X
วัดน้ำผุด ตรัง,ตรัง วัดน้ำผุด,ไล่เจ้าอาวาส, มารศาสนา,พระทะเลาะกัน,

วัดน้ำผุด ตรัง ชาวบ้านคัดค้านย้ายผู้ช่วยเจ้าอาวาส แต่กลับขับไล่เจ้าอาวาสวัดแทน

วัดน้ำผุด ตรัง ชาวบ้านตำบลน้ำผุดและตำบลปากแจ่ม รวมตัวลงชื่อคัดค้านการสั่งย้ายผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุดไปจำพรรษาที่อื่น พร้อมลงชื่อ ขับไล่เจ้าอาวาสวัดรูปปัจจุบัน ให้ไปจำวัดที่อื่น หลังทนพฤติกรรมความไม่โปร่งใส ยึดความคิดตนเองเป็นใหญ่ ไม่พัฒนาวัด ขณะที่เสียงชาวบ้านเป็นยกมือเป็นเอกฉันท์ให้เจ้าอาวาสออกจากวัดทันที

วัดน้ำผุด ตรัง ชาวบ้านคัดค้านย้ายผู้ช่วยเจ้าอาวาส แต่กลับขับไล่เจ้าอาวาสวัดแทน : เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 มกราคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลาดวัดน้ำผุด ม.1 ต.น้ำผุด  อ.เมือง จ.ตรัง พบชาวบ้านกว่า 200 คนจาก 2 ตำบล คือ ตำบลน้ำผุด อ.เมืองตรัง และต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ทยอยกันมาต่อแถวยาวเหยียดลงชื่อคัดค้านการสั่งย้ายผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุด พระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วง ให้ไปจำพรรษาที่วัดไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง พร้อมกับลงชื่อขับไล่เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน พระอธิการเปี่ยม อัตถาโร หรือ หลวงดึง ให้ออกไปจากวัดไปจำพรรษาที่อื่น หลังจากทนพฤติกรรมความไม่โปร่งใส ยึดความคิดตนเองเป็นใหญ่ ลุแก่อำนาจ ไม่ปรึกษาใคร ทำให้วัดไม่พัฒนา

สืบเนื่องจากเมื่อวานนี้ วันที่ 15 มกราคม 2562 ชาวบ้านได้รับทราบข่าวว่า เจ้าคณะอำเภอเมืองตรัง ได้เดินทางเข้ามายังวัดน้ำผุดโดยออกคำสั่งให้พระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุด ให้ไปจำพรรษาที่วัดไร่พรุ ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง หลังจากที่พระอธิการเปี่ยม อัตถาโร หรือ หลวงดึง เจ้าอาวาสวัดน้ำผุด ได้ไปร้องเรียนกับเจ้าคณะอำเภอเมืองตรังว่า พระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุด ปฏิบัติตัวข้ามหน้าข้ามตาตนเอง

จึงต้องการให้พระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วงผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุดให้ไปจำพรรษาที่อื่น สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่ทราบข่าวเป็นอย่างมาก ต่างรวมตัวกันมาเพื่อคัดค้าน ไม่ยินยอมพระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุดไปจำพรรษาที่อื่น เพราะที่ผ่านมาพระรูปดังกล่าวเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน เป็นอย่างมาก ช่วยเหลือชาวบ้านในยามทุกข์ร้อนในทุกๆเรื่อง ตลอดมา  จึงเป็นชนวนเหตุ ให้ชาวบ้านได้ลงชื่อคัดค้านการสั่งย้ายรองเจ้าอาวาส และขับไล่เจ้าอาวาสวัดแทน เนื่องจากที่ผ่านมาทนพฤติกรรมของเจ้าอาวาสวัดไม่ไหว ความไม่โปร่งใส ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น เงินที่ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาถวาย เงินบริจาคหลาย ๆ ส่วนที่ทางคณะกรรมการวัดต้องรับทราบ แต่ไร้การชี้แจง วัดไร้การพัฒนาปล่อยให้เสื่อมโทรม เมื่อคณะกรรมการวัดต้องการจะนำเงินมาบูรณะกลับไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว และยึดความคิดตนเองเป็นใหญ่ไม่ปรึกษาใคร ซึ่งในวัดดังกล่าวมีพระที่จำพรรษาเพียง 3 รูป เท่านั้น

ส่วนทางด้านนายศราวุธ ยลประสิทธิ์ ปลัดอำเภอเมืองตรัง ซึ่งเดินทางมารับเรื่องแทนนายอำเภอเมืองตรัง พร้อมด้วยนายวิศาสตร์ แสงสี นายก อบต. น้ำผุด  นายจตุรงค์ เครือเตียว กำนันตำบลน้ำผุด  และผู้นำชุมชน ได้ตั้งโต๊ะรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้าน หลังจากนั้นให้ทางชาวบ้านทำหนังสือผ่านตนเอง เพื่อส่งไปยังนายอำเภอ และสำนักนักพุทธฯ เพื่อพิจารณาและไต่สวนถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ที่พระทั้ง 2 รูป จะอยู่ต่อหรือย้ายออกจากวัด แต่ในขณะเดียวกันเสียงของชาวบ้านเป็นเอกฉันท์ให้ พระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วงผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุดอยู่ต่อ แต่ให้พระอธิการเปี่ยม อัตถาโร หรือ หลวงดึง เจ้าอาวาสวัดน้ำผุด ไปจำพรรษาที่อื่น

นายปิยะศักดิ์ แก้วละเอียด ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง กล่าวว่า ชาวบ้านที่มาในวันนี้ส่วนหนึ่งมาเป็นกำลังใจให้ พระชริน ชริน ทโร  หรือ หลวงด้วง ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดน้ำผุด และส่วนหนึ่งมาขับไล่เจ้าอาวาสวัดเนื่องจากไม่ชอบด้วยเหตุผลหลาย ๆ เรื่องที่ไม่มีความโปร่งใส ไม่ชี้แจงและไม่มีหลักฐานยืนยันใด ๆ  ซึ่งเมื่อชาวบ้านทราบข่าวให้หลวงด้วงออกจากวัดชาวบ้านจึงเดินทางเข้ามารวมตัวกันดังกล่าว  ตนเองก็ไม่ทราบสาเหตุเหมือนกันว่าเขาใช้อะไรมาตัดสินให้หลวงด้วงออกจากวัดทั้งที่ชาวบ้านมีความเคารพศรัทธาอยู่ ตนเองได้ประสานไปยังเจ้าคณะอำเภอแล้ว แต่เจ้าคณะอำเภอติดกิจนิมนต์ จึงประสานไปยังปลัดอำเภอ เพราะในวัดเจ้าอาวาสก็ไม่อยู่ พระผู้ใหญ่ก็ไม่มาซักรูปก็ไม่รู้จะประสานกับใครจึงประสานไปทางอำเภอ ซึ่งชาวบ้านที่มาในวันนี้ ได้มาการทยอยเดินทางเข้ามาเรื่อย ๆ ความต้องการส่วนหนึ่งของชาวบ้านคือ ให้เจ้าอาวาสออกจากวัด

ทางด้านนางกัลยา บัวผุด อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.1  ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นกรรมการวัด กล่าวว่า ในความเห็นส่วนตัวตนอยากให้เจ้าอาวาสออกจากวัด  เนื่องจากเมื่อทางวัดมีกิจกรรมอะไรทางเจ้าอาวาสวัดเป็นคนดำเนินการทั้งหมด คณะกรรมการวัดไม่มีสิทธิในการตัดสินใจใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีการพัฒนาวัดเลยงบประมาณก็ไม่มีโดยอ้างว่าไม่มีเงิน ไม่มีการชี้แจงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามในการลุกฮือของชาวบ้านครั้งนี้ ได้มีฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มาสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหว หวั่นว่าจะมีมือที่สามเข้ามาสร้างความปั่นป่วน ขณะที่ปลัดอำเภอเมืองตรัง จะนำหนังสือร้องเรียน ส่งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนา ชาวบ้านพอใจในการเจรจาและข้อเรียกร้องของชาวบ้าน และในที่สุดชาวบ้านพอใจและได้แยกย้ายกันกลับ โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน