X
วอนช่วยเหลือ, เด็กหนุ่ม,ออทิสติก, เด็กพิการ, สิทธิคนพิการ,เข้าไม่ถึงบริการภาครัฐ,ชมรมออทิสติก,

วอนช่วย เด็กหนุ่มออทิสติกโดนแม่ขังไว้ในห้องมืดนานนับ 10 ปี ซ้ำเข้าไม่ถึงบริการภาครัฐ

แม่ไม่กล้าปล่อยลูกชายออกนอกบ้านหากออกไปแล้วไม่กลับบ้าน มีอารมณ์ฉุนเฉียวทำลายข้าวของหากโดนขัดใจ แม่ไม่มีรายได้ ไม่มีเงินสวัสดิการคนจน ไม่มีเงินคนพิการของลูก อาศัยข้าวสารบริจาคจากชาวบ้านประทังชีวิต ซ้ำไม่เคยมีหน่วยงานเข้ามาดูแลช่วยเหลือ

วอนช่วย เด็กหนุ่มออทิสติกโดนแม่ขังไว้ในห้องมืดนานนับ 10 ปี ซ้ำเข้าไม่ถึงบริการภาครัฐ

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ผู้สื่อข่าวได้แจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กหนุ่มออทิสติกโดนผู้เป็นแม่ขังเอาไว้ในบ้านนานนับ 10 ปี จนปัจจุบันบางครั้งมีอาการก้าวร้าวทำลายข้าวของภายในบ้านหากไม่พอใจหรือโดนขัดใจ ส่วนผู้เป็นแม่ก็ไม่มีรายได้ไม่มีเงินสวัสดิการคนจน หรือเงินคนพิการของลูกที่จะประทังดูแลชีวิตตนเองและลูก ในขณะข้อมูลบางส่วนแจ้งว่าผู้นำในชุมชนอ้างว่าเด็กร่างกายปกติดีจึงไม่ดำเนินการยื่นเรื่องทำการช่วยเหลือ และตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานไหนเข้ามาดูแลช่วยเหลือแม้หน่วยงานเดียว

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 175 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งกระบือ  อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของนางวาสนา จุฑาพิรักษ์ อายุ 58 ปี และนายธีรภัทร จุฑาพิรักษ์ หรือ น้องซีเกมส์ อายุ 26 ปี ลูกชาย อาศัยอยู่สองคนแม่ลูก ส่วนผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตไปนานแล้ว พบว่า ประตูหน้าบ้านซึ่งเป็นประดูกรงเหล็กถูกปิดใส่กุญแจตลอดเวลา ซึ่งวันนี้มีเพื่อนบ้านและผู้สื่อข่าวเข้าไปเยี่ยม ทำให้ทั้งแม่และลูกดูตื่นเต้นและมีความสุขเป็นพิเศษ  ตลอดเวลาที่น้องซีเกมส์ได้นั่งพูดคุยได้อุ้มแมวตัวหนึ่งไว้ตลอดไม่ยอมห่าง จากการสนทนาดูเหมือนว่าน้องซีเกมส์จะรับรู้และเข้าใจสามารถพูดคุยโต้ตอบได้มีบ้างที่อาจจะหลงลืมไปบ้าง  ซึ่งน้องซีเกมส์ จะมีนิสัยเป็นคนเรียบร้อย รักสะอาด กิจวัตส่วนตัวจะทำเองทั้งหมด และช่วยงานบ้านงานเรือนแม่ไม่ต้องทำอะไรลูกชายทำเองทั้งหมด แต่ก็ต้องทำใจเพราะถ้าซักผ้ามีผงซักฟอกเท่าไหร่ก็จะใส่ทั้งหมดจนต้องเอามาซักใหม่ ทางด้านอารมณ์ถ้าจะเอาอะไรต้องเอาเดี๋ยวนั้น ต้องเอาให้ได้ทันที

นางวาสนา ผู้เป็นแม่ เล่าให้ฟังว่า สามีเสียชีวิตตั้งแต่ลูกชายอายุ 8 ขวบ เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ก่อนหน้านี้ตนยึดอาชีพเปิดร้านเสริมสวยที่บ้าน แต่มีปัญหากับลูกเนื่องจากลูกชายจะไปรบกวนลูกค้าและอาศัยช่วงจังหวะที่ตนทำงานแอบหนีออกจากบ้าน ต้องทิ้งให้ลูกค้ารอเป็นเวลานานเพราะไปตามลูกชายจึงตัดสินใจเลิกทำเสริมสวย จากนั้นตนก็ไม่มีรายได้อะไรอีกเลยที่จะเอามาดูแลครอบครัว จนเพื่อนบ้านได้เอาผ้าถุงมาให้ขายเพื่อเอาเปอร์เซ็นต์ได้เดือนละ 1,000 กว่าบาท  แต่โชคดีที่ตนไม่มีหนี้สิน ไม่เคยสร้างหนี้  จะมีเพื่อนบ้านนำข้าวสารมาให้บ้างเพื่อช่วยเหลือตน ส่วนเงินสวัสดิการคนจน

หรือเงินคนพิการของลูกชายตนก็ไม่เคยได้ เพราะผู้นำอ้างว่าลูกของตนปกติดี และตัวลูกชายเองได้เข้าเป็นสมาชิกชมรมของออทิสติก แต่ทางชมรมไม่ได้ช่วยเหลืออะไร นอกจากจะมีกิจกรรมแล้วประสานมาให้พาลูกชายเข้าร่วมกิจกรรมเท่านั้น ส่วนตัวลูกชายตนพาไปเรียนที่อำเภอทุ่งสงจนจบ ม.6  สำหรับการรักษาทุกวันนี้ลูกชายกินยาของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ซึ่งทางโรงพยาบาลจะส่งมาให้ที่โรงพยาบาลย่านตาขาว เพื่อสะดวกในการเดินทางไปรับยา

นางวาสนากล่าวด้วยนำตาว่า ตนเองไม่อยากกักบริเวณลูกชาย  เห็นสภาพลูกชายแล้วตนเสียใจมาก แต่ที่ต้องทำเพราะตนต้องทำมาหากินและไม่มีใครดูแลลูกชาย ตนกักบริเวณลูกชายตั้งแต่อายุ 12-13 ปี แต่เวลานานเข้าทำให้ลูกชายเกิดภาวะกดดันเกิดความก้าวร้าวทำลายข้าวของเรื่อยมา ปัจจุบันนี้ตนเองต้องปิดประตูขังลูกชายและตัวเอง 24 ชั่วโมง จากนั้นได้พาไปดูสภาพในตัวบ้านพบว่าฝาผนังบางส่วนโดนขีดเขียน ช่องลมกระจกแตก ข้าวของบางส่วนสภาพพังเสียหาย ตู้เย็นชั้นวางสิ่งของก็หัก หลุดเป็นชิ้น ๆ ภายในห้องนอนมีที่นอนติดกัน 2 หลังและใกล้กันเป็นห้องที่ผู้เป็นแม่ได้ขังน้องเอาไว้  นางวาสนาเล่าว่าก่อนหน้านี้เป็นฝ้าเพดานแต่ถูกลูกชายทุบทำลายแตกหมดเพื่อนบ้านจึงได้นำไม้กระดานมาตีปิดให้จนมิดชิด

ทุกวันนี้ลูกชายตนเองจะผวาและมีความกลัวจะไม่ยอมเข้ามาในห้องนี้อีกเลย  บางครั้งงัดกรงเหล็กหน้าต่างหนีออกจากบ้านแม่และชาวบ้านก็ต้องช่วยกันตามหา ช่วยกันนำตัวกลับมาบ้านตนเองอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานช่วยทำหนังสือยื่นเรื่องส่งลูกชายเข้ารับการรักษาบำบัดและดูแลความเป็นอยู่ในสถานสงเคราะห์อยากให้ช่วยดูแลลูกชายแบบถาวรเพราะตนเองอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ ลูกชายก็ก้าวร้าวขึ้นเรื่อย ๆ และตนเองก็ไม่มีญาติพี่น้องเลย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน