สงขลา กินเจด่านนอก หวังปลุกเมือง กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวฯ

สงขลา-สะเดา เทศบาลตำบลสำนักขาม ร่วมกับ 3 ศาลเจ้า และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา  เชิญชวนร่วมงานเทศกาลถือศีลกินเจ “ ถือศีลกินผัก ร่างกายแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส จิตใจเบิกบาน” ประจำปี 2565  หวังให้เมืองครึกครื้นประชาชน และนักท่องเที่ยวได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม

ติดธงทั่วเมือง

25 ก.ย.65 เทศบาลตำบลสำนักขาม ร่วมกับศาลเจ้าพระโพธิสัตว์กวนอิมด่านนอก  ศาลเจ้าพ่อเสือ  ตำหนักแม่โจ สมาคมนักธุรกิจด่านนอก และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่  จัดกิจกรรมเทศกาลกินเจ ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมแรกของพื้นที่เมืองท่องเที่ยวชายแดนไทย-มาเลเซีย หลังจากที่มีการเปิดประเทศ และสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

สถานที่จัดเตรีสมตั้งบูธอาหารกินฟรี

ทั้งนี้ในพื้นที่มีได้มีการตกแต่งด้วยธงสัญลักษณ์สีเหลือง ตามเส้นทางเริ่มตั้งแต่ด่านศุลกากรสะเดา และทั่วในเมืองท่องเที่ยวด่านนอก เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนให้ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวได้มาร่วมในเทศกาลกินเจ

ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการใน เวลาประมาณ 16.00 น.วันที่ 27 ก.ย.65 มีการจุดประทัดจำนวน 9,999 นัด  การแสดงโชว์สืบสานประเพณี การเชิดสิงโต จากบริษัท Worldtrip Internationai จำกัด การแสดงชุด 7 นางฟ้า จากร้านเมย์ซาลอน การแสดงสืบสานประเพณี จากนักเรียนโรงเรียนสะเดาขรรค์ชัยฯ รวมถึงมีการแห่เทพเจ้า และม้าทรงกว่า 50 คนโปรดลูกหลานเพื่อความเป็นสิริมงคล พร้อมด้วยวงดุริยางค์ จากโรงเรียนวัดศรีวิเทศสังฆาราม

นายสาธิต ลิ่ววัฒนะโชตินันท์ นายก ทต.สำนักขาม

ทางด้าน นายสาธิต ลิ่ววัฒนะโชตินันท์ นายกเทศมนตรีตำบลสำนักขาม บอกว่า การจัดกิจกรรมเทศกาลกินเจ ในเมืองด่านนอก ก็มีภาคเอกชนจัดอยู่บ้าง แต่ในครั้งนี้พิเศษหน่อยตรงที่ทางเทศบาลฯ ได้ร่วมกับภาคเอกชน จัดงานครั้งนี้ขึ้น วันที่ 27 ก.ย.จะมีพิธีเปิด หน่วงงานต่างๆและภาคเอกชน ร่วมกับทางเทศบาลฯจะออกบูธอาหาร ต่างๆ ซึ่งในปีนี้ในส่วนของเทศบาลจะจัดเพียงวันเดียว แต่ภาคเอกชนจะจัดทั้งอาทิตย์ ซึ่งในวันดังกล่าวประชาชน หรือนักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรม ชมการแสดงต่างๆ หรือร่วมรับประทานอาหารเจฟรีได้ โดยมีจุดออกบูธหลายๆที่ อยู่ที่ด้านถนนทางเข้าเทศบาลฯ ( ด้านหลัง )

สำหรับงานเทศกาลกินเจ เป็นกิจกรรมแรกได้จัดขึ้น หลังสถานการณ์โควิดฯคลี่คลาย นอกจากจะเป็นการส่งเสริมหรืออนุรักษ์ประเพณีแล้ว ผมยังอยากให้เมืองครึกครื้น โดยจัดสรรงบของเทศบาลฯไว้ในระดับนึง คิดว่าในช่วงจัดกิจกรรม นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจะเห็นได้ว่า สำนักขามของเรา ก็มีการจัดงาน มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้าร่วมได้ และหวังว่าในภายภาคหน้าจะสามารถทำให้สำนักขามของ กลายเป็นเมืองพัก ไม่ใช่แค่เมืองผ่านอีกต่อไป