X

ภูมิใจไทย ชูโมเดล ปทุมธานีเมืองมหานคร

ปทุมธานี  ภูมิใจไทย ชูโมเดล “ปทุมธานีเมืองมหานคร


นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า จังหวัดปทุมธานี เป็นจังหวัดเป้าหมายที่เราจะปักธงชัยการเลือกตั้งในครั้งนี้ จังหวัดปทุมธานี ในวันนี้เราเป็นเมืองที่มีความพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะด้านการเกษตร อุตสาหกรรม เป็นเมืองมหาวิทยาลัย เป็นเมืองที่มีตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุด เป็นเมืองหน้าด่านที่เป็นประตูสู่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร จังหวัดปทุมธานี เป็นเมืองศูนย์กลาง ในด้านเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญของประเทศ โดยเป็นฐานอุตสาหกรรมส่งออก และแหล่งจ้างงานหลักของประเทศ โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 4,000 แห่ง เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า มีแหล่งซื้อขายและกระจายสินค้าขนาดใหญ่ กว่า 16 แห่ง เป็นศูนย์กลางการศึกษาและวิจัย มีสถาบันอุดมศึกษาที่มีคุณภาพระดับประเทศ มากถึง 13 แห่งปทุมธานีมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต แหล่งศึกษาเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงกีฬาและนันทนาการ ที่กล่าวมาข้างต้นนี้คือศักยภาพของจังหวัดปทุมธานี


ถ้าคิดจะปฏิรูปประเทศไทยอย่างจริงจัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีกรอบแนวคิดและทัศนะคติทางการเมืองในด้านบวกกับเรื่องสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย ให้ความสำคัญกับคุณค่าความเป็นมนุษย์ในสังคมการเมือง การปฏิรูปประเทศไทยในทิศทางที่ถูกต้อง ต้องเพิ่มอำนาจประชาชน ลดอำนาจรัฐ ด้วยการสร้างสังคมแนวราบเพื่อสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในสังคม
พรรคภูมิใจไทยมีบุคลากรที่มีความพร้อมทุกด้าน พร้อมที่จะดูแลปากท้องของพี่น้องประชาชนคนปทุมธานี ด้วยสโลแกนของพรรคคือ ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน โดยจะมีประเด็นหลักเช่น การแก้ปัญหาหนี้ กยศ. การศึกษาทางเลือกด้วยเทคโนโลยีใหม่ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อยกระดับการศึกษาของคนไทย การนำระบบแบ่งปันกำไรอย่างเป็นธรรมมาใช้กับพืชเศรษฐกิจ 5 ชนิด ได้แก่ ยาง ปาล์ม อ้อย มันสำปะหลัง และข้าว เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้ง การส่งเสริมสนับสนุนให้อาสาสมัครประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ได้รับการฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้ เพื่อยกระดับเป็นหมอครอบครัว ดูแลประชาชนในชนบทและจัดให้มีค่าตอบแทนที่สูงขึ้นอย่างเป็นธรรม พรรคภูมิใจไทย ไม่ขัดแย้งกับใคร แต่พยายามเป็นกาวใจให้ความขัดแย้งลดลง ซึ่งพรรคถือเป็นหน้าที่หลัก เพื่อนำความมั่นคงมาสู่ประเทศ


วันนี้พรรคภูมิใจไทยพร้อมส่งผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดปทุมธานีครบทั้ง 6 เขต ประกอบด้วย เขต1. นายชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ(เบอร์5) เขต2. นายพิเชษฐ หาญจางสิทธิ์(เบอร์4) เขต3. นายนพนันทร์ หนูเจริญ (ตี๋ เมืองเอก)(เบอร์3) เขต4.นางสาวรุ่งฤดี อำภิน(เบอร์1) เขต5.นายสายเทพ จันบางพลี(เบอร์4) เขต.6นายพิษณุ พลธี (เบอร์9)เป็นคนรุ่นใหม่ของพรรคที่รู้ปัญหาในพื้นที่ปทุมธานีเป็นอย่างดีผู้สมัครทุกคนมีความมุ่งมั่น มีความตั้งใจที่จะลงพื้นที่ไปรับรู้ปัญหาและจะร่วมกันแก้ปัญหา ในฐานะที่ทุกคนมีจิตและวิญญาณ ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของปทุมธานี เราเชื่อมั่นว่าผู้สมัครทุกเขตล้วนแล้วแต่มีความตั้งใจและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนด้วยแนวทางของพรรคภูมิใจไทย ตามสโลแกนของพรรค “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน”


พรรคภูมิใจไทยเราให้ความสนใจในการปกครองส่วนท้องถิ่นและการจัดทำแนวคิดในการแก้ปัญหาท้องถิ่นแบบบูรณาการ คือการมีส่วนร่วมของประชาชน เน้นในการแก้ปัญหาปากท้องให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากนี้พัฒนาให้องค์กรปกครองท้องถิ่นสามารถดำเนินนโยบายตามหลักธรรมมาภิบาล มีความโปร่งใสในการบริหารพื้นที่ รวมทั้งการบริการสาธารณะต้องมีหลักชัดเจนว่าจะทำนโยบายต่างๆเพื่อวัตถุประสงค์ใด ป้องกันการทุจริต พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นแบบมีระบบและจริงจัง การแก้ไขการให้บริการสาธารณะต่างๆ ในการปกครองท้องถิ่น ที่ต้องดำเนินการรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม ในส่วนของนโยบายพรรคที่ชูสโลแกน “ลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน” เป็นสิ่งที่ถูกใจประชาชนในพื้นที่มาก เพราะคนในพื้นที่อยากมีรายได้เพิ่มขึ้น หากเรานำรูปแบบ Sharing Economy “แชร์ริ่ง อีโคโนมี” คือเศรษฐกิจแบบแบ่งปัน เช่น แกร็บแท็กซี่ถูกกฎหมาย และแอร์บีเอ็นบี ซึ่งคือการปล่อยห้องว่างในบ้านของบุคคลทั่วไปให้สามารถเป็นที่พัก ไปสร้างประโยชน์จะช่วยเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชนได้เราจะนำ Buriram Model มาเป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองด้วยการท่องเที่ยว และบริการสร้างรายได้ให้จังหวัดปทุมธานี


จังหวัดปทุมธานีเป็นเมืองมหาวิทยาลัย มีมหาวิทยาลัย 13 แห่ง การชูนโยบายพักหนี้ กยศ.ให้กับลูกหนี้ จะช่วยให้บรรดาผู้ประกอบการรุ่นใหม่มีแรงในการสร้างงานสร้างรายได้ สามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่ไม่ต้องมาพะวงกับหนี้ กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่กำลังถูกดำเนินการทางกฎหมาย เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ต้องการหนีหนี้ เพียงแต่ไม่มีโอกาสในการหารายได้หรือทำงานก่อนก็โดนทาง กยศ.มาบังคับใช้หนี้ เราจะต้องให้ความสำคัญ ของการศึกษา เริ่มตั้งแต่ ประถม มัธยมไปยันระดับอุดมศึกษา และจะยังคงยืนยันว่าเราจะสนับสนุนการศึกษาเพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสในการศึกษาที่ดีกันต่อไป


ขณะที่เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกร ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของราคา แต่เราแบ่งปันผลกำไรกันอย่างไม่เป็นธรรม เอาเปรียบเกษตรกรเกินไป ต้องหาทางแก้ไข จังหวัดปทุมธานี เป็นเมืองเกษตรกรรม พรรคภูมิใจไทยเราชูนโยบายข้าวระบบกำไรแบ่งปัน Profit Sharing แบ่งปันกำไร 70-15-15 % ลั่นหมดยุคเกษตรกรถูกเอาเปรียบ ชี้ต้องเป็นธรรมเท่าเทียมกันยกตัวอย่าง ต้นทุน การผลิตข้าวเปลือก 1 ตัน พบว่า ที่ผ่านมา เกษตรกร หรือ ชาวนา ซึ่งเป็นผู้ลงทุนมากที่สุด ทั้งต้นทุนการผลิต และ การลงแรงเพาะปลูกข้าว แต่ปรากฏว่า เกษตรกร หรือ ชาวนา กลับเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่ม โรงสี และ กลุ่มผู้ส่งออก โดยเมื่อคิดต้นทุนต่อการผลิตข้าวเปลือก1 ตัน ชาวนาต้องใช้เงิน 6,403 บาท ค่าขนส่ง 176 บาท รวมเป็น 6,579 บาท โดยมีราคาที่หน้าโรงสี 7,834 บาท ดังนั้น ชาวนาจะมีกำไร 1,255 บาท ต่อ 1ตัน ขณะที่ โรงสี มีต้นทุน 7,834 บาท แต่จะมีรายได้เพิ่มจาก ปลายข้าว ข้าวหัก และ แกลบ ที่เหลือจากกระบวนการสีข้าวเปลือก ซึ่งจะทำให้ต้นทุนลดลงจากการซื้อข้าวจากชาวนา สุดท้าย คือ ผู้ส่งออก

ซึ่งปรากฏว่ามีผลกำไรมากที่สุด มีต้นทุน 6,864 บาท/ตัน ส่งออกราคา 9,085 บาท/ตัน กำไร 2,221 บาท ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจัดสรร ระบบตัวเลขใหม่เพื่อให้เกิดความยุติธรรม โดยรูปแบบ ที่พรรคภูมิใจไทย กำหนดไว้ ผ่านระบบ Profit Sharing คือ เกษตรกร หรือ ชาวนา ได้ 70 %โรงสี 15 % ผู้ส่งออก 15 % พร้อมจัดตั้งกองทุนข้าวเพื่อให้เป็นกองทุนกู้ยืมสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว หากเดินตามรูปแบบนี้รัฐบาลก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหางบประมาณมาใช้ในการพยุงราคาข้าว หรือ แทรกแซงราคาข้าว ขณะเดียวกัน ต้องมีการประกันภัยพิบัติให้กับเกษตรกร โดยหาตัวแทนบริษัทประกันภัยให้เข้ามารับผิดชอบจะช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยธรรมชาติได้


“พรรคภูมิใจไทยขอประกาศตัวเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของความเอารัดเอาเปรียบ ความเหลื่อมล้ำ ขออาสาเป็นผู้ทลายทุกข้อจำกัด ทุกความเหลื่อมล้ำเพื่อปากท้องของประชาชน เรา“ยกระดับการจัดสวัสดิการสังคมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ทั่วถึงครอบคลุม เพื่อสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาชีวิตชุมชนคนปทุมธานี ให้จังหวัดปทุมธานีเป็นเมืองมหานครในอนาคต

พงศ์พัทธ์ วงศ์ยะลา…รายงาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี