X

‘นิพนธ์’ ย้ำ นิคมฯ จะนะ เดินหน้าต่อ หลังประเมินผลกระทบ “สิ่งแวดล้อม”

สงขลา – สะเดา สัมภาษณ์ พิเศษ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 4 ภาค ย้ำจะเดินหน้าต่อไป

“ประเทศไทย ต้องก้าวไกล กับแผนพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ 4 ภาค รัฐบาลยังคงเร่งเดินหน้าต่อ ไปเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของประเทศไทย ให้เร็วที่สุด”

เป็นคำกล่าวยืนยันของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เหตุด้วย GDP จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่ำสุด จึงต้องเร่งส่งเสริมอาชีพ ด้วยระบบเทคโนโลยียุคใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ของสินค้า ให้เป็นมาตรฐานสากล ต่อไป

ความเป็นจริงขณะนี้ รัฐบาลไทย กำลังเดินหน้า ชิงความได้เปรียบ เกี่ยวกับความพร้อมของนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ทั้ง 4 ภาคของประเทศไทย โดยวางโครงสร้างแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ เป็นการต่อยอด การนำร่องการกระจายการเติบโต ทางเศรษฐกิจ ให้ครอบคลุมทุกภาค ในประเทศโดยเร็วที่สุด

เขากล่าวอีกว่า เท่าที่ได้ศึกษา จากผลงานวิจัยหลายสำนัก สาหรับภาคใต้ หากโครงการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ จะนะ สร้างเสร็จได้อย่างรวดเร็ว ควบคู่ระบบ โลจิสติกส์ ที่เชื่อมต่อเขตพัฒนาพิเศษตะวันออกของไทย และเชื่อมต่อประเทศแถบ เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง ภาคใต้ของเรา จะมีศักยภาคสูงสุด พร้อมรองรับ การลงทุน จากนานาประเทศ

สิ่งสำคัญ ประชาชนภาคใต้ จะได้มีโอกาส ปรับทิศทางด้านการเกษตรใหม่ สู่ยุคเทคโนโลยี ที่สามารถนำสินค้ามาแปรรูป เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น ยางพารา  ปาล์มน้ำมัน หรือสินค้าอาหารทะเล สินค้าเกษตร ฯลฯ เพราะเราสามารถลดต้นทุน ระบบการขนส่งกระจายสินค้า ทั้งในประเทศ และส่งออกไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลดีกับประเทศไทยมาก

นายนิพนธ์ ยังมองว่า เป็นโอกาสดี ของชาวจะนะ จังหวัดสงขลา ที่รัฐบาลกำหนด เป็นพื้นที่พัฒนาพิเศษ ซึ่งชาวบ้าน จะได้รับการดูแลจากรัฐ ในการจัดสรร งบประมาณ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเอื้อประโยชน์ ทางด้านเศรษฐกิจ ให้กับชาวบ้าน ในพื้นที่ ตามกฎหมายกฎระเบียบ และกติกาต่างๆ จนชาวบ้านพอใจ

ส่วนจุดเด่น ของนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ จะนะ คือการสร้างความเชื่อมโยง ระหว่างอุตสาหกรรมกับ ชุมชน เป็นรูปแบบเครือข่าย “ มี พันธกิจดูแลต่อกัน ด้าน สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม” เพื่อเสริมสร้าง ต่อยอด ในการพัฒนา ประเทศไทย

แต่สิ่งที่รัฐบาล ต้องเข้ามาดูแล อย่างจริงจัง ก็คือเยาวชน ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จบการศึกษาใหม่ ปีละ 3 ถึง 4 หมื่นคน ไม่มีงาน ในพื้นที่รองรับเพียงพอ ทำให้ต้องกระจาย ไปทำงาน ตามโรงงานอุตสาหกรรม ในต่างจังหวัด หรือภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ บางส่วนยอมไปขายแรงงาน ราคาถูก ในประเทศเพื่อนบ้าน

