X
กู้ภัยขุดศพ,ผัวฝังศพเมีย,ก๊งซี้, ผ่าชันสูตร, กลัวโควิด,คลองลำชะ,

กู้ภัยขุดศพเมียที่ถูกฝังข้างก๊งซี้ ส่งผ่าชันสูตร ผัวอ้างป่วยตายเอง

กู้ภัยขุดศพเมียที่ถูกผัวฝังข้างก๊งซี้ ส่งผ่าชันสูตร ผัวอ้างป่วยตายเอง กลัวโควิด และไม่อยากรบกวนคนอื่น  ก่อนถูกวิญญาณตามหลอน พี่ชายของคนตายตั้งข้อสังเกต สามีไม่มีจิตสำนึกในความเป็นคน ด้านผู้ตายมาเข้าฝัน อสม.ในพื้นที่ เผยคำให้การสามีบางส่วนย้อนแย้งกับความจริง แถมยังได้ยินเสียงกรีดร้องรุ่งสางในวันตาย

กู้ภัยขุดศพ จากกรณีนายมิตร สุกเลื้อง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ 6 ต.ปะเหลียน อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ได้ขุดหลุมฝังร่างภรรยาคือ นางถนอม ภักดี อายุประมาณ 38- 40 ปี บริเวณภายในสวนยางพารา ห่างจากที่พักคนงาน (ก๊งซี้)ประมาณ 30 เมตร หลังจากภรรยาป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง  และอ้างว่าได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ ก่อนจะนอนเฝ้าศพภรรยา 1 วัน 1 คืน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ก.ย.64 โดยไม่อยากรบกวนคนอื่น  และหวาดกลัวโควิด-19 จึงเป็นมูลเหตุนำมาสู่การฝังด้วยตัวเอง

ต่อมาสามีได้เดินทางไปทำบุญที่วัดโคกมะขาม หลังจากพบเห็นดวงไฟสีเขียว สว่างจ้าโผล่ออกมาจากหลุมศพก่อนจะเคลื่อนเข้าหาตนเอง จนทำให้เรื่องดังกล่าวถูกชาวบ้านพูดถึงเป็นจำนวนมาก และยังทำให้เกิดปัญหาคาใจจากชาวบ้านว่าทำไมตำรวจถึงด่วนสรุปสาเหตุการตายว่ามาจากเสียชีวิตโดยธรรมชาติทั้งที่ไม่มีผลชันสูจน์จากแพทย์ยืนยัน เหตุเกิด พื้นที่บ้านคลองลำชะ หมู่ 6 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.40 วันนี้ 13 ก.ย.64 พ.ต.อ.สมศักดิ์ สังข์น้อย ผกก.สภ.บ้านหนองเอื้อง ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ คำนึง รอง สว.(สอบสวน) กำลังชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีปะเหลียน และญาติผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปบริเวณหลุมศพของนางถนอม ภักดี เพื่อขุดศพนำผ่าชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการตายที่แน่ชัด

ที่ รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากญาติติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสวมชุดป้องกัน PPE พบหลุมศพมีขนาดความกว้างประมาณ 0.8 เมตร ยาวประมาณ 1.2 เมตร ลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ร่างถูกห่อด้วยผ่าห่ม มุ้ง และรัดแน่นด้วยผ้าใบพลาสติก เริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็น ท่ามกลางชาวบ้านนับร้อยชีวิตแห่ให้ความสนใจมุงดูเหตุการณ์ พร้อมทั้งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยพบเจอเหตุการณ์ลักษณะการนำศพไปฝังเองเช่นนี้มาก่อน

นายฉลอง ภักดี อายุ 43 ปี ผอ.โรงเรียนวัดสีหราษฎร์ศรัทธา ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง พี่ชายผู้ตาย เปิดเผยว่า ครอบครัวมีพี่น้องร่วมกัน 3 คน พี่ชายคนโตอยู่ที่บ้านหนองแห้ง อ.ย่านตาขาว ส่วนตนเป็นคนกลาง ผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้อง พักหลังไม่ได้ติดต่อกับผู้ตายมานานกว่า 2 ปีกว่า แต่ทราบว่าผู้ตายได้ไปมาหาสู่กับพี่ชายตลอด เพราะอยู่ใกล้กัน

กระทั่งวานนี้ได้รับทราบข่าวจากญาติ ว่าน้องสาวได้เสียชีวิต จึงนัดพี่น้องมารับทราบเรื่อง และติดใจในสาเหตุการตาย เพื่อมาพิสูจน์หาความจริง ส่วนเรื่องของคดีขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการไป ส่วนศพหลังจากผลชันสูตรออกแล้วก็จะนำไปฌาปนกิจ ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตมีข้อสงสัยหลายประการ โดยจิตสำนึกของคนทั่วไปแล้ว เมื่อเสียชีวิตลง อย่างน้อยต้องแจ้งให้ญาติทราบก่อนที่จะดำเนินการไดๆ แต่เหตุการณ์นี้กลับผิดแปลก

ด้าน นางศิรินันท์ กังแฮ อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่ อสม.ในพื้นที่ กล่าวว่า ตนเห็นผู้ตายช่วงที่เปิดกรีดหน้ายางใหม่ๆ ประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา นั่งซ้อนท้ายสามีผ่านหน้าบ้านบ่อยครั้ง แต่เรื่องของการป่วยติดเตียง นานถึง 5-6 เดือนนั้นคงไม่เป็นความจริง เพราะนั่งรถกับสามี และส่งยิ้มให้กันอยู่ ส่วนสามีออกมาซื้อที่ร้านชำในหมู่บ้านเป็นประจำ พบเจอกันบ่อย แต่มาทราบก็กลายเป็นศพร่างโดนฝังแล้ว

ตนเองถึงขั้นนอนไม่หลับ เพราะไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ทราบว่าผู้ตายเคยมีบุตร 2 คน กับสามีเก่า แล้วย้ายมาอยู่กับสามีคนนี้  ผู้ตายตัดผมสั้น หน้าตาดี สวย และข้อมูลที่สามีให้การไม่เป็นความจริง  รวมทั้งมีท่าทีพิรุธลุกลี้ลุกลน  ส่วนตนเองเมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ตายได้มาเข้าฝัน ลักษณะแต่งกายสวยงาม พร้อมทั้งตะโกนเรียกหาตนเอง เพราะขณะมีชีวิตอยู่ตนได้ไปนั่งพูดคุยกับผู้ตายที่บ้านพักคนงานดังกล่าวบ่อยครั้ง จนกระทั่งเช้าที่ผ่านมาตนได้ไปทำบุญตักบาตรเพื่ออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่ผู้ตาย

อย่างไรก็ตามชาวบ้านที่อยู่ใกล้กันซึ่งพิการทางสายตาได้ให้ข้อมูลว่ารุ่งเช้าก่อนฟ้าสว่างก่อนที่ผู้ตายจะเสียชีวิตลง ได้ยินเสียงกรีดร้องออกมาจาก บ้านพักคนงานดังกล่าว และชาวบ้านในพื้นที่ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่ามีปัญหาทะเลาะวิวาทกันอยู่บ่อยครั้ง และข้อมูลที่สามีให้การขัดกับความเป็นจริง ประกอบกับการที่สามีเห็นดวงไฟสีเขียวโผล่จากหลุมขึ้นมาหลอกหลอน เชื่อว่าเป็นวิญญาณของภรรยา อย่างไรก็ตามสำหรับคดีดังกล่าว ทางตำรวจได้ดำเนินการตามคดีชันสูตรพลิกศพ หลังจากที่วานนี้เตรียมที่จะดำเนินการยืนยันว่าผู้ตายเสียชีวิตตามธรรมชาติ หลังจากนี้จะต้องรอผลชี้ชัดในสาเหตุการตาย ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน