สงขลา – สะเดา แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะพร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ตรวจเยี่ยมการคัดกรองโรคโควิด- 19 คนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย ณ ด่านปาดังเบซาร์ พร้อมยืนยันใช้ด่านปาดังเบซาร์ต่อไป เนื่องจากมีความพร้อมในทุกๆด้าน และเน้นย้ำกำลังพลตรวจเข้มแนวชายแดนป้องกันการลักลอบเข้าประเทศ
29 เม.ย. 63 พลโท พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 และคณะพร้อมด้วย นาย จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายอำพน พงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงพื้นที่ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อติดตามการคัดกรองคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซีย โดยมีนายชวกิจจ์ สุวรรณคีรี นายอำเภอสะเดา นายภักดี ดุลพิจารณ์ นายด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ พ.ต.ท.หญิง มนิดา หมัดอะดัม สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง จ.สงขลา ปฏิบัติหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ
สำหรับบรรยากาศคนไทยกลับบ้านผ่านด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ วันนี้เป็นวันที่ 8 พบว่ายังมีคนไทยในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางออกมาอย่างต่อเนื่องตามจำนวนโควต้าที่กำหนดไว้คือ 100 คน ต่อวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคอยคุมเข้มทุกขั้นตอน ในการคัดกรองโรคไวรัสโควิด – 19 เริ่มตั้งแต่เดินผ่านข้ามประเทศเข้ามา จนถึงการนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาลในกรณีคนที่มีไข้ ส่วนคนที่ผ่านการคัดกรองอาการปกติก็จะมีรถนำส่งสถานที่กัก
นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา บอกว่าเดิมที่เราคิดว่าจะใช้ด่านปาดังเบซาร์แค่เพียง 7 วัน แต่หลังจากที่ดูการบริหารจัดการความสะดวกอะไรต่างๆ รมทั้งการคัดกรองและแยกการขนส่งระหว่างสินค้ากับเรื่องของคนที่เข้า คณะการทำงานของเราพิจารณาแล้วจึงได้นำเสนอไปยังส่วนกลางว่าเราควรจะใช้ดานปาดังเบซาร์ต่อไป ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบว่าให้ใช้ด่านปาดังเบซาร์ต่อไป จนสิ้นสุดขบวนการนำคนไทยเข้า หรือจนกว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ
เช่นเดียวกับแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ที่บอกว่าด่านปาดังเบซาร์มีความกว้างขวาง ไม่แออัดและเจ้าหน้าที่ทำงานได้ดี ทุกคนเลยลงความเห็นว่าที่นี่เหมาะที่สุดที่จะใช้แทนด่านพรมแดนสะเดา ส่วนแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย ระยะทาง 647 กิโลเมตร จากสตูลถึงนราธิวาสผมมาดูว่าจะมีช่องว่างมั๊ย
ช่วง 10 กว่าวันที่ผ่านมาคงเห็นภาพถึงความเข้มแข็ง อย่างที่สตูลชาวบ้านจะช่วยแจ้งข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ เพราะส่วนตัวเขาก็มีความกลัว ซึ่งทางเรือเป็นสิ่งที่น่าห่วง ส่วนทางสุไหงโก-ลก ตอนนี้ก็มีกำลังทหารเฝ้าตลอดแนว 24 ชั่วโมง ซึ่งต้องไปให้กำลังใจเพราะแต่ละคนเหน็ดเหนื่อยมาก
หลังจากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ได้เดินทางไปตรวจแนวริมรั้วชายแดนไทย –มาเลเซีย บริเวณหลักที่ 17 พื้นที่ บ.ควนกุน หมู่ที่ 3 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเคยเป็นจุดล่อแหลมที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ประเภทใบกระท่อมสด ซึ่งได้เน้นย้ำให้กำลังพลตรวจเข้ม ก่อนมอบสิ่งของเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ก่อนเดินทางกลับ
