เครือข่ายผู้หญิงปลอดหนี้มีสุข ตรัง-พัทลุง 30 คน เข้าพบยุติธรรม จ.ตรัง และ ผบก.ตรัง ให้ช่วยแก้ปัญหาเดือดร้อน คดีถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบ ข่มขู่ คุกคาม จนบางคนเครียดจัดช็อกเสียชีวิต
ตรัง สาวใหญ่ 30 คน ร้องยุติธรรมจังหวัดช่วยคดีเงินกู้นอกระบบ
นายนพดล นมรักษ์ ยุติธรรม จ.ตรัง และเจ้าหน้าที่สำนักงานยุติธรรม จ.ตรัง ได้นำสมาชิกเครือข่ายผู้หญิงปลอดหนี้มีสุข ตรัง-พัทลุง นำโดย นางกนกวรรณ ลายทิพย์ ประธานเครือข่ายฯ คณะกรรมการ และสมาชิก ล้วนเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาเงินกู้นอกระบบประมาณ 30 คน เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง และ พ.ต.อ.วดล คงพิพัฒน์กุล ผกก.กลุ่มงานสอบสวน ภ.จว.ตรัง 
เพื่อให้เร่งรัดคดีเงินกู้นอกระบบ หลังได้รับความเดือดร้อนจากการตกเป็นเหยื่อกลุ่มทุนธุรกิจขายฝากในพื้นที่ โดยกลุ่มผู้ได้รับความเดือดร้อนดังกล่าวอ้างว่า ถูกข่มขู่จะยึดบ้าน ขูดรีด กดขี่ และขับไล่ให้ออกจากบ้านของตัวเอง ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยมาตลอดชีวิต จนบางรายเกิดความเครียดอย่างหนัก และหาทางออกไม่ได้ ถึงขั้นเสียชีวิตไปแล้วก็มี
พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผบก.ภ.จว.ตรัง กล่าวว่า ตนเองได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทุกด้าน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมรู้สึกเห็นใจและเข้าใจชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำงานเสร็จไปแล้วบางส่วน ยังเหลือการสอบพยานอีกไม่กี่ปาก ก็จะสามารถส่งสำนวนเพื่อดำเนินคดีได้ภายใน 30 วัน ทั้งนี้ เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูล ก็จะส่งตัวนายทุนไปดำเนินคดีในข้อหาปล่อยกู้นอกระบบในอัตราดอกเบี้ยผิดกฎหมาย
นางสาวจุไรวรรณ ดวงแก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/1 ม. 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หนึ่งในผู้ที่กำลังได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหนี้ขายฝากของตนเองถูกตำรวจค้นบ้าน และทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดโฉนดที่ดินและเอกสารสิทธิ์การทำสัญญาที่ดินไปหลายรายการ ตนเองและสมาชิกจึงมาติดตามว่าเอกสารที่ตรวจยึดมาได้นั้น มีเอกสารที่เป็นของพวกตนคนใดบ้างหรือไม่ เพราะพวกตนได้รับความเดือดร้อน มีความหวาดกลัว และเกิดความเครียดจากนายทุนกลุ่มนี้มานาน
โดยเฉพาะกรณีของตนเองนั้น ถูกหลอกให้มีการทำขายฝากที่ดิน จากเดิมที่ตนเป็นหนี้อยู่ในระบบ 800,000 กว่าบาทแล้ว และยังมีหนี้นอกระบบอยู่อีก 100,000 บาท ทางนายหน้าขายฝากจึงได้ติดต่อกับตนเองว่า ให้ทำสัญญาขายฝากกับนายทุน เพื่อจะได้มีเงินเหลือมาใช้หนี้นอกระบบทั้งหมด ซึ่งตนก็คิดว่าดี เพราะเขาบอกว่าทำสัญญาประมาณ 3 เดือน ก็จะนำโฉนดบ้านกลับเข้าไปอยู่ในระบบได้อีกครั้ง เพราะนายหน้ารู้จักกับคนในสามารถช่วยเหลือกันได้ ตนก็หลงเชื่อ จึงตกลงถอนโฉนดที่ดินออกมาจากสหกรณ์ฯ เพื่อมาทำการขายฝากกับนายทุน แต่ปรากฏว่า เวลาผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะสามารถกู้ในระบบได้ ขณะที่ตนต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 30,000 บาท จนจ่ายไม่ไหว
ทั้งนี้เพื่อนๆ ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนก็มีจำนวนนับ 100 ราย ที่เจอสภาพเดียวกัน หาทางออกไม่ได้ มีการติดต่อประสานกับเจ้าหนี้เพื่อขอไกล่เกลี่ยก็ไม่ได้รับความร่วมมือ และถูกปฏิเสธมาโดยตลอด ขู่จะยึดบ้านอย่างเดียว ทำให้พวกตนไร้ที่พึ่ง และกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จึงเข้าขอความเป็นธรรมกับสำนักงานยุติธรรม และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือ ซึ่งพวกตนยินดีจ่ายหนี้ แต่ขอจ่ายแบบเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาการเข้าถึงระบบทุนเป็นไปได้ยากมาก ธนาคารไม่ปล่อยเงื่อนไข กติกาเยอะ จึงจำเป็นต้องกู้นอกระบบ
นางสาวนิราภรณ์ ทองแจ้ง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 263 ม.5 ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ก็กล่าวว่า หลังจากเกิดปัญหาทำให้พ่อของตนเครียดจนช็อกเสียชีวิตไปแล้ว มิหนำซ้ำยังต้องถูกข่มขู่จากนายทุนว่าจะยึดบ้านอีก พวกตนถึงวอนขอให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครอีกแล้ว
