X

ตรัง ขึ้นป้ายขายบ้านสุดทนเสียงดังจากสถานบันเทิง

ตรัง ขึ้นป้ายขายบ้านสุดทนเสียงดังจากสถานบันเทิง 2 แม่ลูกชาวเทศบาลนครตรังสุดทน ขึ้นป้ายประกาศขายบ้าน พร้อมประจานหน่วยงานของรัฐ ที่ไม่แก้ปัญหาเสียงดังจากสถานบันเทิงทุกคืน จนล่าสุดต้องร้องไปยังสำนักนายกฯ หวังเป็นที่พึ่งสุดท้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ผู้ที่ขับขี่รถผ่านไปมายังหน้าบ้านเลขที่ 4/3 ถนนโคกขัน ในเขตเทศบาลนครตรัง หรือมุมฝั่งทิศเหนือ อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ อดีตเจ้าเมืองตรัง และบิดาแห่งยางพาราไทย  ต้องแปลกใจกับป้ายไวนิลขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่ทั้งหน้าบ้านริมถนน และภายในบ้าน โดยมีข้อความที่น่าตกใจว่า “กูไม่ได้นอน ใหญ่มาจากไหน ดังได้ทุกคืน ไม่มีน้ำยาจัดการปัญหา ไม่พร้อมแล้วเปิดทำไม”  ขณะเดียวกัน ป้ายดังกล่าวได้มีการบอกเลขที่หนังสือที่เคยมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานภาครัฐด้วย  ทั้งเทศบาลนครตรัง เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2561 แต่เรื่องเงียบไร้วี่แวว  นอกจากนั้น ยังมีป้ายเล็กๆ ที่มีข้อความประกาศขายบ้านหลังนี้ ทั้งที่อยู่อาศัยมานานกว่า 40 ปีแล้ว พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์สำหรับการติดต่อ

นางเจริญสุข พุฒนวล อายุ 66 ปี พร้อมกับ นายปิยวุฒิ พุฒนวล อายุ 34 ปี ลูกชาย ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้า แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ว่า  ชุมชนที่ตนเคยอาศัยอยู่อย่างสงบ แต่ช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา กลับเดือดร้อนอย่างหนัก  หลังจากมีสถานบันเทิงมาเปิดบริการอยู่ติดกับบ้านพัก ส่งเสียงดังทุกคืน และยิ่งดึกยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ  จนตนและลูกชายต้องโทรหา 191 ทุกคืน เพื่อขอร้องให้ตำรวจมาดู แต่ไม่ดีขึ้น  สถานบันเทิงดังกล่าวยังคงเปิดทำการ และส่งเสียงดัง ทั้งร้องทั้งเต้นกัน แบบไม่เกรงใจใครอยู่ทุกคืน  และมิหนำซ้ำยังมีรถยนต์ของนักเที่ยวมาจอดปิดทางเข้าออกหน้าบ้าน ตนก็ต้องเฝ้าระวัง ต้องคอยบอก คอยเตือน อยู่เสมอ  เพราะได้ป่วยเป็นโรคประจำตัว ทั้งไขมัน ความดัน เบาหวาน และหัวใจ ที่อาจจะต้องออกจากบ้าน เพื่อไป รพ.แบบฉุกเฉินได้ตลอดเวลา

โดยที่ผ่านมา ตนเองและลูกชายก็พยายามร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานภาครัฐ ทั้งเทศบาลนครตรัง และศูนย์ดำรงธรรม แต่เรื่องก็เงียบหาย  อย่างไรก็ตาม พวกตนก็ไม่ละความพยายาม ล่าสุดได้ร้องไปที่สำนักนายกรัฐมนตรี และกำลังรอคำตอบอยู่เช่นกัน  ทั้งนี้ ตนเองก็เข้าใจว่าเขาทำธุรกิจ อยากให้เขามีงานทำกัน  แต่ถ้ามาสร้างความเดือดร้อน จนตนเองอาศัยอยู่ไม่ได้ ก็คงไม่ถูกต้อง  โดยเฉพาะลูกชายของตนซึ่งทำงานเป็นสถาปนิก ต้องใช้เวลาคิดงานในช่วงกลางคืน และต้องใช้สมาธิสูง แต่กลับทำไม่ได้  เมื่อไม่มีงานส่ง ก็ไม่มีรายได้ และกลายเป็นคนตกงานในขณะนี้  ดังนั้น ตนเองจึงปรึกษากับลูกๆ ว่า จะยอมขายบ้านนี้ แล้วไปอาศัยอยู่ที่อื่น  ทั้งๆ ที่ตนก็ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ แต่เพื่อจบปัญหาทุกอย่าง เลยต้องจำใจ

ต่อมาเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองตรัง นำโดย นายศราวุฒิ ยนประสิทธิ์ ปลัดอำเภอเมืองตรัง (งานปกครอง) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง  ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบสถานบันเทิงที่ถูกร้องเรียน พร้อมกับพูดคุยกับสองแม่ลูกถึงปัญหาที่เกิดขึ้น  ก่อนที่ นายประสิทธิ์ จะกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า กรณีนี้ตนกำลังหารือกับผู้บังคับบัญชาอยู่ และใจจริงก็อยากให้อยู่กันได้ทั้งสองฝ่าย  อย่างไรก็ตาม เท่าที่ทราบสถานบันเทิงแห่งนี้ ยังไม่มีการขออนุญาติเปิดเป็นสถานบันเทิง แค่ขออนุญาติจำหน่ายบุหรี่และสุราเท่านั้น  พร้อมกับพูดกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าหนักใจว่า ก็ต้องหาทางออกร่วมกัน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่า ในช่วงที่สถานบันเทิงแห่งนี้เปิดทำการ จะมีรถของนักเที่ยวจอดเต็มถนน  ทั้งๆ ที่บางจุดเป็นที่ห้ามจอด เพราะเป็นทางโค้ง และมีการตีเส้นขาวแดง จนรถที่ใช้เส้นทางร่วมแทบไม่สามารถขับสวนกันได้  และถนนบางจุดก็ใช้สัญจรได้เพียงแค่ทางเดียว แต่กลับมีการจอดรถทั้ง 2 ฝั่ง โดยที่ไม่มีหน่วยงานใดออกมาดูแลปัญหาดังกล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน