สลด! พบซากช้างป่างางามล้มผิดธรรมชาติในป่ากุยบุรี  

ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าของไร่สับปะรด พบช้างป่าขนาดใหญ่มีงาสวย ล้มอยู่ในร่องลำห้วยกลางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เบื้องต้นหัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์ประจวบฯ ระบุตายผิดธรรมชาติหรืออาจได้รับสารพิษ    รอทีมสัตว์แพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี พลิกและผ่าซากพิสูจน์วันที่ 13 มกราคม 2561

12 มกราคม 2561   ช่วงเย็นที่ผ่านมากำนันตำบลหาดชาม และผู้ใหญ่บ้านพุบอน ได้รับแจ้งจากนายจรัส เตี้ยแจ้ ชาวบ้านกุยบุรี เจ้าของไร่สับปะรด  ซึ่งพบซากช้างป่าขนาดใหญ่มีงาล้มกลางร่องลำห้วยส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง หมู่ 8 บ้านพุบอน  ต.หาดขาม อ.กุยบุรี  จึงแจ้งให้กำนันตำบลหาดขาม และ ผู้ใหญ่บ้านพุบอน ได้รับทราบ หลังจากนั้นมีการแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเดินทางไปตรวจสอบ

ต่อมานายกาญจนพันธุ์ กำแหง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานฯและนายชาตรี จันทร์วีระชัย นายอำเภอกุยบุรี,นายสัตวแพทย์สาโรจน์ จันทร์ลาด หัวหน้าฝ่ายสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประจวบคีรีขันธ์,นายศรีสวัสดิ์ บุญมา กำนันตำบลหาดขาม ,นายภราดร ศรีสวัสดิ์ ผู้ใหญ่บ้านพุบอน,จ่าสิบเอกสมพร หงส์ทอง หัวหน้าชุดรักษาความสงบที่ 2 พื้นที่อำเภอกุยบุรี ตลอดจน ตร.สภ.บ้านยางชุม,ตร.พิสูจน์หลักฐานประจวบคีรีขันธ์,ทหารชุดประสานงานโครงการพระราชดำริ บ้านรวมไทย และหน่วยงานเกี่ยวข้องเดินทางไปยังจุดที่รับแจ้งพบซากช้างป่าล้มในลำห้วย

เบื้องต้นจากการตรวจสอบของนายสัตวแพทย์สาโรจน์  พบว่าเป็นช้างป่าเพศผู้(ช้างพลาย) อายุไม่น้อยกว่า20 ปี มีงายาวสวยงามพ้นออกมาจากโพรงปากประมาณ 40-50เซนติเมตร ทั้ง 2 ข้าง หางสั้นล้มตะแคงซ้ายอยู่ในร่องลำห้วยเริ่มส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าล้มมาแล้วอย่างน้อยกว่า 12 ชั่วโมงซึ่ง

ซึ่งการตรวจสอบตัวช้างป่าด้านซีกขวายังไม่พบร่องรอยบาดแผลแต่อย่างใด  ซึ่งสันนิฐานในเบื้องต้นว่าเป็นการล้มที่ผิดธรรมชาติ โดยมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะได้รับสารพิษ แต่จะเป็นสารอะไรนั้นต้องรอทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชมาตรวจสอบในวันพรุ่งนี้และผ่าพิสูจน์เพื่อเก็บตัวอย่างอวัยวะไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อหาสาเหตุการล้มอีกครั้ง

ซึ่งตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ใช้เครื่องสแกนโลหะที่ตัวช้างป่าด้านขวาแล้วไม่พบหัวกระสุน  แต่สำหรับอีกด้านต้องรอวันพรุ่งนี้เช่นกัน

ขณะเดียวกันนายศรีสวัสดิ์ กล่าวว่าในพื้นที่ป่ากุยบุรี ไม่เคยพบปัญหาช้างป่าล้มผิดธรรมชาติมานานหลายปีแล้ว ส่วนกรณีช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ออกมากินพืชผลทางการเกษตรในพื้นที่บ้านพุบอนไม่ค่อยพบความเสียหายจากช้างป่า ในครั้งนี้ช้างป่ามีงาสวยงามมาล้มในพื้นที่รู้สึกเสียใจ และคงต้องรอผลผ่าพิสูจน์และการพลิกซากช้างป่าในวันพรุ่งนี้ด้วย

ด้านนายจรัส เตี้ยแจ้ ชาวบ้านกุยบุรี เจ้าของไร่สับปะรด  กล่าวว่าเมื่อคืนได้มาเฝ้าไร่สับปะรด และได้กลิ่นเหม็นแต่ไม่รู้ว่าเป็นกลิ่นอะไร จนกระทั่งวันนี้ได้ตัดสินใจเดินเข้าไปในป่าหนามต้นกระชิด ด้านในยังเป็นป่ารกและเดินไปตามลำห้วยประมาณ 200 เมตร จนกระทั่งเห็นเลือดในลำห้วยและกลิ่นเหม็นเริ่มรุนแรงมากขึ้นกระทั่งเดินไปพบซากช้างป่าขนาดใหญ่ล้มอยู่กลางลำห้วยเวลานั้นรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านพุบอนและกำนันตำบลหาดขาม

อย่างไรก็ตามนายนิธิ อาจสมรรถ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 เพชรบุรี,นายวัฒนา พรประเสริฐ ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ ฯ ได้เดินทางเข้าพื้นที่แต่เนื่องจากว่าเริ่มมืดแล้ว และเป็นป่ารก  และกล่าวว่าซึ่งจุดที่ช้างป่าล้ม  เบื้องต้นหากหลังผ่าพิสูจน์และถอดเอางาออกแล้ว อาจไม่สามารถขุดหลุบฝังกลบได้ เนื่องจากรถแบ็คโฮไม่สามารถเข้าไปได้ อาจต้องใช้วิธีการนำยางรถยนต์มาทำการเผาซากแทน ในวันนี้ยังระบุไม่ได้ว่าช้างป่าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตัวที่ล้มครั้งนี้เกิดจากสาเหตุอะไรต้องรอการผ่าพิสูจน์และพลิกซากช้างป่าอีกด้านในวันที่ 13 มกราคม

ภาพ ..สมบัติ ลิมปจีระวงษ์-พิมพร อยู่รุ่ง