กองบิน 5 จัดแถลงข่าวการจัดงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484” ประจำปี 2563 เพื่อรำลึกถึงผู้กล้าที่เสียสละชีวิตปกป้องแผ่นดินไทยในสงครามมหาเอเชียบูรพา และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเน้นย้ำรูปแบบจัดงานแบบ New-Normal ป้องกันโควิด-19
ที่ห้องปะการัง โรงแรมฟ้าชมคลื่น กองบิน 5 อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกพรประเสริฐ ผ่านภพ ผู้บังคับการกองบิน 5 ,นางกัญญา มโนเสงี่ยม รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ และ ว่าที่ ร.ต.ธีรยุทธ ธีระโสพิศ ปลัดองค์การบริหารส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานสดุดี วีรชน 8 ธันวาคม 2484 ประจำปี 2563 กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคม 2563 เพื่อรำลึก สดุดีวีรกรรมความกล้าหาญของเหล่าวีรชน ทหารอากาศ ลูกเสือ ยุวนชน ตำรวจ และชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทุกท่าน ที่ได้ยอมเสียสละ เลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องแผ่นดินไทย เมื่อครั้งสงครามมหาเอเชียรบูรพา และเพื่อปลูกฝัง ความรักสถาบันพระมหากษัตริย์ ตลอดจน ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงประวัติศาสตร์ชาติไทย ในห้วงปี พ.ศ.2484 ตรงกับสงครามโลก ครั้งที่ ๒ ที่ก่อตัวขึ้นมา ณ ผืนแผ่นดินไทย โดยกองทัพญี่ปุ่นได้นํากําลังพลขึ้นบริเวณชายฝั่งทะเลตอนใต้ของประเทศไทย ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา และปัตตานี ส่วนทางบกยกพลขึ้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อใช้เป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า และมลายูสําหรับเหตุการณ์ดังกล่าว นับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์ร่วมกัน ระหว่างทหารอากาศแห่งกองบินน้อยที่ 5และพี่น้องประชาชนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ได้ร่วมกันต่อสู้กับกองกําลังแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ได้นํากําลังพลขึ้นบก ณ อ่าวประจวบ, อ่าวมะนาว และมีการสู้รบกันเป็นเวลา 33 ชม.จึงสงบ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น เป็นบทเรียนครั้งสําคัญของคนไทยและคนญี่ปุ่น ซึ่งต้องนํามาเป็นข้อคิดให้กับคนรุ่นหลัง ปัจจุบันไทยและญี่ปุ่นได้สานสัมพันธ์และมีสัมพันธไมตรีต่อกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความรัก ความเป็นมิตร
นางกัญญา มโนเสงี่ยม รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สําหรับกิจกรรมของกองบิน 5 ที่จัดขึ้นเป็นประจําทุกปี ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ดีสําหรับประชาชนชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะได้ทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาในอดีต เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในมิติของประวัติศาสตร์ และสังคมศาสตร์ อีกทั้งกองบิน 5 ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ทั้งอ่าวมะนาว เขาล้อมหมวก พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์ เครื่องบินรุ่นต่างๆ ของกองทัพอากาศที่มาจัดแสดงอยู่ ณ กองบิน 5 สนามกอล์ฟ ฯลฯ โดยทาง ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ จะสนับสนุนด้านการประชาสัมพันธ์ไปยังสำนักงานการท่องเที่ยวในประเทศไทย และต่างประเทศ และช่องทางการประชาสัมพันธ์ของ ททท.ที่มีอยู่ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นแน่นอน
นาวาอากาศเอกพรประเสริฐ ผ่านภพ ผู้บังคับการกองบิน 5 กล่าวว่า ในปี2563 กองบิน 5 ได้กําหนดจัดงาน สดุดี วีรชน 8 ธันวาคม 2484 ในระหว่างวันที่ 7-12 ธันวาคม 2563 รวม 6 วัน ณ บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์ กองบิน 5 โดยมีกิจกรรมที่สำคัญ ประกอบด้วย วันที่ 7 ธันวาคม พิธีเดินเทิดเกียรติสดุดีวีรชน โดยจะเริ่มเดินเป็นริ้วขบวน ไปตามเส้นทางหลัก ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่บริเวณศาลหลักเมือง จนถึงอนุสาวรีย์วีรชนฯ ,ในพิธีเปิดงานและงานเลี้ยงรับรองวีรชนพร้อมญาติวีรชนและชมชุดการแสดงของวงดุริยางค์ทหารอากาศ ,วันที่ 8 ธันวาคม 2563 พิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนฯ และพิธีบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชน รวมทั้ง กิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจความท้าทายได้ขึ้นเขาล้อมหมวก ซึ่งถือเป็นจุดชมวิว และถ่ายภาพอ่าวประจวบฯ ที่สวยงามมุมหนึ่ง ,การแสดงดนตรีวงดุริยางค์ทหารอากาศ ,การแสดงคอนเสิร์ต,การออกร้านจำหน่ายสินค้าโอทอป ,การประกวดร้องเพลง, การแข่งขันกีฬาเปตอง ,การประกวดไห่แจ้ชน ,การแข่งขันฟุตบอลอาวุโส
สำหรับปีนี้ การจัดงานเราคำนึงถึงสถานการณ์โควิด – 19โดยเป็นการจัดงานแบบ New-Normal โดยมาตรการของแต่ละกิจกรรมจะเป็นไปตามระดับความเสี่ยงของกิจกรรมนั้น ๆ แบ่งเป็น 4 ระดับได้แก่
กิจกรรมกลุ่มที่ 1 ความเสี่ยงต่ำมาก สีขาว ได้แก่ การออกร้านขายของ กิจกรรมพิชิตเขาล้อมหมวก กิจกรรมเดินเทิดเกียรติ วางพวงมาลา และบำเพ็ญกุศล ผู้ร่วมกิจกรรมจะต้องผ่านการคัดกรอง,จะมีการติดสัญลักษณ์ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย
กิจกรรมกลุ่มที่ 2 ความเสี่ยงต่ำ สีเขียว ได้แก่ การจัดงานเลี้ยง และนิทรรศการ มาตรการ โดยทั่วไปจะเหมือนกับกลุ่มสีขาว แต่จะเพิ่มเติมในการจัดการพื้นที่ไม่ให้แออัด อากาศถ่ายเทสะดวก การทำความสะอาดสม่ำเสมอ และจัดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึง
กิจกรรมกลุ่มที่ 3 ความเสี่ยงปานกลาง สีเหลือง ได้แก่ การแข่งขันกีฬาฟุตบอล สำหรับมาตรการจะเหมือนกับกลุ่มเสี่ยงต่ำ แต่เพิ่มความเข้มงวดยิ่งขึ้น
กิจกรรมกลุ่มที่ 4 ความเสี่ยงสูง สีแดง ได้แก่ คอนเสิร์ต กิจกรรมการแสดงบนเวที และลานจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหาร จะดําเนินมาตรการที่เข้มข้น ได้แก่การคัดกรองผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน ผู้จำหน่ายอาหารรวมทั้งนักแสดง จะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือ Face Shieldตลอดเวลา มีจุดแสกนไทยชนะ และมีสัญลักษณ์ และการประชาสัมพันธ์ให้สวมหน้ากาอนามัยและหมั่นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล
