X

ชาวตรังแห่ชม”ว่านหางช้าง”ราชินีกล้วยไม้ที่ใหญ่สุดในโลก

ชาวตรังและนักท่องเที่ยวแห่กันไปชมความงาม ราชินีกล้วยไม้ที่ใหญ่สุดในโลก”ว่านหางช้าง” หรือ”ว่านเพชรหึง” ซึ่งออกดอกบานสะพรั่งแค่ปีละครั้งภายในศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง

ศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งอยู่เลขที่ 9 หมู่ 11 ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง   บริเวณทางเข้าตลอดสองข้างฝั่งถนน ได้มีการปลูกว่านเพชรหึง หรือที่บางคนเรียกว่า กล้วยไม้ยักษ์ กล้วยไม้เสือโคร่ง หรือที่ชาวปักษ์ใต้นิยมเรียกกันว่า ว่านหางช้าง กว่า 1,000 ต้น  นับเป็นราชินีแห่งกล้วยไม้ เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่มีดอกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยปีนี้ได้ออกดอกบานสะพรั่ง  ลวดลายสีสันสดใส สวยงามสะดุดตา  และยังส่งกลิ่นหอมอบอวน

ว่านหางช้าง หรือ ว่านเพชรหึง มีลักษณะเด่นคือ มีรากอากาศจำนวนมากหนาแน่น ส่วนดอกจะทยอยบานตั้งแต่ชั้นล่าง จนถึงชั้นบนสุดของช่อดอก โดยมีกลีบดอกหนา พื้นกลีบมีสีเหลืองอมเขียว และมีแต้มน้ำตาล   คล้ายกับลวดลายของเสือ ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-5 ซม. ใบกว้าง 3 ซม. ยาว 60 ซม. ซึ่งจะออกดอกและทยอยบานติดต่อกันนานถึง 3 เดือน ในช่วงกลางปี โดยจะออกดอกบริเวณยอด ครั้งละ 2-3 ช่อ แต่ละช่อจะมี 75-125 ดอก ทำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมความงดงาม และถ่ายภาพกันอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน เพราะหากพลาดในปีนี้แล้ว ก็จะต้องรอชมในปีถัดไป

นางสาวิตรี ศรีหมอก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กล่าวว่า ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อว่านหางช้าง หรือ ว่านเพชรหึง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในปีนี้จะเน้นการท่องเที่ยวแบบเชิงเกษตร ด้วยการเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจเข้าชมฟรี ภายในวันเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. อีกทั้งในเดือนสิงหาคมนี้ ก็เป็นเดือนแห่งวันแม่ จึงอยากจะฝากไปยังลูกๆ ทั้งหลายว่า หากยังไม่มีโปรแกรมจะนำคุณแม่ไปท่องเที่ยวที่ไหน ก็สามารถเดินทางมาชมว่านเพชรหึง ซึ่งปีนี้กำลังออกดอกงดงามบานสะพรั่ง พร้อมให้ทุกคนมายลโฉมกันแล้ว ไปจนถึงประมาณเดือนกันยายน

ปัจจุบันนี้ได้มีการปลดล็อก ว่านหางช้าง หรือ ว่านเพชรหึง ออกจากไม้หวงห้ามประเภท 2 จึงสามารถเพราะเลี้ยงขาย  ดังนั้นทางศูนย์ฯ จึงได้มีการขยายพันธุ์ต้นกล้า โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกตัดดอกขายเชิงการค้า รวมทั้งปลูกในสถานที่ต่างๆ หากมีผู้ที่สนใจอยากได้ต้นพันธุ์เพื่อนำไป ปลูกสามารถติดต่อขอรับได้ โดยนำบัตรประจำตัวประชาชนมายื่นต่อเจ้าหน้าที่  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หรือจะติดต่อมายังหมายเลขโทรศัพท์ (075) 582-312 และ (075) 582-313

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน