X

บะจ่างน้ำด่าง หรือ กีจ่าง กศน.สืบสานตำนานความอร่อยจากภูมิปัญญา

บะจ่างน้ำด่าง หรือ กีจ่าง กศน.สืบสานตำนานความอร่อย นับวันยิ่งหากินยากมาก เพราะด้วยขาดคนทำเป็น และไม่อยู่ในช่วงเทศกาลไหว้บะจ่างเลยไม่มีให้กินอย่างแพร่หลาย

ตรัง : ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับบะจ่างน้ำด่างกันก่อน กล่าวคือ บะจ่างน้ำด่างเป็นอาหารจำพวกของหวาน ไม่มีไส้ ห่อด้วยใบไผ่ เนื้อของบะจ่างน้ำด่างจะมีสีเหลืองใส กินคู่กับน้ำตาลทรายแดง น้ำตาลจาก(น้ำตาลจากมีกินเฉพาะคนปักใต้) บางที่ก็ทางคู้กับน้ำกะทิสด

น.ส.เขียว  รักสุไหอุเป อายุ 73  ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.4 ต.บ้าหวี อ.หาดสำราญ จ.ตรัง ผู้ทรงภูมิปัญญาด้านขนมพื้นบ้าน  กล่าวว่า ตนเองได้ทำ บะจ่างน้ำด่างมาหลายสิบปีมากจนจำไม่ได้เพราะทำตั้งแต่ยังสาวๆ  ที่ทำบะจ่างน้ำด่างเป็นก็เพราะช่วยแม่ทำไว้กิน ในครอบครัวสมัยก่อนไม่มีขนมสด ขนมแห้งกินเหมือนสมัยนี้ ยิ่งครอบครัวไหนมีลูกหลายมากการทำขนมบะจ่างกินกันเป็นเรื่องที่ดีเพราะต้นทุนต่ำหรือแทบไม่ต้องซื้ออะไรเลย ข้าวเหนียวก็ปลูกเอง น้ำด่างก็ได้จากเผาเปลือกนุ่น/เปลือกทุเรียน ใบไผ่ก็หาง่ายในชุมชน  และก็ทำเรื่อยมาถึงทุกวันนี้

และตนเองก็เกรงว่าการทำบะจ่างน้ำด่างนี้จะสูญหายก็ได้ไปคุยกับทาง นางสาวรอฮานี  อาแวกาจิ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง เพื่อให้มีกี่เปิดสอนกลุ่มสนใจการทำบะจ่างน้ำด่าง เพื่อสืบสานและอนุรักษ์การทำบะจ่างน้ำด่าง  ตอนนี้ทาง กศน.อำเภอหาดสำราญได้เปิดสอนกลุ่มสนใจการทำบะจ่างมีชาวบ้านสนใจมาเรียนกว่า 20 คน และแต่ละคนบอกว่ามันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ เพราะความยากมันอยู่ที่การห่อและผูกบะจ่างนั้นเอง

การทำบะจ่างน้ำด่างเริ่มต้นที่ การเตรียมใบไผ่ป่า หรือใบไผ่ตง มาล้างทำความสะอาด ล้างข้าวเหนียวให้สะอาดแช่ไว้ประมาณ 3-5 ชม.แต่ถ้าเป็นข้าเหนียวเก่าแช่น้ำประมาณ 10 ชม. จากนั้นข้าวเหนียวมาพักให้หมาด นำผงด่าง หรือน้ำด่าง และ ผงกรอบ หรือ น้ำประสาทองเล็กน้อย คลุกเคล้า ให้เข้ากัน จากนั้นนำไปห่อด้วยใบไผ่ผู้ด้วยเชือกเป็นพวง  ก่อนนำไปต้มในน้ำเดือดนานกว่า 4 ชม. เป็นอันเสร็จ น้ำมาตั้งให้เย็น กินคูกับน้ำตาลทรายแดง หรือน้ำตาลจาก(น้ำตาลที่ได้จากต้นจาก)

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน