ชวน หลีกภัย เดินจากบ้านพักไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งโรงเรียนวัดควนวิเศษ เตือน ให้เลือกคนดี ระวังคนไม่ดีที่ใช้เงินซื้อเสียง ใช้เจ้าหน้าที่ข่มขู่คุกคาม เข้ามาบริหารประเทศ
เตรียมเช็คผลคะแนนเลือกตั้ง ตรัง คลิ๊กที่นี่
ชวน หลีกภัย หย่อยบัตรแล้ว เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 24 มี.ค.62 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินเท้าออกจากบ้านพักวิเศษกุล เลขที่ 183 ถ.วิเศษกุล อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมด้วย นายสมบูรณ์ อุทัยเวียงกุล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และนายระลึก หลีกภัย น้องชาย
เพื่อไปที่หน่วยเลือกตั้งที่ 53 เขต 1 ภายในห้องประชุมใต้อาคารเรียน 6 โรงเรียนวัดควนวิเศษ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักเพียงแค่ 300 เมตร ระหว่างเส้นทางที่เดิน ได้โบกมือทักทายพี่น้องประชาชน ตลอดสองข้างทาง มีชาวบ้านบางส่วนมาขอถ่ายรูปร่วม ก่อนจะเข้าไปภายในหน่วยเพื่อตรวจเช็ครายชื่ออยู่ลำดับที่ 270 โดยมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเป็นคนที่ 40 ในหน่วยเลือกตั้ง และเข้าคูหาเลือกตั้ง ก่อนจะหย่อนบัตรเลือกตั้ง
นายชวน หลีกภัย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้เป็นวันเลือกตั้ง ก็อยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชน มาใช้สิทธิกันให้มากที่สุด เพราะว่าจะมีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล โดยที่ระบบการเลือกตั้งมันเปลี่ยนไป ก็เป็นครั้งแรกที่เขาใช้บัตรใบเดียว ในการเลือกผู้สมัครก็จะมีผลต่อพรรคและมีผลไปถึงคนอื่นด้วย ทีนี้ก็มีผลมาถึงผมด้วย
ก็อยากให้พี่น้องมาใช้สิทธิกันให้มากๆ เลือกคนดีเข้าไป ซึ่งในสถานการณ์ของพรรค ภาคใต้ผมก็เดินไปช่วยครบทุกจังหวัด โดยทั่วไปก็ถือว่าอยู่ในสภาพปกติ แต่ในช่วงหลังมีกรณีการไปข่มขู่ว่าห้ามเลือกพรรคประชาธิปัตย์ และเรื่องของการถ่ายบัตรประชาชนเอาไว้
ทั้งนี้ ผมฝากข้อเตือนใจไว้ให้กับพี่น้องของเราว่า พฤติกรรมแบบนี้มันเคยมีในอดีต แต่ยุค 2562 นี้ ปรากฏว่ามันก็ไม่น้อยลงไป อย่างผมก็รู้พฤติกรรมของคนกลุ่มนี้อยู่ เป็นพฤติกรรมของคนกลุ่มเดิม และกลุ่มใหม่ ก็อยู่ที่พวกเราชาวบ้าน ที่ผมปราศรัยทุกครั้ง ขายเสียงไม่เคยทำให้ใครรวย มีแต่ทุจริต เมื่อนักการเมืองของเราเป็นแบบนี้
หน้าที่ของเราก็คืออย่าไปเลือกคนประเภทนี้ เพราะว่าคนดีเขาไม่กัน การซื้อเสียงไม่ใช้เป็นพฤติกรรมของคนดี แต่ว่าพี่น้องของเราที่ตรังที่พัทลุง หรือที่จังหวัดไหนก็ตาม รวมทั้งทั่วประเทศก็ต้อง เลือกคนดี วันนี้วันเลือกตั้ง ผมไม่ประสงค์ที่จะบอกว่าเลือกพรรคใด แต่ว่าระวังคนที่ไม่ดีเข้ามา คนที่ไม่ดีที่เราเห็นเด่นชัดก็คือ คนที่ซื้อเสียง ใช้เจ้าหน้าที่ข่มขู่คนทั่วไป
