ท่ามเฮง ลุยขอคะแนนเสียงรับฟังปัญหาซาไก ขณะที่กลุ่มซาไกพร้อมเลือกตั้ง

ท่ามเฮง ผู้สมัคร ส.ส.พรรค ปชป.ตรัง เขต 3 ลงพื้นที่ขอคะแนนเสียงและรับทราบปัญหาชนเผ่าซาไก หรือมันนิ ขณะที่กลุ่มซาไกยืนยันพร้อมแล้วกับการไปลงเลือกตั้ง

เรียกร้องขอรัฐบาลชุดใหม่ช่วยเหลือด้านสวัสดิการเพิ่มหลังไม่เพียงพอกับการดำรงชีพ หลังจากยางราคาตกต่ำ และสร้างถนนหนทางให้เพราะไม่สะดวกกับการเดินทาง

นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ น้องท่ามเฮง  พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 11 เขต 3 ลุยพื้นที่ชุมชนเผ่าซาไก หรือ มันนิ เดินเท้าหาเสียงด้วยระยะถนนหนทางที่เดินเข้าไปลำบากเป็นหลุมเป็นบ่อหลายกิโลเมตร 

ทั้งนี้หนึ่งในสมาชิกชนเผ่าซาไก คือ นางละอองดาว ศรีลิพัง อายุ 23 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน (นายแมว ศรีปะเหลียน) อยู่บ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 5 ต.ลิพัง อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า หากได้รัฐบาลใหม่ ตนอยากให้ขึ้นราคายางพาราและสร้างถนนหนทางให้

เพราะตอนนี้ได้รับความลำบากมากทั้งในยามหน้าแล้งและหน้าฝนเพราะเป็นเส้นทางที่ใช้ในชีวิตประจำวัน สร้างความลำบากให้กับเด็กๆ ที่เดินทางไปโรงเรียน ซึ่งเด็กๆก็ไม่ค่อยจะได้ไปโรงเรียนเพราะลำบากเรื่องเส้นทาง มีเด็ก 4-5 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ ส่วนเด็กในเผ่าทั้งหมดมีประมาณ 10 คน

ทั้งนี้ถึงแม้จะได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐมาช่วยเหลือก็ยังไม่พอ กับการเลี้ยงดูคนในครอบครัว ซึ่งในตอนนี้ ยังไม่มีว่าที่ผู้สมัครคนใดในใจ แต่ยืนยันว่าวันที่ 24 มีนาคม 62 นี้ ไปลงคะแนนเสียงแน่นอน

ส่วนทางด้านนายแมว ศรีปะเหลียน อายุ 35 ปี ผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 11 คน ตั้งใจว่าวันที่ 24 มีนาคม 62 จะไปลงคะแนนทุกคน อยากให้รัฐบาลใหม่ขึ้นราคายางพารากิโลละ 100 บาท จะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

ทางด้านน้องท่ามเฮง นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เขต 3 กล่าวว่า จากการที่ตนได้ลงมาสัมผัสกับชีวิตชาวซาไกตั้งแต่เด็ก ๆ มองว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมาก วันนี้ตนไม่ได้มาหาเสียงอย่างเดียวแต่ตนมาเพื่อเก็บข้อมูลเพื่อเสนอนโยบายและหาแนวทางการเข้ามาพัฒนาปรับปรุง

ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้านบอกว่ามีความต้องการถนนหนทางและสาธารณูปโภค ซึ่งก็อยู่ในแผนพัฒนา ซึ่งเชื่อว่าเราไม่ควรมองกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง ควรให้เขาเท่าเทียมกัน  ส่วนเรื่องราคายางพรรคประชาธิปัตย์เห็นความสำคัญอยู่แล้ว

เราทำเพื่อพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว มีการประกันราคายาง ส่วนสวัสดิการของรัฐที่ไม่เพียงพอ ก็ต้องดำเนินเรื่องให้ หากตนได้รับการเลือกตั้งตนพร้อมที่จะเป็นปากเป็นเสียงดูแลเรื่องปัญหาของชนเผ่าซาไก ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น