X

สงขลา ชาวด่านนอกรวมพลัง หากปิดด่านศุลฯเก่า “ลั่นปิดหน้าด่านฯ”ประท้วงเพื่อบ้านเมือง

สงขลา –สะเดา ชาวบ้านด่านนอกรวมพลัง คัดค้านการปิดด่านศุลกากรสะเดาเก่า หากเปิดใช้ด่านแห่งใหม่ หวั่นรถนักท่องเที่ยวไม่ผ่านเมือง ทำการค้าชายแดนเสียหายหนัก เรียกร้องให้ด่านศุลกากรแห่งใหม่ เปิดรองรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น ลั่นประท้วงปิดหน้าด่านเพื่อบ้านเมือง

15 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 14:00 น ที่โรงแรมเอ็มรีสอร์ท เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม บ้านด่านนอก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กลุ่มประชาชนนักธุรกิจและเจ้าของกิจการผู้ประกอบการสถานบันเทิงโรงแรมเกือบ 200 คน ได้เดินทางมาร่วมหารือแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็น “คัดค้านการเปิดใช้ด่านศุลกากรแห่งใหม่”

เกชา เบ็ญจคาร อดีตนายกฯ ทต.สำนักขาม

โดยมี ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา นางณัฐฌา แซ่เตียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรักษ์ด่านนอก และนายเกชา เบ็ญจคาร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำนักขาม ร่วมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในครั้งนี้

ตามที่รัฐได้มีการนำเสนอต่อทางการมาเลเซียเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2566 ซึ่งมีความชัดเจนว่ามีการปิดด่านปัจจุบัน ที่เป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนที่สำคัญของอำเภอสะเดา ซึ่งรถนักท่องเที่ยวไม่ผ่านใจกลางเมืองบ้านด่านนอก ที่มีทั้งโรงแรมขนาดใหญ่กว่า 30 แห่ง สถานบันเทิง ร้านค้า ร้านอาหาร มินิมาร์ท ร้านสะดวกซื้อหลายแห่ง พ่อค้าแม่ค้า นับ 1,000 คน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก

นายเกชา เบ็ญจคาร อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสำนักขาม ได้กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการสร้างด่านสะเดาแห่งใหม่ที่มีการปิดบังข้อมูล โดยมาขอให้ทางสภาเทศบาลอนุมัติจัดสร้างด่านสะเดาแห่งใหม่ เมื่อปี 2550  โดยอ้างว่าเป็นด่านเพื่อรองรับระบบโลจิสติกส์เท่านั้น ทางสภาก็ได้อนุมัติไป

ต่อมาเมื่อมีการออกแบบ พบว่าด่านสะเดาแห่งใหม่ มีทั้งอาคารรองรับผู้โดยสารขาเข้า-ขาออกขนาดใหญ่ และอาคารรองรับระบบโลจิสติกส์ หรือรถสินค้า ซึ่งส่อเจตนาแอบแฝงหมกเม็ด  ต่อมาการก่อสร้างด่านได้ชะงักไปหลายปี จนกระทั่งประเทศมาเลเซียมีการพัฒนาด่านศุลกากรที่สมบูรณ์แบบและเสร็จก่อนประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 ประเทศมีข้อตกลงในการเชื่อมด่านร่วมกัน แต่เมื่อฝ่ายประเทศไทยก่อสร้างด่านใหม่ช้าไปหลายปี ทางมาเลเซียจึงใช้เส้นทางปัจจุบันเข้าด่านใหม่  โดยได้ขยายถนนหน้าด่านสะเดาเข้าด่านใหม่ คือถนนตรงกับด่านสะเดาปัจจุบันของไทยที่ใช้อยู่ทุกวันนี้

ซึ่งโดยสรุปแล้วทางด่านมาเลเซียได้พัฒนาด่านใหม่จนเสร็จสิ้นก่อนเรา เป็นเวลานานกว่า 5 ปีและในขณะเดียวกันด่านสะเดาแห่งใหม่ของไทยเพิ่งจะแล้วเสร็จทีหลัง ไม่สามารถเชื่อมต่อกับด่านมาเลเซียแห่งใหม่ได้ เพราะการพัฒนาด่านมาเลเซีย จบไปก่อนหน้า 10 ปีแล้ว

อดีตนายกเทศบาลสำนักขาม ยังบอกอีกว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจกับเศรษฐกิจการค้าชายแดนในพื้นที่ จึงมีโครงการปิดด่านปัจจุบัน เพื่อเอาความง่ายต่อการทำงานที่มี 2 ด่านพร้อมกัน โดยมองภาพรวมของประเทศเกี่ยวกับเรื่องตัวเลขการส่งออก ซึ่งเมืองด่านนอกหากถูกปิดจะเป็นอย่างไรรัฐบาลไม่ได้สนใจ

“วิธีแก้ตรงนี้ ให้การท่องเที่ยวอยู่เหมือนเดิม เราทำได้มั๊ย ทำได้ ถ้าเราร่วมมือกัน เราต้องถึงขั้นที่ต้องปิดหน้าด่านถ้าไม่ปิดหน้าด่านเราประชุมอยู่อย่างนี้ ประชุมกันตายก็ไม่มีผล รัฐบาลเขาชอบแบบนี้ เราประท้วงเพื่ออะไร ก็เพื่อบ้านเมือง”

ส่วน ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา  กล่าวว่าทางกลุ่มผู้ประกอบการ ขอชี้แจงว่าตั้งแต่กระบวนการการสร้างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ ไปจนถึงกระบวนการเสนอเส้นทางแนวเชื่อมต่อประเทศมาเลเซียกับด่านศุลกากรสะเดาใหม่ ทางภาคเอกชนไม่มีโอกาสเข้าไปรับฟังหรือเสนอความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น ทั้งที่การตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ ย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมหาศาลประเมินมูลค่าไม่ได้

ทางกลุ่มสนับสนุนให้มีการเปิดการใช้งานด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ เพื่อรองรับการขยายตัวทางด้านการขนส่งสินค้า มิได้ต่อต้านการเปิดใช้งานด่านศุลกากรแห่งใหม่แต่อย่างใด แต่เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจและของประชาชน ที่พึ่งพานักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาทไม่ให้เสียหาย และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาและการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจึงขอให้รัฐบาลพิจารณาดังนี้

1.ทบทวนเส้นทางการเชื่อมต่อระหว่างด่านศุลกากรสะเดาแห่งใหม่ กับประเทศมาเลเซียใหม่

 2. ดำเนินการเปิดใช้งานด่านศุลกากรแห่งใหม่ สำหรับรองรับการขนส่งสินค้าหรือโลจิสติกส์เท่านั้น และโครงการเปิดใช้งานด่านศุลกากรสะเดาปัจจุบัน สำหรับรองรับรถยนต์ส่วนบุคคลและรถทัวร์เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา

 3. แต่งตั้งตัวแทนผู้ประกอบการเข้าไปมีส่วนร่วมในการรับทราบและข้อเสนอแนะในส่วนที่จะมีผลกระทบต่อภาคเอกชนโดยเฉพาะในการวางแผนดำเนินการกำหนดเส้นทางเดินรถระหว่างด่านกับประเทศมาเลเซีย

โดยข้อเสนอนี้ทางกลุ่มจะนำเสนอให้นายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะเดินทางมาที่ด่านสะเดาในวันที่ 27 พ.ย. นี้ และคาดว่าจะมีมวลชนชาวด่านนอกจำนวนมาก  ให้การต้อนรับและยื่นหนังสือให้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น โดยที่ชาวบ้านทุกคนเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวและจะติดตามเรื่องนี้จนกว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด