X

สลด!พ่อค้ารับซื้อของเก่ายืนท้ายรถกับลูกชาย ถูกกระบะชนอัดท้ายพ่อเสียชีวิตลูกสาหัส

ปทุมธานี สลดพ่อค้ารับซื้อของเก่ายืนท้ายรถกับลูกชาย ถูกกระบะชนอัดท้ายอย่างจัง พ่อเสียชีวิตคาล้อ ส่วนลูกชายบาดเจ็บสาหัส

วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.วรภัทร ศุภสวัสดิ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสามโคก จังหวัดปทุมธานี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถกระบะชนกัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุเป็น 1 รายและบาดเจ็บสาหัสชายอีก 1 ราย ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอสไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยเหตุเกิดบนสะพานคลองน้ําอ้อม บนถนนสาย 347 (มุ่งหน้าปทุมธานี) หมู่ที่ 3 ตำบลเชียงรากใหญ่ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ภายหลังรับแจ้งเหตุ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง เร่งให้การช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุบนกลางสะพานดังกล่าว ในช่องเลนกลาง (มุ่งหน้าแยกเทคโนปทุมฯ) พบรถกระบะ อีซูซุ สีเทา หมายเลขทะเบียน 2กฌ-6781 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องอยู่ ในสภาพหน้ารถด้านซ้ายพังยุบ จนถึงฝากระโปรงรถ โดยที่พื้นถนน ที่ใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 คน นอนจมกองเลือด ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงได้พยายามช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บออกมา โดยช่วยกันทำปั้มหัวใจ และสามารถช่วยเหลือได้ 1 คน ก่อนนำตัวส่ง โรงพยาบาลกรุงสยามเซนคาร์ลอส ส่วนอีกคนไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ และเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ห่างไปประมาณ 10 เมตร มีรถกระบะ โตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒส-6609 กรุงเทพมหานคร ที่ท้ายกระบะ มีร่องรอยรถถูกชนจนยุบไฟท้ายแตก โดยมี นายวีรเดช อาษา อายุ 14 ปี และนายณัฐภูมิ ทองปาน อายุ 16 ปี ยืนอยู่ในอาการที่ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำพี่ชายส่งรพ.ส่วนพ่อเสียชีวิตที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามนายวีรเดช อาษา อายุ 14 ปี (เสื้อสีดำลูกชายผู้ตาย)ได้กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตคือพ่อตนชื่อนายวิทูรณ์ อาษา อายุ 40 ปี ส่วนคนที่บาดเจ็บสาหัส เป็นพี่ชายตน ชื่อนายธนวัฒน์ อาษา อายุ 18 ปี ก่อนเกิดเหตุ ครอบครัวตน มีอาชีพรับซื้อของเก่า โดยวันนี้พ่อจะพาพวกตนไปซื้อของ ที่ย่านรังสิต ซึ่งมากันทั้งหมด 4 คน มีพ่อ พี่ชาย ตน และนายณัฐภูมิ ทองปาน อายุ 16 ปี เพื่อนตน โดยพ่อเป็นคนขับรถ ออกมาจากบ้านปทุม ขณะขับออกมาน้ำมันในถังใกล้หมด พ่อบอกเดียวแวะเติมน้ำมันปั๊มหน้า แต่น้ำมันมาหมดเสียก่อน และจอดอยู่บนกลางสะพานข้ามคลองน้ำอ้อม พ่อได้โทรศัพท์เรียกให้พี่ชาย คือนายสมศักดิ์ อาษา อายุ 49 ปี ไปซื้อน้ำมันมาให้ และระหว่างรอตนเองยืนดูอยู่ริมถนน ด้านนายณัฐภูมิฯ(เพื่อน)นั่งรออยู่บนกระบะรถ ส่วนพ่อกับพี่ชายยืนรอน้ำมันอยู่ท้ายรถจู่ ๆ ได้มีรถกระบะอีซุซู วิ่งมาด้วยความเร็ว พุ่งชนอัดร่างพ่อกับพี่ชาย ที่ยืนอยู่ท้ายบาดเจ็บ ระหว่างนั้นได้มีรถมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง ที่ขับผ่านมาพอดี ได้จอดให้การช่วยเหลือ

ทางด้าน นายสานิด เข็มทอง อายุ 46 ปี คนขับรถกระบะคู่กรณี ซึ่งไม่ได้หลบหนีไปไหน ทางตำรวจได้นำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ได้กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถมากับลูกสาววัย 16 ปี เพื่อจะไปรับภรรยา ที่ทำงาน ขณะขับมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งตนก็ขับมาเลนซ้าย โดยมองไม่เห็นว่ามีรถจอดอยู่ช่องทางซ้าย ก่อนรถจะพุ่งชนและเมื่อลงมาดู ก็พบว่ามีคนเจ็บและเสียชีวิต หลังจากนั้นโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ก่อนจะไปมอบตัวที่โรงพัก เกรงว่าตนเองและลูกที่มาด้วย กลัวจะถูกทำร้าย

ร.ต.อ.วรภัทร ศุภสวัสดิ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสามโคก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ และร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับแพทย์เวร จากนั้นจึงได้บันทึกภาพ ในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และได้เชิญญาติๆและผู้เกี่ยวข้อง ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิต มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตร ยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์(เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้ง และจะได้ประสานทางญาติญาติ มารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป

ภาพ/ข่าวโดย อำนาจ โรจนรักษ์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี

พนอ ชมภูศรี คลุกคลีในวงการสื่อสารมวลชนมานาน โดยเริ่มงานครั้งแรกในราวปีพศ.2540 โดยเข้าร่วมงานกับ นสพ.อาชญากรรม รายสัปดาห์ จากนั้นก็ทำงานเป็น ขทร.ไทยรัฐ นสพ.บ้านเมือง ก่อนจะไปยัง นสพ.คมชัดลึก และเครือเนชั่นกรุ๊ป รายงานข่าว ความเดือดร้อน ระวังภัย และข่าวพัฒนาในชุมชนในท้องถิ่นทางเนชั่นทีวี วันนี้พร้อมแล้วที่จะเป็นปากเสียง และนำเสนอการพัฒนาเมืองปทุมธานี