ผอ.แขวงทางหลวงบุรีรัมย์ แจงกรณีประชาชนร้องเรียนถูกผู้รับเหมาเรียกเก็บเงินค่าวางท่อระบายน้ำทางเชื่อมเข้าบ้าน เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ยอมรับการประชาสัมพันธ์ไม่ทั่วถึง ชี้ตามระเบียบกรมทางหลวงเจ้าของที่ส่วนบุคคลต้องขออนุญาตทำทางเชื่อมและจ่ายค่าวัสดุเอง ส่วนค่าแรงเครื่องจักรก็จะขอความร่วมมือผู้รับเหมาช่วยอำนวยความสะดวกให้
(2 ต.ค.62) จากกรณีที่ชาวบ้าน และผู้ประกอบการร้านค้าที่อาศัยอยู่ติดริมถนนสายบุรีรัมย์ – ประโคนชัย ในพื้นที่ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้รับเหมางานวางท่อระบายน้ำ โครงการขยายถนนจาก 4 ช่องจราจร เป็น 6 ช่องจราจร ตั้งแต่ช่วงบริเวณแยกไฟแดง หน้าสนามช้างอารีน่า ไปจนถึงสี่แยกภัทรบพิตร ได้เรียกเก็บเงินค่าวางท่อระบายน้ำทางเชื่อมเข้าหน้าบ้าน ซึ่งชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าโครงการก่อสร้างขยายถนนดังกล่าวเป็นงบประมาณของรัฐ แต่ทำไมมาเรียกเก็บเงินจากประชาชน โดยมีชาวบ้านที่จำใจยอมจ่ายเงินค่าวางท่อไปแล้วรายละ 10,000 – 20,000 บาท
ล่าสุดนายรุ่ง บัวใหญ่รักษา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงบุรีรัมย์ ก็ได้ออกมาระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า โครงการขยายถนนทางหลวงหมายเลข 2445 เป็นโครงการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยใช้งบของกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ เพื่อเพิ่มมาตรฐานและพัฒนาเส้นทาง สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยแขวงทางหลวงบุรีรัมย์ได้รับมอบหมายให้ช่วยควบคุมงานการก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานของกรมทางหลวงเท่านั้น ส่วนประเด็นที่มีประชาชนร้องเรียนว่าถูกผู้รับเหมาเรียกเก็บเงินค่าวางท่อทางเชื่อมเข้าบ้านนั้น ก็ขอชี้แจงว่าตามระเบียบของกรมทางหลวง การทำทางเชื่อมเข้า-ออกที่พักอาศัยหรือที่ส่วนบุคคลนั้น โดยปกติเจ้าของบ้านหรือเจ้าของที่ส่วนบุคคล จะต้องยื่นขออนุญาตเชื่อมทางกับแขวงทางหลวงในพื้นที่นั้นๆ ก่อน หลังจากยื่นเรื่องขอเสร็จแขวงทางหลวงก็จะมีแบบให้ประชาชนแต่ละรายไปดำเนินการเอง เพื่อให้เป็นไปตามแบบที่กรมทางหลวงแนะนำ ส่วนค่าวัสดุ อย่างเช่นค่าท่อ หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการทำทางเชื่อม เจ้าของที่จะต้องรับผิดชอบเอง แต่ในส่วนของค่าแรง หรือค่าเครื่องจักรในการดำเนินการ ก็จะขอความร่วมมือผู้รับเหมาหรือผู้รับจ้างช่วยอำนวยความสะดวกดำเนินการให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
ส่วนกรณีที่มีการร้องเรียนนั้น อาจจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ในโอกาสนี้จึงขอชี้แจงและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ติดถนนทางหลวงสองข้างทางด้วยว่า หากจะทำทางเชื่อมถนนหลวงต้องขออนุญาตระเบียบของกรมทางหลวง โดยจะต้องจ่ายค่าวัสดุอุปกรณ์ในการเชื่อมทางเอง ส่วนค่าแรงหรือเครื่องจักรในการดำเนินการนั้น แขวงทางหลวงก็จะได้ขอความร่วมมือทางผู้รับจ้างให้ช่วยอำนวยสะดวกให้ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหรือการร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวอีก หลังจากนี้หากมีโครงการต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการพัฒนา ปรับปรุง ที่เกี่ยวข้องกับชุมชน ก็จะทำการประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับประชาชนให้ครอบคลุมทั่วถึงมากขึ้น ซึ่งปกติก็มีการประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว แต่อาจจะไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร
ส่วนกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีผู้ป่วยติดเตียงจะต้องไปหยิบยืมเงินทองจากพ่อแม่มาจ่ายค่าวางท่อให้ผู้รับเหมานั้น แขวงทางหลวงก็ได้ขอความร่วมมือทางผู้รับจ้างไม่ให้เก็บค่าวัสดุหรือค่าท่อจากประชาชนรายดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นผู้ป่วยติดเตียงและเดือดร้อนจริง
