X

ทสจ.ประจวบฯเปิดป่าครอบครัวบ้านโคกตาหอม ส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566 พร้อมเชิญชวน ประชาชน บันทึกการปลูกต้นไม้ ในโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ผ่านเว็บไซต์ https://plant.forest.go.th/ จังหวัดประจวบฯมีการปลูกต้นไม้ลำดับที่ 40 ของประเทศ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนปลูก จำนวน 3,428 ท่าน จำนวน 967,930 ต้น

วันที่ (1 มิถุนายน 2566) ณ ชายหาดบ้านโคกตาหอม หมู่ที่ 9 ตำบลอ่างทอง อำเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ.2566 ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมจัดให้มีการออกบูธนำผลิตภัณฑ์และบริการจากป่าชุมชนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาจำหน่าย โดยมี นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เป็นประธานเปิด พร้อมด้วย นางเนาวรัตน์ สายชุ่มอินทร์ ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ ฯ นายนพดล สรวงประดิษฐ์ พลังงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายวิระดี สายสกุล ปลัดอำเภอทับสะแก   ประธานเครือข่าย ทสม. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กำนันตำบลอ่างทอง ผู้ใหญ่บ้านบ้านโคกตาหอม ผู้ใหญ่บ้านทุ่งพุฒิ รองนายก อบต.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ สื่อมวลชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม

นายนิทัศน์ จันทร์ทอง  ผอ.ทสจ.ประจวบฯกล่าวว่า กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน เนื่องในวันต้นไม้ประจำปีของชาติ พ.ศ. 2566 ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง ในวันนี้ ด้วยมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31  มกราคม 2532 อนุมัติให้วันวิสาขบูชาของทุกปีเป็นวันต้นไม้ประจำปีของชาติ ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 3 มิถุนายน 2566 การจัดกิจกรรมในวันนี้จึงเป็นการสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานความคิดที่ว่า ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

 

นางเนาวรัตน์ สายชุ่มอินทร์ ผอ.ส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า  จากการเก็บสถิติการปลูกต้นไม้ โครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน (forest.go.th) ณ วัน 31 พ.ค. 66 พบว่าจังหวัดที่ปลูกต้นไม้มากที่สุดในประเทศ คือ จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 6,110,403 ต้น โดยมีผู้ลงทะเบียนปลูก 17,119 ท่าน ในส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นไม้ลำดับที่ 40 ของประเทศ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนปลูก จำนวน 3,428 ท่าน จำนวน 967,930 ต้น จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมลงทะเบียนบันทึกการปลูกต้นไม้ ในโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ผ่านเว็บไซต์ https://plant.forest.go.th/ และขอความร่วมมือทุกท่านประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนในครอบครัว ร่วมลงทะเบียนบันทึกการปลูกต้นไม้ ในโครงการฯ ซึ่งจะมีส่วนภูมิอากาศ ลดมลภาวะเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน ซึ่งสามารถขอรับกล้าไม้จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จากนั้น ได้แจกจ่ายกล้าไม้ประจำถิ่น และกล้าไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง และร่วมกันปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน ที่บริเวณชาดหาดโคกตาหอม และได้เยี่ยมชมจุด Hidden Wow แห่งใหม่ หาดทรายสีดำชายหาดลึกลับ และจุดชมวิว    ภายในกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงนิเวศฯ ในครั้งนี้มีนิทรรศการพลังงานเคลื่อนที่ (energy mobile unit) จากสำนักงานพลังงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาให้ความรู้แก่ประชาชนและนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรม พร้อมมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากเครือข่ายป่าชุมชน เครือข่ายป่าครอบครัว เครือค่าย ทสม. ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ ผ้ามัดย้อมบ้านหนองเหียง ตระกร้าหวายเทียมบ้านเขาราง น้ำมันหอมระเหยเสม็ดขาว น้ำผึ้งธรรมชาติจากป่าเสม็ดขาว ชุดมาร์คหน้าผงถ่านดูดพิษ ป่าพรุแม่รำพึง ผลิตภัณฑ์ไข่เค็มสมุนไพรใบเตย มะพร้าวกะทิ ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป เป็นต้น

นายประชุม เสือเหลือง ผู้ใหญ่บ้านโคกตาหอมและชาวบ้านโคกตาหอม  กล่าวว่าหากแห่งนี้ที่ผ่านมายังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก ทั้งๆที่เป็นเวิ้งอ่าว 2 อ่าว สามารถลงเล่นน้ำได้ และส่วนอีกอ่าวบริเวณชายหาดเป็นสีดำซึ่งมีมาช้านานมากแล้ว แต่น้ำทะเลก็ปกติ รวมทั้งยังมีแท่งหินขนาดใหญ่เป็นเหมือนลักษณะหัวใจ เป็นจุดถ่ายรูปได้ เดินไปเล็กน้อยขึ้นไปด้านบน เป็นจุดชมวิวเห็นหาดโคกตาหอม และเกาะรำร่า ได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารุพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ก็เชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว อีกแห่ง

ขณะเดียวกัน นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เดินสำรวจชายหาดบ้านโคกตาหอม และยอมรับว่ามีความสวยงาม และยังไม่เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวมากนัก โดยเฉพาะมีหาดที่มีชายหาดสีดำ ซึ่งทราบจากชาวบ้านว่ามีมาช้านานแล้วแต่น้ำทะเลก็มีสีที่ปกติซึ่งเบื้องต้นจำทำหนังสือไปยังสำนักงานทรัพยากรธรณี ให้มาตรวจสอบว่าหาดทรายสีดำแห่งนี้ เกิดจากอะไรต่อไปส่วนเรื่องของการส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดโคกตาหอมนั้น ก็คงต้องฝากให้ทางท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบฯ อบต.ทราบทอง และหน่วยงานเกี่ยวข้องหารือร่วมกันในการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน