เลี้ยงเป็ดไข่ในสวนปาล์มก่อนนำมาทำไข่เค็มใบเตยหอม

ครู กศน.ตรัง แนะช่องทางรวยให้ชาวบ้านคลองน้ำนิ่ง อำเภอสิเกา
จังหวัดตรัง เลี้ยงเป็ดไข่ในสวนปาล์ม แปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอม

จากสภาวะราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ สร้างผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นวงกว้าง ชาวบ้านคลองน้ำนิ่ง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง รวมกันตัวเลี้ยงเป็ดไข่กว่า 500 ตัว ในสวนปาล์ม โดยเก็บไข่สด ส่งขายและแปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอม

เมื่อวันที่ 28  มกราคม  2561 “กลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่” ตั้งอยู่เลขที่ 55/8 หมู่2  ต.กะลาเส  อ.สิเกา  จ.ตรัง นางสาวรัศมี  เจี้ยวเห้ง ประธานกลุ่ม “กลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่” กล่าวว่าตนเองได้รวบรวมชาวบ้านในชุมชน กว่า 10 คน มาเรียนรู้การเลี้ยงเป็ดไข่ กว่า 500 ตัว และการบริหารจัดการกลุ่ม ทั้งการจัดตั้งกลุ่ม การทำบัญชีครัวเรือน การแปรรูปไข่เค็มใบเตยหอม  การออกแบบฉลากและบรรจุภัณฑ์ โดยได้นางจุฑาภรณ์  พงศ์ประวัติ ครูกศน.ตำบลกะลาเส เป็นพี่เลี้ยง

และประสานงานกับภาคีเครือข่ายร่วมสนับสนุนกลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่  จากการเลี้ยงเป็ดไข่มา 5 เดือน สร้างรายได้ให้กับกลุ่มอย่างงดงาม  ในแต่ละวันเป็ดจะออกไข่ 400- 450  ฟอง ส่งขายไข่ดิบราคาฟองละ 3.50 สตางค์   แปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอมจะขายได้ในราคาฟองละ 8 บาท  ซึ่งไข่เค็มที่กลุ่มนำมาแปรรูปจะใช้วัตถุดิบที่จากธรรมชาติดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยใช้  ดินสอพอง   เกลือไอโอดีน   ใบเตยหอม  น้ำสะอาด  ขั้นตอนการทำก็จะนำ

ดินสอพอง 3 ส่วน  เกลือ 1 ส่วน ใบเตยหอม 1 ส่วน  และน้ำสะอาดพอสมควร นำทุกอย่างมาผสมคลุกให้เข้ากันแล้วมาพอกไข่เป็ดที่ล้างสะอาดแล้ว พักไว้ 7 วัน ก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้นานาชนิด ไข่ดาว, ยำไข่เค็ม,ไส้ขนมต่างๆ ข้อดี ของไข่เค็มใบเตยหอมจะได้ไข่เค็มที่หอม ลดกลิ่นคาว  เนื้อไข่จะแดง กลม ส่วนดินสอพอง ยืดอายุของ ไข่เค็มให้สามารถเก็บรักษาอยู่ได้นานถึง 1 เดือน  เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นจำนวนมาก ลูกค้าจะซื้อไปบริโภคและเป็นของฝากซึ่งทางกลุ่มเร่งแปรรูปเพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า