ฉะนั้นแนวทางการจ้างงาน รัฐบาล และภาคเอกชน มีมติร่วมกันว่า จะเน้นการจ้างงาน ใน 5 จังหวัดชายแดนใต้เป็นหลัก คือสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เป็นแรงงานเยาวชน ที่จบใหม่ และชาวบ้าน ในพื้นที่จริง ลดปัญหา การว่างงาน ที่เป็นปัญหา ของจังหวัดชายแดนภาคใต้

ในความคิดเห็นส่วนตัว ก็คิดอยู่เรื่องเดียวว่า ประเทศไทยต้องก้าวกระโดด สร้างฐานทางอุตสาหกรรมการผลิตให้เข้มแข็ง เพื่อความพร้อมต่อการ อำนวยความสะดวก สร้างแรงจูงใจ สร้างความเชื่อมั่น ให้กับนักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติ มีความไว้วางใจ กับการเข้ามาลงทุน ในประเทศไทย ก่อนที่นักลงทุนจะหันไปลงทุน ในประเทศเพื่อนบ้านกันหมด

สิ่งสำคัญ นักลงทุนคงเข้าใจดีว่า รัฐบาลกำลังเน้น แผนพัฒนาเศษฐกิจพิเศษ แนวใหม่ เมืองพรมแดน โดยระยะยาว ให้เป็นไปตามกฎบัตร ความร่วมมืออาเชี่ยน ทางรัฐบาลจึงจำเป็นต้องลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเป็นแรงจูงใจ ให้นักลงทุนไทย และต่างชาติ มีความมั่นใจ ถึงมาตรฐานสากล ต่อการลงทุน ในประเทศไทย

สำหรับโครงการหลัก แผนการลงทุนขณะนี้ มีความคืบหน้าด้านวิจัยประเมิน ไปหลายส่วนแล้ว คือ 1. โครงการสร้างท่าเรือเพื่อพาณิชย์ และการท่องเที่ยว 2. การสร้างรางรถไฟ เชื่อมโยงท่าเรือ

3.พลังงานไฟฟ้า ทางเลือก และ 4. นิคมอุสาหกรรมเชิงนิเวศ คาดว่าคงไม่นาน ผลประเมินทางด้านสิ่งแวดล้อม คงเสร็จ เพื่อให้ทางรัฐ และเอกชน เดินหน้าต่อไป

” ผมมองว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ กับการพัฒนาประเทศไทย ซึ่งมุ่งเน้น ส่งเสริมเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ ในทุกภูมิภาคของประเทศ เป็นเรื่องที่นักลงทุน กล้าตัดสินใจ เข้ามาลงทุนมากขึ้น แน่นอน “

ในส่วนของความคืบหน้า ของนักลงทุน ที่จะเข้ามาลงทุนที่ นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจะนะ มีทั้งเอกชนไทย และต่างชาติ มีการเจรจา ขอรายละเอียด ผ่านนักลงทุนไทย เพื่อเข้ามาตรวจสอบพื้นที่จริง ก่อนตัดสินใจลงทุน จึงน่าเชื่อได้ว่า นิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศจะนะ เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูง เหมาะกับการลงทุนมาก

 

เขายังบอก ทิ้งท้ายว่า นิคมอุสาหกรรม เชิงนิเวศจะนะ สงขลายุคใหม่ บนเพื้นฐาน ของความเป็นจริง โปร่งใสทุกมิติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่มีชุมชน ชาวบ้านเข้ามามีส่วนร่วมออกแบบ โครงสร้าง การบริหารจัดการ ในพื้นที่ ช่วยเหลือ เกื้อกูลต่อกัน ชาวบ้าน เอกชน รัฐบาล ก็จะเป็นการยกระดับ พัฒนาคุณภาพชีวิต ของชุมชน ให้ดีขึ้น และยั่งยืน ต่อไป

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

ภูมริน มหันตมรรค

ภูมริน มหันตมรรค

เคยเป็นสื่อทีวีในฐานะทีมช่างภาพตั้งแต่ยุคเปิดตัว ITV. และทำข่าว นสพ.ท้องถิ่นมาก่อน และหยุดไปช่วงนึง 4 ปี เนื่องจากย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่ กลับมาก็เริ่มใหม่ในสื่อทีวี และ นสพ. จนกระทั่งปัจจุบัน 77 ข่าวเด็ด