ป่าครอบครัวบ้านวไลยหัวหิน ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่ ตั้งแค๊มป์ริมอ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม

ทสจ.ประจวบฯ จัดกิจกรรมส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ป่าครอบครัวบ้านวไลย หัวหิน ชวนนักท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ตั้งแคมป์ สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตชุมชน ที่ลานกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม

(วันนี้ 22 สิงหาคม 2566) ณ ลานริมอ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม ต.หนองพลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายองครักษ์  ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิด “กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน” ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง  พร้อมด้วยนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบคีรีขันธ์, นายไพศาลสุข  สุขเกษม ปลัดอำเภอหัวหิน , นายสนิท ทรัพย์มา รองนายก อบต.หนองพลับ ,นายอภิชาต  ดินแดง ผู้ใหญ่บ้านวไลย ,หัวหน้าส่วนราชการ  คณะครู นักเรียนนโรงเรียนบ้านวไลย และชาวบ้าน เข้าร่วมพิธีเปิด

กิจกรรมดังกล่าว เป็นการสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ในการจัดการป่าในระดับครอบครัว และระดับชุมชนอย่างยั่งยืน  และประชาสัมพันธ์ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัวในการใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ ความหลากหลายทางชีวภาพ   รวมทั้งเป็นส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ โดยพื้นที่บ้านวไลย สามารถใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจุดกางเต็นท์ ริมอ่างเก็บน้ำห้วยไทรงาม ซึ่งมีทัศนียภาพที่สวยงาม สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านในชุมชนบ้านวไลย ทั้งการทำการเกษตร การเลี้ยงสัตว์

ปัจจุบันอ่างเก็บน้ำแห่งนี้น้ำในอ่างเหลือปริมาณน้อย แต่ก็ยังคงมีบัวหลวงออกดอกสีชมพู ให้ได้พบเห็น รวมทั้งมีการติดตั้งป้ายแลนด์มาร์คให้นักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมได้ถ่ายรูปที่สวยๆ เพื่อนำไปแบ่งปันประสบการณ์ให้กับเพื่อนๆ

ด้านนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทางสำนักงานฯร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) สทอภ. ได้ดำเนินโครงการจำแนกประเภทป่าไม้และวิเคราะห์ความหนาแน่นชั้นเรือนยอด ของพื้นที่ป่าไม้จากการวิเคราะห์ความหนาแน่นชั้นเรือนยอด พบว่า ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านวไลย มีป่าเบญจพรรณเป็นส่วนใหญ่มีความหนาแน่นปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 93.47 โดยมีปริมาณการกักเก็บคาร์บอนของพื้นที่ป่าชุมชนบ้านวลัย พื้นที่ป่าเบญจพรรณ คิดเป็น 2,798.85 ตันคาร์บอนไดออกไซด์หรือเทียบเท่า ซึ่งจะดำเนินการขอขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือน กระจกในประเทศโดยความสมัครใจต่อไปในอนาคตอีกทางหนึ่งด้วย

การจัดกิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการป่าชุมชนและการจัดการป่าในระดับครอบครัว เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว”  ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานคิดที่ว่า “ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ”

โอกาสนี้ นายองครักษ์  ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ ยังได้ร่วมกันส่งมอบ แจกจ่ายกล้าไม้ประจำถิ่น และกล้าไม้ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง จำนวน 9,500 กล้า ให้กับชุมชนบ้านวไลย และร่วมกันปลูกต้นจันทน์หอม ลงในพื้นที่เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับหมู่บ้าน ตลอดจนเยี่ยมชมพื้นที่แสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการจากเครือข่ายป่าชุมชน เครือข่ายป่าครอบครัว เครือข่าย ทสม. ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ที่นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย อาทิป่าครอบครัวพรุแม่รำพึง อ.บางสะพาน ป่าครอบครัว บ้านเขาราง ป่าครอบครัว บ้านวลัย และผลิตภัณฑ์ครือข่าย ทสม.ประจวบฯ และพืช ผักผลไม้ ปลอดสาร นำมาจำหน่าย