“บิ๊กโจ๊ก”สนธิกำลังลุยจับเว็ปไซต์พนันฟุตบอลตามแหล่งท่องเที่ยว

               ตำรวจท่องเที่ยวร่วมกับตำรวจภูธรภาค 7,8,9  เปิดปฏิบัติการเข้าจับกุม เว็ปไซต์พนันฟุตบอล 3 เครือข่ายตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ  หัวหิน,นครศรีธรรมราช,หาดใหญ่ เตรียมประสาน ปปง. เพื่อขยายผลในเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์        

                วันที่ 19 มิถุนายน 2561   ที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ,พันตำรวจเอก ดำรงศักดิ์ ทองงามตระกูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,พันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน, พันตำรวจโทพิชญา พิพัฒน์บรรณกิจ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ  พร้อมด้วย ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาค 7,8,9 และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ร่วมกันแถลงผลการทลายเครือข่ายพนันฟุตบอลออนไลน์ ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ อำเภอหัวหิน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และอำเภอหาดใหญ่ ที่มีการเชื่อมโยงในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรม

               โดยในส่วนของอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการสนธิกำลังร่วมกับ ตำรวจภูธรหัวหิน,ตำรวจท่องเที่ยว และ ทหารจากหมวดรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 2 พื้นที่หัวหิน ในหมายศาลจังหวัดหัวหิน เข้าตรวจค้นเป้าหมาย บ้านเลขที่ 7/153  และบ้านเลขที่ 11/122  ซ.หมู่บ้านสมอโพรง  ต.หัวหิน   อ.หัวหิน   จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมผู้ต้องหา 18 ราย  พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์จำนวน 35 เครื่อง  ตลอดจนเอกสารทางบัญชี  เบื้องต้นตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน การพนันประเภท ข

             พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว  ได้สอบถามนายลิขิต เขียวขำ อายุ 24 ปี ซึ่งเปิดเป็นบริษัทรับทำเว๊ปไซต์ และรับทำการตลาด   โดยนายลิขิต กล่าวว่าบริษัทตนเองรับดำเนินการในด้านการโปรโมท ประชาสัมพันธ์ ฟุตบอล และการไลฟ์สด รวมทั้งวิเคราะห์ฟุตบอลในแต่ละคู่ โดยมีพนักงานทั้งหมดทำหน้าที่คอย Live Facebook   และกดแชร์เพื่อสร้างยอด  โดยแต่ละเดือนจะมีรายได้เดือนละกว่า 5 แสนบาท ซึ่งไม่ได้รับแทงพนันบอลออนไลน์แต่อย่างใด  ส่วนที่อำเภอหาดใหญ่กลุ่มผู้ต้องหามีรายได้หมุนเวียนเฉลี่ยเดือนละ 9-12 ล้านบาท ส่วนที่ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช กลุ่มผู้ต้องหามีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1-2 ล้านบาท

                    รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวอีกว่า เครือข่ายดังกล่าวมีการตั้งเซิรฟเวอร์ในต่างประเทศ แต่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการ ในการหาลูกค้า โดยชักชวนให้เล่นพนันบอลด้วยวิธีไลฟ์สดผ่านเว็บไซต์ และFacebook ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยในพื้นที่ อ.หัวหิน เปิดมาแล้วกว่า 4 เดือน มีเงินหมุนเวียนเดือนละกว่า 5 แสนบาท ส่วนพื้นที่สงขลา และนครศรีธรรมราชมีเงินหมุนเวียนมากถึง 9-12 ล้านต่อเดือน สำหรับเครือข่ายดังกล่าวเชื่อมโยงกับ 5 เว็บไซต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผล เช่นเดียวกันได้ประสาน ปปง. เพื่อขยายผลในเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา เพื่อดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ ในส่วนของกลางที่ยึดได้จะนำส่งสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลางเพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงต่อไป แม้ว่าในปัจจุบันกระแสเทคโนโลยีที่กลุ่มเครือข่ายนำมาใช้ในการรับแทงพนันบอลออนไลน์ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานต่างๆตรวจสอบติดตามจนสามารถกวดล้างจับกุมไปได้เยอะแล้ว

ข่าว/ภาพ  วิมล ทับคง