X

หลุมหลบภัย !! ที่ จอมพล ป.พิบูลสงคราม พาครอบครัวมาหลบภัย ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

ปทุมธานี หลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม พาครอบครัวมาหลบภัย

ในปีพุทธศักราช 2482 ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในยุโรปเมื่ออังกฤษและฝรั่งเศสประกาศสงครามเยอรมัน และญี่ปุ่นก็ประกาศเข้าร่วมกับเยอรมัน เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พุทธศักราช 2484  จากนั้นวันที่ 8 ธันวาคม ปีเดียวกัน ญี่ปุ่นนำกองทัพเข้าเมืองไทยทางสงขลา ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสมุทรปราการ

ครั้งแรกไทยได้ทำกติกาสัมพันธไมตรีกับญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2484 ญี่ปุ่นใช้ไทยเป็นฐานที่มั่น เพื่อเป็นทางผ่านสำหรับการขยายอำนาจไปยังพม่าและอินเดียที่เป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ

สงครามที่เกิดขึ้นในเอเชียนี้เรียกกันว่า สงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อไทยเห็นว่าญี่ปุ่นมีชัยชนะและคาดว่าจะชนะสงคราม จึงได้ประกาศสงครามต่อฝ่ายพันธมิตรเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2485 ส่งผลให้กรุงเทพฯ เป็นเป้าหมายการโจมตีถูกทิ้งระเบิดตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญต่างๆ ของกองทัพญี่ปุ่น ทำให้ช่วงเวลานั้นรัฐบาลได้ออกคู่มือการป้องกันภัยทางอากาศให้กับประชาชน การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน และได้สร้างหลุมหลบภัยสาธารณะตามสถานที่ต่างๆ ขึ้นมาเพื่อใช้หลบระเบิดในครั้งนั้น ซึ่งในปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีหลุมหลบภัยหลงเหลืออยู่เพียง 2 แห่งคือ สวนสัตว์เขาดิน เอเชียทีค และ อีกแห่งคือที่จังหวัดปทุมธานี

บริเวณหลุมหลยภัยจะทีศาลาสำหรับหลบร้อน หลุมหลบภัยขนาดไม่หนัก รูปปั้นทหารในท่าทางต่างๆ ถูกจัดวางไว้ตามมุมเพื่อความสมจริง ทางเดินระหว่างศาลาที่ใช้พักหลบร้อนไปยังหลุมหลบภัยราดด้วยคอนกรีต มีบ่อน้ำเล็กๆ ตื้นเขินคั่นระหว่างหลุมหลบภัยและศาลา ภายในศาลามีนิทรรศการเล็กๆ บอกเล่าประวัติความเป็นมาของหลุมหลบภัยแห่งนี้ ว่า

 

“จากคำบอกเล่าของนายประสิทธิ์ ปานย้อย อดีตกำนันตำบลบ้านใหม่ พ.ต.ท.จำนง ดำนิล และ ส.อ.เชิด บุญเอื้อ ซึ่งเป็นบุคลที่อยู่ในช่วงเวลานั้น ได้ให้ข้อมูลว่าจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้สร้างบ้านพักไว้ 2 หลัง และหลุมหลบภัย 1 แห่ง โดยขนวัสดุก่อสร้างมาทางน้ำ ใช้กำลังทหารในการก่อสร้าง…”

ลักษณะของหลุมหลบภัยมีลักษณะแบบไข่ผ่าซีก (รูปนูนหลังเต่า) ทำด้วยก่ออิฐถือปูน มีประตูทางเข้า-ออก 2 ทาง ด้านทิศเหนือและทิศใต้ ด้านในหลุมหลบภัยเป็นห้องโล่ง จุคนได้ 15-20 คน จอมพล ป. พิบูลสงคราม จะมาพักที่บ้านพักหลังจากมีสัญญาณเตือนภัยว่าจะมีการทิ้งระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร

ปัจจุบันบ้านพักไม่ปรากฏให้เห็นแล้ว คงเหลือแต่หลุมหลบภัยที่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา

สภาพปัจจุบันของหลุมหลบภัย โครงสร้างภายนอกเป็นรูปไข่ผ่าครึ่งซีก (รูปนูนหลังเต่า) ก่ออิฐถือปูน หน้าทางเข้า-ออก มีแท่นปูนรูปสามเหลี่ยมคางหมูขนาดใหญ่ตั้งขวางไว้ระยะห่างไม่เกิน 1 เมตรจากปากทางเข้า-ออก ภายในหลุมหลบภัยปูนผุกร่อนจนเห็นโครงสร้างเหล็กภายใน พื้นที่ไม่กว้างขวางนัก

ไม่น่าเชื่อว่าพื้นที่เล็กๆ แห่งนี้จะสามารถจุคนได้ 15-20 คน อากาศข้างในหลุมหลบภัยค่อนข้างเย็น และน้ำท่วมขังภายในหลุมหลบภัย (คาดว่าท่วมขังอยู่ตลอดเวลา) สถานที่แห่งนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี พื้นที่โดยรอบสะอาดเรียบร้อน

เมื่อ พ.ศ.2547 องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ ได้บูรณะซ่อมแซมหลุมหลบภัยและปรับปรุงบริเวณพื้นที่โดยรอบ

 

จากนั้น ในปี พศ.2560 กลุ่มบริษัท พรีไซซ และสมาคมพนักงาน กลุ่มบริษัท พรีไซซ ร่วมกับเทศบาลตำบลบ้านใหม่ ได้เข้ามาปรับปรุงและบำรุงรักษาพื้นที่โดยรอบอีกครั้ง เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และให้เยาวชนหรือคนที่สนใจได้เข้ามาศึกษาหาความรู้และพบเห็นสถานที่จริงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นหลบภัยของจอมพล ป. พิบูลสงคราม

 

ขอขอบคุณ ลุงสม เกตุแก้ว และ ลุงเลิศ กะไหล่ทอง ผู้นำพาชม

ไตรเทพ ไกรงู..รายงาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี