X
จิตอาสาช่วยหมา,คลองชลประทาน,ลวดหนาม,หมาแมว,ช่วยหมา,

ชื่นชมสามหนุ่มจิตอาสาช่วยหมานมเกี่ยวลวดหนามติดอยู่ 2 วัน 2 คืน

สามหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์มาตกปลาริมคลองชลประทานได้ยินเสียงสุนัขร้องแผ่วๆจากสวนยางพาราจึงจอดรถเดินเข้าไปดูเจอสุนัขนอนร้องด้วยความเจ็บปวดและอ่อนล้าเต็มทีรอดจากความตาย

จิตอาสาช่วยหมา : วันที่ 22 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00 น. ที่ถนนเลียบคลองชลประทานสายบ้านหินขวาง หมู่ที่ 1 ต.ท่าพญา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง  ได้มีสุนัขร้องขอความช่วยเหลืออยู่บริเวณรอยต่อสวนยางพารากับป่าละเมาะห่างจากถนนประมาณ 50 เมตร สามหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์จะมาตกปลาริมคลองชลประทานได้ยินเสียงสุนัขร้องดังขึ้นแล้วค่อยแผ่วลงๆ

จึงได้จอดรถจักรยานยนต์แล้วปีนเนินดินสูง 2 เมตร เพื่อไปดูต้นเสียงของสุนัข และก็พบสุนัขตัวสีขาว เพศเมีย อายุปีเศษ ที่ร่างเกี่ยวติดอยู่กับลวดหนามและมีเถาวัลย์มัดจนแน่น และมีแมลงวันมาตอมบริเวณขาและหน้าท้องของสุนัขตัวดังกล่าว สามหนุ่มผู้ใจบุญก็ได้หาวัสดุที่ใกล้ตัวมาช่วยด้วยการตัดไม้สามง่ามเพื่อมายันคอ เอาเชือกบ่วงมาคล้องขา เพื่อที่จะช่วยสุนัขตัวดังกล่าว

แต่ด้วยกว่าเจ็บและความกลัวทำให้สุนัขตัวดังกล่าวแสดงอาการดุร้ายเพื่อป้องกันตังเอง ทำเอาสามหนุ่มที่มาช่วยเกือบถูกกัด และต้องใช้ความพยายามอยู่นานพอสมความ กว่าจะช่วยสุนัขตัวดังกล่าวได้ ด้วยการนำเชือกบ่วงคล้องขาแล้วดึงให้สุนัขล้ม จากนั้นใช้ไม้ง่าม (ไม้ง่ามในวิชาลูกเสือ) ค้ำยันไปที่คอสุนัขเพื่อล๊อกไม่ให้สุนัขกัด ก่อนที่จะใช้มีดตัดเถาวัลย์ที่พันมัดขาออก

และที่น่าสลดใจคือราวนมของสุนัขไปเกี่ยวติดอยู่กับลวดหนามเป็นแผลช้ำแดงอักเสบส่งกลิ่นเหม็นล่อแมลงวันมาตอม จากนั้นก็ได้จับสุนัขออกมาจากบริเวณดังกล่าวออกมาได้อย่างปลอดไปก่อนที่สุนัขตัวดังกล่าวเดินโซเซหาทางกลับบ้าน

ซึ่งสามหนุ่มจิตอาสาประกอบด้วย นายนพรัตน์ โชติเกษมกุล (ครูนพ) (สวมหมวกยืนตรงกลาง) นายสุรเชษฐ์   ลีสุรวณิช (อ้น)เสื้อเทา อายุ 17 ปี  และนายธนรัตน์  ภิญโญธรรมโนทัย (หมีพู) เสื้อดำ อายุ 18 ปี  สองคนเป็นนักเรียนโรงเรียนตรังรังสฤษฎ์ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง

นายนพรัตน์ โชติเกษมกุล (ครูนพ) หนึ่งในสามหนุ่มจิตอาสาช่วยชีวิตสุนัขตัวดังกล่าวเล่าว่าตนเองและน้องๆขี่รถจักรยานยนต์เลียบถนนคลองชลประทานเพื่อจะมาตกปลาในวันหยุด ก็ได้ยินเสียงสุนัขร้องดังและแผ่วลง จึงจอดรถจักรยานยนต์แล้วปีนเนินดินขึ้นไปดูก็พบสุนัขถูกเถาวัลย์พันเกี่ยวติดอยู่กับลวดหนามจึงได้ชวนน้องอีกสองคนช่วยกันคิดหาวิธีการช่วยเหลือสุนัขตัวดังกล่าวเพื่อให้พ้นจากความเจ็บปวดทุกข์ทรมาน เพราะหากตน หรือไม่มีใครมาเห็นสุนัขตัวดังกล่าวต้องตายแน่นอน.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน