X
ผัวฝังศพเมีย,ไว้ ก๊งซี้,สวนยางพารา,กลัวโควิด,ตายตามธรรมชาติ,คลองลำชะ,

ผัวฝังศพเมียข้าง”ก๊งซี้”กลางสวนยางกว่า 4 วัน อ้างกลัวโควิดไม่อยากรบกวนคนอื่น 

วันที่ 12 กันยายน 2564 เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีคนตายและถูกสามีฝังศพไว้ข้าง “ก๊งซี้”( ที่พักคนงานในสวนยาง) ที่บ้านคลองลำชะ ม.6 ต.แหลมสอม อ.ปะเหลียน จ.ตรัง เกรงกลัวว่าจะมีการตายจากการติดเชื้อโควิดหรือเปล่า (ชาวบ้านสันนิษฐาน) ที่สามีรีบฝังศพภรรยาทันทีโดยไม่บอกกล่าวกับใคร ไม่บอกเจ้าหน้าที่ แพทย์ไม่ได้มาชันสูตรศพแต่อย่างได หลังฝังศพแล้วสามียังใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   สถานที่เกิดเหตุเป็น ที่พักคนงานหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ก๊งซี้” ขนาด 3 ห้อง ไม่พบคนงานแต่อย่างใดเมื่อสอบถามจากผู้นำชุมชนก็ทราบว่า  ที่พักคนงานหลังดังกล่าว มีนายมิตร  สุกเลื้อง อายุ 56 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง อาศัยอยู่กับ นางถนอม ภักดี  อายุประมาณ  38- 40 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน มารับจ้างกรีดยางที่สวนแห่งนี้นานกว่า 5 ปี

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินไปเห็นทางด้านขวามือของที่พักคนงาน  ห่างจากที่พักคนงาน (ก๊งซี้)เพียง 30 เมตร พบร่องรอยของการขุดหลุมและฝังกลบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการฝังศพของนางถนอม ภักดี  โดยมี ลักษณะหลุมศพถูกขุดด้วยจอบด้ามสั้น ขนาดความกว้าง  0.8 เมตร ยาว 1.2 เมตร ลึก 1 เมตร ส่วนภายในที่พักคนงานภายในโล่ง มีเสื้อผ้าและที่นอนเก่าๆ ด้านหลังที่พักด้านมุมซ้ายก็พบกับจอบที่มีรอยเปื้อนดินติดอยู่ ห่างถัดไปอีกนิดพบถุงมือผ้าคาดว่าน่าจะเป็นของสามีที่ใช้สวมในการขุดหลุมฝังศพ

ผู้สื่อข่าวได้ไปพบ ร.ต.อ.ณรงค์ศักดิ์ คำนึง พนักงานสอยสวน สภ.บ้านหนองเอื้อง ต.แหลมสอบ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ได้ความว่า ในวันที่นี้เวลา 15.00 น. ได้รับแจ้งจาก กำนันในพื้นที่ ว่ามีการฝังศพคนเสียชีวิต ได้ทำการฝังศพไว้ในสวนยางพารา โดยไม่ได้บอกใคร จึงเข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบนายมิตร สุกเลื้อง อายุ  56  ปี

อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 6 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง สามีนางถนอม ภักดี อายุ 36-40 ปี (ไม่มีหลักฐานได้) เล่าว่าภรรยาเป็นโรคประจำตัว  เมื่อ 5-6 เดือนที่ผ่านมาผู้ตายอาการหนัก กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง และมาเลียชีวิตลง ตรงกับวันพุธ ที่ 8 กันยายน 2564 ที่ผ่านมาตนเกรงใจเพื่อนบ้าน ไม่กล้าบอกใคร เกรงว่าเพื่อนบ้านจะตั้งข้อรังเกียจ จึงปิดเรื่องของการตายของภรรยา การที่คนเสียชีวิตในวันพุธ นั้นคนไทยเขาถือ จะไม่ใส่โลง จะไม่เผา ไม่ฝัง  จึงอยู่กับศพภายในบ้าน หนึ่งวันกับหนึ่งคืน

โดยไม่บอกกล่าวกับใคร ในที่สุดก็ไปขุดหลุมในสวนยางพารา ห่างจากบ้านพักประมาณ  200 เมตร โดยทำเพียงลำพัง เพียงคนเดียว ไม่บอกใครให้ใครรู้ หลังจากฝังเสร็จ ได้เจอกับเด็กที่ผ่านมาได้บอกว่าได้ฝังศพภรรยาที่เสียชีวิตในสวนหลังที่พัก  ต่อมาในคืนวันพฤหัสบดี หลังจากฝังศพแล้ว ในขณะที่นั่งอยู่ที่บ้านพักเห็นแสงไฟสีเขียวลอยขึ้นมาจากหลุมศพ ตอนเช้าของวันศุกร์ช่วงเช้าได้ไปหาเจ้าอาวาส วัดโคกมาขาม ซึ่งเป็นวัดใกล้บ้าน ไปเพียงคนเดียว ได้นำข้าวถุงแกงถุง ไปถวายเจ้าอาวาส ขอให้เจ้าอาวาสส่งช่วยส่งวิญญาณของภรรยาผู้เสียชีวิตให้ไปสู่สุขติ

พระเสนอ วรธฺโม เจ้าอาวาสจัดโคกมะขาม (วัดหาดเลา) ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่าในช่วงเช้าของวันศุกร์ได้มีนายมิตร นำข้าวถุงแกงถุง ไปถวาย หลังฉันเช้าเสร็จ ซึ่งเป็นคนที่ไม่คุ้นเคย พึ่งมาครั้งนี้ ได้เล่าให้ฟังว่าหลังจากที่ฝังภรรยาแล้วนอนไม่หลับ อยู่ที่พักตอนดึกเห็นแสงไฟสีเขียวลอยขึ้นมาตรงหลุมฝังศพ พูดแบบเพ้อ ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง พอจะลำดับได้ว่าภรรยานั้นเป็นคนภาคอีสาน มาอยู่ตรังนานแล้ว  พระอาจารย์เป็นพระต้องทำได้ทุกอย่าง คนเป็นอะไร เป็นโรคร้ายก็ต้องทำพิธีเอาให้ทุกคนอยู่แล้ว แม้กระทั่งคนเป็นโรค โควิด-19 ก็ตาม.

“ก๊งซี้” ในความหมายของคนใต้  หมายถึง โรงเรือน หรือห้องแถว ชั่วคราว หรือถาวรทำด้วยไม้ อิฐ หลังคามุงสังกะสี  ก๊งซี้ 1 หลังจะมีห้อง 3 -10 ห้อง แล้วแต่เจ้าของที่เจ้าของสวน โรงเรือนนี้มักจะสร้างในสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน เพื่อใช้เป็นที่พักของคนงาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน