หัวหน้าชุดจับอสรพิษ หน่วยกู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ จ.ตรัง โชว์การจับงูจงอาง งูเห่าและงูเหลือมที่นำมาพักฟื้นที่หน่วยกู้ภัยฯ หากตัวไหนได้รับบาดเจ็บจะทำการรักษาจนหายขาด พร้อมหาอาหารมาให้กินจนแข็งแรงดีก่อนปล่อยคืนสู่ป่าเผยรักทุกตัวเหมือนลูก
กู้ภัยวังวิเศษ : วันนี้(13 ม.ค.64) ที่ศูนย์กู้ภัยบรรเทาวังวิเศษ มูลนิธิกุศลสถานตรัง หมู่ที่ 7 ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง นายไสว แก้วเจือ หัวหน้าชุดจับอสรพิษมือหนึ่งของมูลนิธิฯ ได้นำงูจงอางขนาดความยาวเกือบ 5 เมตร จำนวน 2 ตัวที่จับมาได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน จากบ้านเรือนของชาวบ้านในอำเภอวังวิเศษนำมาพักฟื้นไว้ที่ศูนย์กู้ภัยฯ
เนื่องจากงูจงอางได้รับบาดเจ็บ จึงต้องนำมาทำแผล ฆ่าเชื้อและใส่ยาให้จนกว่าจะหายเป็นปกติจึงจะนำไปปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติ ระหว่างนั้นจะมีการป้อนน้ำป้อนข้าวและเอาใจใส่เป็นอย่างดี เนื่องจากงูจงอางเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 เช่นเดียวกับงูเห่าและงูเหลือม แม้บางตัวจะดุร้าย แต่หากรู้เทคนิคในการดูแลเอาใจใส่ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย
โดยงูจงอางตัวแรกมีแผลถลอกตามลำตัวหลายแผล เพราะไปติดอวนที่ชาวบ้านดักไว้ข้างเล้าไก่ มันจึงดิ้นจนเป็นแผล พี่ไสวจึงต้องหมั่นทำความสะอาดทุกเช้าและเย็น ก่อนจะอาบน้ำใส่ยาและป้อนอาหารเป็นไส้ไก่ให้กินทุกวัน ส่วนงูจงอางตัวที่ 2 ที่เพิ่งจับมาได้เมื่อวานนี้ (12 ม.ค) ไม่มีบาดแผลใด ๆ แต่ค่อนข้างอ่อนเพลียอาจเนื่องมาจากอดอาหารหลายวัน จึงนำมาพักฟื้นเพื่อให้แข็งแรงก่อนจะปล่อยคืนสู่ป่าไปพร้อมกับงูเห่าอีก 2 ตัวและงูเหลือม 1 ตัว
นายไสวฯ เปิดเผยว่า ตนทำอาชีพกู้ภัยมานาน 7-8 ปีแล้ว ถ้าได้มาจะต้องปฐมพยาบาลก่อน ด้วยการใส่ยา บางตัวมีแผลแล้วปล่อยไปอาจติดเชื้อและตายได้ ส่วนแผลมาจากสาเหตุทะเลาะกันเองหรือชาวบ้านทุบตี โดยตนจับงูจงอางและงูมีพิษมาไม่ต่ำกว่า 300 ตัว ส่วนงูจงอางตัวที่ยาวที่สุดเกือบ 6 เมตร หนีแล้งมาซุกอยู่ในบ้านของตน
ซึ่งตนไม่เคยพลาดถูกฉกกัด แนะใจต้องนิ่งและอยากให้เขาปลอดภัยมากที่สุด โดยไม่มีเทคนิคอะไรและไม่เคยบนบานอะไร ซึ่งตนเชื่อว่าหากจับเขามาจะไม่ฆ่าเขา หากงูตัวไหนบาดเจ็บก็จะนำมาอนุบาลจนหายดีแล้วจึงปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติต่อไป.
