X

สงขลา รวบ 21 บังคลาเทศ หลบหนีเข้าเมือง จ่ายกว่าเเสนบาทต่อคน แลกไปทำงานมาเลย์

สงขลา -สะเดา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา จับชาวบังคลาเทศหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย 21 คน พร้อมขบวนการคนไทย เป็นคนนำพา คนนำทางรวม 5 คน พร้อมคนรอรับส่งจุดนัดพบ ล่ามแฉต้องจ่ายเงินกว่า 4 แสนตากา หรือราว 1 แสนกว่าบาทไทย  แลกไปทำงานในมาเลเซีย

20 กันยายน 2566 เวลา 04.00 น.พันตำรวจโท พัฒนพงษ์ โรจนวานิชกิจ สารวัตรตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสงขลา นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน ตม.สงขลา ภายใต้อำนวยการของ พลตำรวจตรี ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 6  ไปสกัดจับขบวนการลักลอบขนแรงงานหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา

หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า ขบวนการดังกล่าว จะอาศัยช่วงเวลากลางคืนใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ขาล่องใต้ เดินทางจากพื้นที่ตอนกลางของไทย เพื่อนำพาแรงงานหลบหนีเข้าเมืองไปส่งยังพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย

โดยขณะที่เจ้าหน้าที่วางกำลังซุ่มอยู่ในพื้นที่นัดหมาย สังเกตเห็นรถยนต์เอนกประสงค์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีเทา ทะเบียน 5 กร 7191 กรุงเทพมหานคร ซึ่งทำหน้าที่เป็นรถนำทาง ได้ขับเข้ามายังสถานีบริการน้ำมัน ก่อนที่จะมีรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อ มาสดา รุ่นบีที 50 สีเขียว ทะเบียน 2กต 6348 กรุงเทพมหานคร  และรถกระบะ 4 ประตู  สีเทา ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรีโว่ ทะเบียน 8 กค 3280 กรุงเทพมหานคร ขับตามมาจอดในลานจอดรถของสถานีบริการน้ำมัน ตามลำดับ

เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้น ปรากฎว่า พบแรงงานหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมายเป็นขาวบังคลาเทศ นั่งอยู่ในรถกระบะ คันแรก 12 คน และ คันที่ 2 อีก 9 คน อายุเฉลี่ยประมาณ 20-50 ปี จึงเชิญตัวทั้งหมดลงจากรถ พร้อมตรวจสอบหนังสือเดินทาง ซึ่งไม่พบรอยตราประทับการอนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรแต่อย่างใด

จึงคุมตัว นางสาว สุภัชชา งามนิล อาย 52 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร คนขับรถนำทาง นายพิชิต หวังต่อ อายุ 47 ปี ชาวอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ และ นางสาว สุดารัตน์ ศรีโต  อายุ 28 ปี ชาวอำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด  ทั้ง 2 คน เป็นคนขับรถกระบะขนแรงงานไว้

จากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้ขยายผลไปจับกุม นาย อิบรอเฮง ขาเร็ง อายุ 29 ปี ชาวอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และ นาย อับดุลเลาะ สาอุ อายุ 29 ปี ชาวอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ซึ่งทั้ง 2 คน ขับรถกระบะ สีขาว 2 คัน ไปรอรับแรงงานทั้งหมด ที่ทางเข้านิคมอุตสาหกรรมฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ซึ่งทั้ง 2 คน ให้การว่า  ได้รับการติดต่อจากเพื่อนคนหนึ่งให้มารอรับแรงงานทั้งหมด ก่อนนำไปส่งจุดนัดหมาย โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหา ชาวบังคลาเทศ 21 คน และชาวไทย 5 คน พร้อมรถที่ใช้ในการกระทำความผิดทั้งหมด  5 คัน ไปยัง สภ.รัตภูมิ จังหวัดสงขลา

ตำรวจสอบปากคำ นางสาว สุภัชชา งามนิล คนขับรถนำทาง ให้การว่า ได้รับการติดต่อจากนายหน้าให้ไปรับแรงงานหลบหนีเข้าเมือง จากหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อไปส่งในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยตนทำหน้าที่ขับรถนำทาง และหลังเสร็จงานแล้วก็จะได้ค่าจ้าง คนละ 6,000 บาท

จากนั้นได้ติดต่อนายพิชิต กับ นางสาว สุดารัตน์ ให้มารับแรงงานกลุ่มนี้ โดยจะได้ค่าจ้างขนแรงงานคนละ 3,500 บาท และหากระหว่างพบด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ก็จะแจ้งให้ทั้ง 2 คนทราบ เพื่อหาทางหลบหนี ซึ่งเงินค่าจ้างทั้งหมด จะได้รับหลังจากส่งแรงงานกลุ่มนี้ถึงจุดนัดพบ แต่ก็มาถูกจับกุมได้ก่อน  ขณะที่นาย อิบรอเฮง และ นาย อับดุลเลาะฯก็ได้รับการติดต่อจากนายหน้าค้าแรงงานหลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ให้ไปรับแรงงานกลุ่มนี้ต่อจาก นางสาวสุภัชชาฯ เพื่อนำไปส่งต่อที่จังหวัดปัตตานี โดยจะได้ค่าจ้างขนแรงงานคนละ 6,000  บาท

 ด้านล่ามแปลภาษา เผยจากการสอบถามแรงงานฯบอกว่า เดินทางจากประเทศบังคลาเทศ ผ่านกัมพูชา ก่อนเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติที่จังหวัดสระแก้ว  เพื่อเดินทางไปหางานทำที่ประเทศมาเลเซีย โดยต้องจ่ายค่านายหน้า คนละ 400,000 ตากา หรือ ประมาณ 132,000 บาท โดยแรงงานทุกคนได้จ่ายเงินครึ่งหนึ่งให้นายหน้าไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะจ่ายเมื่อเดินทางถึงประเทศมาเลเซีย 

หลังสอบสวน ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา กับผู้ต้องหาคนไทยทั้ง  5 คน มีความผิดฐาน ร่วมกันให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการถูกจับกุมจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนแรงงานชาวบังคลาเทศทั้ง 21 คน ถูกแจ้งข้อหา เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด