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 บนเนื้อที่ 32 ไร่ 2งาน บริเวณบนเขาตะเกียบ

นายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผอ.สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี  กล่าวว่าวันนี้ไม่ได้มาตรวจสอบ เพราะมีการตรวจสอบไปแล้วของหน่วยงาน วันนี้ที่มาเพื่อมาร่วมกันปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ ทั้งไม้พะยูง หว้า ต้นลั่นทม และพันธุ์ไม้อื่นๆอีกหลายๆชนิด ประมาณ 500 ต้น และในวันศุกร์นี้จะมีการปลูกหญ้าแฝกอีก 5,000 ต้นโดยร่วม กับทางผู้เช่าพื้นที่บริเวณแปลงเขาตะเกียบ  โดยเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ที่มาร่วมกับทางผู้เช่าที่ดินแปลงดังกล่าว รวมๆแล้วกว่า 20 คน ได้นำต้นไม้ลงปลูกในพื้นที่บริเวณฝั่งชายเขา และบริเวณขอบถนนริมทะเล ซึ่งจุดที่มีการปลูกต้นไม้ในครั้งนี้เป็นจุดที่ชาวบ้านมีการร้องเรียน ว่าทางผู้เช่าบริษัท หัวหินพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นำเครื่องจักรเข้าไปไถปรับพื้นที่ ถมดินทำถนนชายเขาตะเกียบ ทั้งนี้การปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆก็เพื่อเป็นการฟื้นฟูทรัยพากรธรรมชาติ และทางกรมป่าไม้ตรวจสอบแล้วการดำเนินการของผู้เช่าก็ยังคงอยู่ในเงื่อนไขที่กรมป่าไม้ระบุไว้  ตามที่มีการยื่นขออนุญาต

โดยกล่าวยอมรับว่าพื้นที่แปลงดังกล่าวภาคเอกชนมีการทำเรื่องเช่ากับกรมป่าไม้อย่างถูกต้อง ซึ่งในผังนั้นก็ระบุไว้แล้วว่าผู้เช่าสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างตามเงื่อนไข ซึ่งผู้เช่าสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่เช่า 30 เปอร์เซ็นต์ ในส่วนที่เหลือก็จะต้องเป็นพื้นที่อนุรักษ์

นายชาตรี วชิระเผด็จศึก ผอ.สำนักทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี  ยังได้แจ้งต่อสื่อมวลชนด้วยว่าตามที่ปรากฏจากภาพข่าวว่าอธิบดีกรมป่าไม้ สั่งระงับ นั้นทางอธิบดีกรมป่าไม้  ยืนยันว่าไม่ได้ให้ข่าวสั่งระงับ  โดยในวันนี้ ตามหนังสือเอกสารที่นำมาให้ทางผู้เช่าในวันนี้ ระบุว่า ให้ยุติการกระทำใดๆที่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งขณะนี้อธิบดีกรมป่าไม้ ได้รับข้อมูลรายละเอียดและเอกสารทั้งหมดแล้ว   โดยทางอธิบดีกรมป่าไม้ จะดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายต่อไป และที่มาวันนี้ต้องบอกว่ามาร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูกับทางผู้เช่าพื้นที่ ซึ่งการตรวจสอบที่ผ่านมามีคณะกรรการเข้ามาตรวจสอบไปแล้ว

ด้านนายเดชากิจ พรหมเกียรติคุณ ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 บนเนื้อที่ 32 ไร่ 2งาน บริเวณบนเขาตะเกียบ กล่าวว่าการปรับพื้นที่บริเวณดังกล่าวนั้นทำตามกฎระเบียบที่ผู้เช่าสามารถกระทำได้  ทั้งการทำทางเดินซึ่งลูกค้ากับชาวบ้านสามารถเดินไปกราบไหว้พระยืนได้ มีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น   มีการนำดินมาถมตลอดจนการปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ          ซึ่งก็เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ อีกทั้งทางกรมป่าไม้ยังได้เข้ามาให้คำแนะนำในการร่วมกันทำอย่างไรที่จะให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกรมป่าไม้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้กรมป่าไม้ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและแจ้งมาแล้วว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์

ตามที่มีการเสนอข่าวของสื่อมวลชนว่าภายใน 7 วัน อธิบดีกรมป่าไม้จะมีการพิจารณาเพิกถอนพื้นที่เช่าแปลงนี้ เรื่องนี้ทางตนเองไม่หวั่นวิตกอะไร เนื่องจากทำตามวัตถุประสงค์ที่ของกรมป่าไม้ ซึ่งเมื่อวานก็ให้ พนักงานไปเชิญนายมงคลกิตติ์ หรือเต้  สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ   หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่เดินทางมาพื้นที่ เพื่อที่ทางเราผู้เช่าจะได้ชี้แจงพร้อมเอกสารหลักฐานและพร้อมตอบข้อสงสัยแต่ท่านก็ตอบว่าได้อ่านเอกสารแล้ว ท่านก็หนีขึ้นรถตู้กลับไป   ทั้งที่มามี สส.คนอื่นๆฝ่ายปกครอง  รอท่านมงคลกิตติ์ อยู่นานถึงชั่วโมงก็ไมยอมมา  วันนี้เราไม่หวั่นอะไรเพราะเราก็อยู่ภายใต้กฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายป่าไม้ก็แรงมาก

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน