สงขลา-สะเดา รวบหนุ่มลูก 3 อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ในประเทศมาเลเซีย ลักลอบขนใบกระท่อมสดข้ามประเทศ คาจุดตรวจด่านศุลกากรสะเดา สารภาพขนเป็นอาชีพเสริม แลกค่าจ้างครั้งละ 2 พันบาท ส่งให้ลูกที่กำลังเรียน
เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 15 มิ.ย. ) เวลาประมาณ 22.40 ขณะที่ด่านพรมแดนสะเดาใกล้จะปิดทำการ บริเวณจุดตรวจศุลกากร ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรสะเดา ทหารชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 ตำรวจตระเวนชายแดน ที่ 437 ( ชฝต. 4304 ) และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง กำลังตรวจดูความเรียบร้อย และตรวจตรารถที่ผ่านแดนเข้ามา ได้สังเกตเห็นรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้ออีซูซุ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บน 7107 ชุมพร ขับเข้ามา โดยที่คนขับท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งสัญญาณให้จอดรถ พร้อมกับขอทำการตรวจค้น
พบคนขับคือnนายนิคม สมบูรณ์ อายุ 36 ปี อยู่ที่ 60 ม. 6 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในรถ พบใบกระท่อมสดห่อเป็นมัดด้วยพลาสติกจำนวนหนึ่ง ซ่อนอยู่ในช่องลำโพง ภายในห้องโดยสารทั้ง 2 ข้าง และเจ้าหน้าที่ได้นำรถเข้าตรวจด้วยเครื่องสแกน เอกซเรย์ สังเกตุเห็นที่ถังน้ำมันใต้ท้องรถ มีลักษณะผิดปกติ จึงได้ทำการถอดออก พบเป็นถังน้ำมันซึ่งไม่ได้บรรจุน้ำมัน แต่ดัดแปลงตัดเป็นช่อง ภายในมีใบกระท่อมสดลักษณะเดียวกันอัดแน่น เจ้าหน้าที่จึงได้หยิบออกมาและรวบรวม ซึ่งใบกระท่อมสดที่พบมีน้ำหนักรวม 60 กิโลกรัม
สอบถามนายนิคมฯ บอกว่าได้ขับรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งเป็นรถของนายสุด ชาว ต.ปาดังเบซาร์ เข้าไปในประเทศมาเลเซียตั้งแต่ช่วงตอนเย็น ไปจอดที่สวนยางพาราแห่งหนึ่ง เพื่อให้นายบัง ชาวมาเลเซียนำใบกระท่อมมาใส่ไว้ในรถ เมื่อเสร็จแล้วตนเองก็ขับออกมา เพื่อจะนำใบกระท่อมสดไปส่งที่จุดนัดหมายบริเวณ บ้านปริก บ้านหัวถนน ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 2,000 บาท
ส่วนสาเหตุที่ต้องมารับจ้างขนใบกระท่อมสด นายนิคม บอกว่าตนเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยางพาราในประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ใกล้ๆพรมแดนไทย-มาเลเซีย มีรายได้อาทิตย์ละ 3,000 – 4,000 บาท แต่ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ซึ่งมีภาระต้องเลี้ยงลูกถึง 3 คน ซึ่งอยู่ในวัยกำลังเรียน และก่อนหน้านี้ตนเองเพิ่งพ้นคดียาเสพติดมาได้ไม่นาน แต่ที่ตัดสินใจขนใบกระท่อมสด เพราะเห็นว่ามีโทษไม่หนัก และมีคนคอยเคลียร์ หรือจ่ายค่าปรับให้ โดยลักลอบขนใบกระท่อมสดมาแล้วประมาณ 10 ครั้ง
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวนายนิคมฯ พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้สืบสวนติดตามหาผู้ร่วมขบวนการ หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนใบกระท่อมสดข้ามประเทศ ในครั้งนี้ต่อไป
